กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--มาสเตอร์โพลล์
มาสเตอร์โพลล์ (Master Poll) ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง สำรวจความคิดเห็นของแกนนำชุมชนต่อ ความคืบหน้าในการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น โครงการรับจำนำข้าว
รศ.ดร.เชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล ประธานชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน (Thai Researchers in Community Happiness Association, TRICHA) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพลล์ (Master Poll) เรื่อง สำรวจความคิดเห็นของแกนนำชุมชนต่อความคืบหน้าในการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น โครงการรับจำนำข้าว กรณีศึกษาตัวอย่างแกนนำชุมชน จำนวนทั้งสิ้น 605 ชุมชน ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 12-15 พฤศจิกายน 2557
ผลสำรวจพบว่าตัวอย่างประมาณ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 31.1 ระบุติดตามข้อมูลสารเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่นในโครงการรับจำนำข้าวมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ร้อยละ 63.8 ระบุติดตามบ้าง และร้อยละ 5.1 ระบุไม่ได้ติดตามเลย ทั้งนี้เมื่อสอบถามต่อไปถึงการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อชดเชยปัญหาการขาดทุนในโครงการับจำนำข้าวนั้น พบว่ามากกว่า 2 ใน 3 คือร้อยละ 76.8 คิดว่าการออกพันธบัตรรัฐบาลจะช่วยได้ ในขณะที่ ร้อยละ 23.2 คิดว่าช่วยไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามพบว่าแกนนำชุมชนร้อยละ 43.3 ยังรู้สึกวิตกกังวลว่าการออกพันธบัตรของรัฐบาลเพื่อชดเชยการขาดทุนดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนด้านอื่นๆ ของประเทศ ในขณะที่ร้อยละ 56.7 ระบุไม่รู้สึกกังวล
และเมื่อสอบถามถึงผลงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในโครงการรับจำนำข้าวในขณะนี้นั้น ผลการสำรวจพบว่า แกนนำชุมชนร้อยละ 84.8 ระบุยอมรับในผลงานของรัฐบาลได้ เพราะมีความมั่นใจในรัฐบาลชุดนี้ มั่นใจในนโยบาย เชื่อมั่นในการทำงาน ได้รับรู้ได้เห็นว่าทำเพื่อประชาชน ทำตามสัญญา สามารถยุติความขัดแย้งได้ เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 15.2 ระบุยอมรับไม่ได้ เพราะ ยังไม่เห็นความคืบหน้า แก้ไขได้ยังไม่เต็มที่ แก้ไขไม่ตรงจุด กลัวว่าจะมีผลกระทบ เป็นต้น
ประเด็นที่น่าพิจารณาคือเมื่อสอบถามความคิดเห็นกรณีสิ่งที่อยากฝากถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเดินหน้าจัดการกับปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในโครงการรับจำนำข้าวนั้น พบว่า ร้อยละ 81.7 ระบุขอให้มีความเป็นกลางอย่างแท้จริง รองลงมาคือร้อยละ 76.2 ขอให้กระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างเคร่งครัด ร้อยละ 71.6 ระบุอย่าให้มีอำนาจใดมาอยู่เหนือความถูกต้อง ร้อยละ 70.2 ระบุขอให้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ร้อยละ 51.1 ระบุอย่าเกรงกลัวอิทธิพลของใคร ร้อยละ 47.3 ระบุให้เลิกเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง และร้อยละ 39.3 ระบุอย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร ตามลำดับ