ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่

ข่าวอสังหา Monday November 10, 2014 16:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่ ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เชียงใหม่โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยเริ่มเข้าสู่ภาวะทรงตัวแล้ว เนื่องจากตลาดเติบโตมาตั้งแต่ พ.ศ.2552 และขณะนี้นโยบายด้านสาธารณูปโภคต่าง ๆ ยังไม่ชัดเจน ในวันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2557 นี้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ได้รับเชิญจากสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัยไปบรรยายเกี่ยวกับ “ทิศทางตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยเชียงใหม่และภูมิภาค” ณ ห้องอิมพีเรียล บอลรูม โรงแรม ดิเอ็มเพรส เชียงใหม่ แต่ ดร.โสภณ ติดภารกิจกระทันหัน จึงได้ทำสรุปสถานการณ์นี้แทนคำบรรยาย ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่และปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน ได้สำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่มาตั้งแต่ พ.ศ.2537 หรือเมื่อ 20 ปีก่อน จนถึงปัจจุบัน และจากข้อมูลล่าสุดพบว่า มีจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยที่สำรวจได้ทั้งหมดถึง 368 โครงการซึ่งถือเป็นการสำรวจที่ครอบคลุมที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ โครงการที่อยู่อาศัยจำนวน 368 โครงการนี้มีมูลค่า 123,866 ล้านบาท จำนวน หน่วยขายรวม 46,349 หน่วย ๆ ละ 2.672 ล้านบาท ถูกกว่าราคาบ้านในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มีราคาขายประมาณ 3 ล้านบาท หน่วยขายทั้งหมดนี้ขายไปแล้ว 33,078 หน่วย หรือ 71% คงเหลือ 13,271 หน่วย ที่อยู่อาศัยทั้งบ้านแนวราบและอาคารชุด ส่วนมากขายอยู่ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ถึง 154 โครงการ รวม 18,518 หน่วย หรือ 42% ของทั้งหมด รวมมูลค่า 52,132 ล้านบาท หรือ 40% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด ส่วนอำเภอที่มีโครงการน้อยที่สุดคืออำเภอแม่ริม มีเพียง 15 โครงการ รวม 1,533 หน่วย หรือ 3% ของทั้งหมด มีมูลค่า 4,119 ล้านบาท หรือราว 3% ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดเช่นกัน อำเภอที่มียอดขายสูงสุดคืออำเภอดอยสะเก็ด จากหน่วยขายทั้งหมด 3,794 หน่วย ปรากฎว่าขายไปแล้ว 84% หรือ 3,181 หน่วย เหลือขายอยู่เพียง 613 หน่วยเท่านั้น ทั้งนี้เหตุผลหนึ่งก็คือบ้านในอำเภอนี้มีราคาค่อนข้างถูกคือเพียง 1.928 ล้านบาทโดยเฉลี่ย จึงคงทำให้ขายได้ดี นอกจากนั้นอีกอำเภอหนึ่งที่ขายได้มากแล้วก็คืออำเภอสารภี โดยขายได้แล้ว 2,187 หน่วย หรือ 82% จากหน่วยขายทั้งหมด 2,661 หน่วย ทั้งนี้ราคาบ้านในอำเภอนี้ก็ค่อนข้างต่ำคือ 2.470 ล้านบาทต่อหน่วย อาจกล่าวได้ว่าอำเภอที่มีราคาบ้านสูงสุดคืออำเภอสันทราย ซึ่งขายในราคา 3.012 ล้านบาท ซึ่งคงเป็นเพราะในอำเภอนี้มีบ้านเดี่ยวมากกว่าซึ่งมีราคาสูงกว่ามากกว่าในอำเภออื่นที่ตั้งอยู่รอบอำเภอเมือง และเป็นที่น่าสังเกตว่าอำเภอที่มีสัดส่วนที่ขายได้ต่ำสุดก็คืออำเภอสันกำแพง โดยขายได้เพียง 58% หรือ 3,332 หน่วยจากทั้งหมด 5,699 หน่วย สำหรับราคาบ้านในอำเภอสันกำแพงมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2.641 ล้านบาท สำหรับการขายแยกเป็นประเภทจะพบว่า 1. บ้านเดี่ยวราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ยังสามารถขายได้ดีพอสมควร แต่ควรทำในระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท 2. บ้านแฝดควรมีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทจึงจะขายได้ดี 3. ทาวนเฮาส์ที่ขายได้มีราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่ควรทำระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท 4. ตึกแถวขายได้ดีแทบทุกระดับราคา ทั้งนี้คงเป็นเพราะเป็นสินค้าเพื่อการทำธุรกิจ 5. ห้องชุดที่ขายได้ดีมีราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท และควรเปิดตัวโครงการที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท ในช่วงหลังที่ผ่านมาทรัพย์สินที่มีการเปิดเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด ควรมีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท เพราะตลาดเริ่มอิ่มตัว การขายบ้านราคาแพง จะมีคนซื้อจำนวนจำกัด ควรสร้างระดับราคาถูกเป็นหลัก ทั้งนี้ 45% ของสินค้าใหม่มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับในรายละเอียดสินค้าที่ผลิตออกมามาก ได้แก่ บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ส่วนอาคารชุดแทบไม่มีการเปิดตัวใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภาวะการตึงตัวของตลาด ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ขายสินค้าได้ประมาณ 9,724 หน่วย แยกเป็นบ้านเดี่ยว 4,539 หน่วย ทั้งนี้เป็นบ้านเดี่ยวราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทจำนวนถึง 2,937 หน่วย ห้องชุดในเชียงใหม่ขายได้แล้ว 3,797 หน่วย โดยส่วนมาก (2,141 หน่วย) เป็นห้องชุดราคาประมาณ 1-2 ล้านบาท หากพิจารณาถึงแนวโน้มแล้ว ตลาดที่อยู่อาศัยในเชียงใหม่เริ่มทรงตัว จุดขายด้านรถไฟความเร็วสูง หรืออาจรวมรถไฟรางคู่ในปัจจุบัน ก็ยังไม่ชัดเจนหรือยังใช้เวลาอีกนาน ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ที่ไปจากกรุงเทพมหานคร ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป ผู้ประกอบการท้องถิ่นยังอาศัยต้นทุนที่ดินถูกเข้าสู้ และผนวกกับการเป็นมืออาชีพ ยังสามารถต่อกรกับรายใหญ่ได้ อาคารชุดพักอาศัยก็ชักจะนิ่งเนื่องจากการอิ่มตัวอันเป็นผลจากการขยายตัวของตลาดนับแต่ปี 2552 เป็นต้นมา นอกจากนี้ผังเมืองยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาที่ดินอีกด้วย การลงทุนใหม่จึงควรศึกษาข้อมูลตลาดให้ดีพอ แผนที่แสดงที่ตั้งโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 368 โครงการ https://thaisocialwork.files.wordpress.com/2014/11/57-176cm.jpg ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ