กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์
ฟุตบอล คือ กีฬายอดฮิตสำหรับเด็กๆ และการขึ้นเป็นนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติ ก็คืออาชีพในฝันของเด็กหลายๆ คน แต่กว่าจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้ ต้องอาศัยความมุมานะ ไม่ย่อท้อในการวิ่งตามความฝัน ดังนั้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเยาวชนสู่ความสำเร็จทางด้านกีฬา ผลิตภัณฑ์ไมโล เครื่องดื่มรสช็อกโกแลตมอลต์ที่มีประโยชน์จากนม โดยบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด จึงจัด “แคมป์สุดยอดทีมไมโล” ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้น้องๆ ทีมเรารักบางพลัด จาก ร.ร. บางยี่ขันวิทยาคม ซึ่งชนะเลิศจากการแข่งขันไมโล จูเนียร์ ฟุตซอล แชมเปี้ยนส์ 2014 รุ่นอายุ 11-12 ปี ได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษจากโปรแกรมฝึกอบรมเพิ่มทักษะการเล่นฟุตซอลกับ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทยผู้นำทีมสร้างประวัติศาสตร์ในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งล่าสุด ณ สนามฟุตซอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต
ร้อยตำรวจโท ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย และตำนานนักฟุตบอลระดับประเทศ กล่าวย้อนหลังถึงอดีตที่มุมานะฝึกฝนด้วยตนเองเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ ว่า “ตอนผมเป็นเด็ก ผมไม่ค่อยได้มีโอกาส ไม่มีแรงสนับสนุนหรือกิจกรรมดีๆ ที่เปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้แบบนี้ มีแค่พ่อแม่ที่คอยให้กำลังใจ และตัวผมเองที่ต้องพยายามฝึกซ้อมด้วยตนเอง ผมอาศัยความขยัน ฝึกส่งบอลกับ เสาบ้านบ้าง กำแพงบ้านบ้าง ออกไปวิ่งทุกวัน 3 กิโลก่อนโค้ชมาไม่เคยขาด ด้วยความมีวินัยบวกกับที่ผมมีความใฝ่ฝันว่า สักวันผมจะต้องติดทีมชาติให้ได้ เมื่อเราฝันแล้ว เราต้องยึดติดกับความฝัน พยายามอย่างไม่ลดละ และอย่าปล่อยมันทิ้งไป”
ซิโก้ ยังกล่าวถึงเคล็ดลับสู่ความสำเร็จในงานปฐมนิเทศน์แคมป์ว่า “น้องๆ ที่มาร่วมแคมป์ในวันนี้ถือได้ว่าเป็นมีทักษะที่ดีเป็นสุดยอดของประเทศอยู่แล้ว แต่การที่น้องๆ จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ดีในอนาคต น้องๆ ต้องไม่หยุดการพัฒนาใน 3 ด้านหลักคือ หนึ่ง หมั่นฝึกซ้อมทักษะพื้นฐาน ‘เลี้ยง-ส่ง-โหม่ง-ยิง’ ให้แม่นยำ สอง ต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรง ต้องวิ่งได้ตลอด 120 นาที สร้างความแข็งแรงของร่างกายทุกส่วน รับประทานอาหาร 5 หมู่ และเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ เด็กไทยต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีนมเป็นส่วนผสม เพราะนมเป็นแหล่งของโปรตีนช่วยในการเจริญเติบโต และแคลเซียมซึ่งจำเป็นมากในการเสริมสร้างมวลกระดูก ผมอยากให้เด็กไทยสูง 180-190 ซม. จะได้สูสีเวลาลงสนามกับทีมชาติอื่น และ สาม ฝึกสมาธิ และสร้าง แรงบันดาลใจมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงจุดสูงสุดคือ ติดทีมชาติ และได้เล่นสโมสรที่ดีที่สุดในโลกนี้”
“ความสำเร็จจะเกิดขึ้นกับคนที่มีพรแสวง ถ้ามีพรสวรรค์แต่ขี้เกียจก็จะไม่ประสบความสำเร็จ หากน้องๆ อยากเป็นนักกีฬาระดับประเทศก็ต้องขยันและมีวินัยมากขึ้น การมาเข้าแคมป์นี้ น้องๆ ได้โอกาสเรียนรู้ทักษะและแนวคิดมากมาย และผมอยากให้น้องๆ มุ่งมั่นในเส้นทางสายฟุตบอล เพราะการเป็นนักกีฬาอาชีพเป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีรายได้ดี ได้ตอบแทนคุณแผ่นดิน ขอบคุณไมโล ที่จัดกิจกรรมดีๆ มีประโยชน์กับน้องๆ และพัฒนาวงการกีฬาของประเทศจริงๆ อยากให้น้องๆ หมั่นฝึกฝนเป็นประจำ แล้วทักษะต่างๆ จะติดตัวไปตลอดชีวิต สำหรับตอนนี้ผมใฝ่ฝันอยากเห็นเด็กไทยไปเตะระดับเยาวชนโลกให้ได้ เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงให้กับวงการฟุตบอลไทย” ซิโก้กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับกัปตันทีมเรารักบางพลัด น้องปูน ด.ช. จีรพันธ์ กำเหนิด อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียน บางยี่ขันวิทยาคม กล่าวอย่างมีความสุขว่า รู้สึกดีใจและโชคดีมากที่ได้เข้าแคมป์ในครั้งนี้ เพราะเป็นประสบการณ์พิเศษที่จะได้เรียนรู้และฝึกซ้อมแบบนักกีฬาทีมชาติที่หาไม่ได้จากที่ไหน กับโค้ชที่เก่งที่สุดในประเทศตอนนี้ ได้ฝึกทักษะที่จำเป็นต้องใช้ในสนาม ในฐานะกัปตันทีม ผมมั่นใจว่า แคมป์นี้จะช่วยผลักดันทีมให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จอีกขั้นหนึ่ง พวกผมจะมุ่งมั่นพัฒนาตนเอง รักษาวินัย ตั้งใจฝึกซ้อมกันมากขึ้นให้ไปถึงความฝันที่จะติดทีมชาติ”
“อยากให้เพื่อนๆ มาเล่นกีฬากัน เพราะจะช่วยให้มีระเบียบวินัย ห่างไกลยาเสพติด อย่างตัวผมกีฬาทำให้ผมไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ผมตื่นมาตอนเช้าตี 5 ก็จะมาวิ่งคนเดียว 30-60 รอบสนามเป็นประจำทุกวัน เพราะตอนเด็กที่ผมเริ่มเล่นตอน 7 ขวบ มีคนมาบอกว่าผมเล่นไม่เก่ง ผมก็เลยพยายามมากขึ้นจนวันนี้โค้ชเห็นความขยันและความรับผิดชอบจึงไว้ใจให้เป็นกัปตันทีม” น้องปูน กล่าวด้วยรอยยิ้ม
น้องพล ด.ช. จุมพล พันธวงค์ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนบางยี่ขันวิทยาคม กล่าวว่า เริ่มเล่น ฟุตซอลมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ตอนแรกเห็นว่า น่าสนุกดี พอได้มาเล่นเป็นทีม จึงชอบและใฝ่ฝันจะเล่นไปให้ถึงทีมชาติ และพยายามมุ่งมั่นซ้อมทุกวันตั้งแต่ตี 5-6 โมงเช้า ส่วนตอนเย็นหลังเลิกเรียนถึง 2 ทุ่ม
น้องพลเล่าต่อว่า “ผมมีเมสซี่เจ (ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักเตะทีมชาติไทย) เป็นไอดอล เพราะเค้าตัวเล็กและไวเหมือนผม การมาเข้าแคมป์นี้จึงได้ความรู้จากพี่ซิโก้ว่า ก่อนที่เมสซี่เจ จะมีรูปร่างบึก และได้ลงเล่นในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ต้องเล่นบอดี้เวทอย่างหนัก เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกาย ให้กล้ามเนี้อทุกส่วนแข็งแรง ไม่เฉพาะแค่กล้ามเนื้อขา และต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เสริมด้วยเครื่องดื่มที่มีนม เพื่อให้กระดูกแข็งแรง ผมจึงต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรงยิ่งขึ้น”
น้องโก้ ด.ช. ศิวะภพ จาตุรงค์สาโรช อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนบางยี่ขันวิทยาคม กล่าวด้วย สีหน้ายิ้มแย้มว่า การมาร่วมแคมป์ครั้งนี้ถือได้ว่าผมได้โอกาสพิเศษที่ไม่เหมือนคนอื่น ผมดีใจที่ได้มาซ้อม ได้ความรู้และทักษะใหม่ๆ เช่น ทักษะการจับบอลเพื่อให้เล่นในจังหวะสองได้เลย ทำให้รู้ว่า การมีวินัย และ ตรงต่อเวลาสำคัญที่สุด ผมจะพัฒนาตนเองให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ถ้ามีโอกาส ผมอยากมาฝึกซ้อมกับโค้ชทีมชาติไทยอีกครั้ง ผมมีความสุขมากครับ
“ผมเล่นฟุตซอลมาตั้งแต่ 7 ขวบ ผมอยากติดทีมชาติ และอยากลงเล่นกับทีมชลบุรีเอฟซี การได้มาแคมป์นี้ได้ฝึกกับพี่ซิโก้โดยตรง ทำให้รู้ว่า นักกีฬาอาชีพต้องผ่านการฝึกซ้อมอย่างหนัก มีวินัย ดูแลสุขภาพร่างกาย อาหารการกิน ดื่มเครื่องดื่มที่มีนมเป็นประจำทุกวัน ผมชอบดื่มไมโล เพราะอร่อยและมีนม และผมจะทำความฝันของผมให้เป็นจริงให้ได้” น้องโก้ เล่า
ความภูมิใจที่ได้เห็นน้องๆ ทีมเรารักบางพลัดได้มาเข้าแคมป์เก็บตัวกับโค้ชระดับประเทศเช่นนี้ คงไม่มีใครรู้สึกดีใจไปกว่าครูวีระศักดิ์ เพียรเจริญสิน หรือโค้ชวี อายุ 40 ปี โค้ชทีมโรงเรียนบางยี่ขันวิทยาคม ผู้ฝึกซ้อมน้องๆ มาตลอดจนได้รับชัยชนะ เผยความรู้สึกว่า “ที่น้องๆ ได้มีโอกาสมาวันนี้คุ้มค่ามาก เพราะ ทุกคนตั้งใจฝึกซ้อมเต็มที่ มีวินัย อย่างน้องปูน กัปตันทีม เป็นตัวอย่างที่ดีของทีม เพราะสามารถยืนหยัดด้วยตนเอง ที่บ้านลำบากมาก แต่น้องปูนก็มีความมุมานะและรับผิดชอบตัวเองทุกอย่าง ไม่มีขาดซ้อม แถมยังเป็นคนที่คอยเรียกเพื่อนๆ ให้มาซ้อมเป็นประจำด้วย ซึ่งทักษะนี้ไม่ได้แค่ใช้ในการเล่นกีฬาเท่านั้น ยังเป็นทักษะที่จะติดตัวน้องไปตลอดชีวิต และส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งคือการที่คุณพ่อคุณแม่ของน้องๆ คอยเป็นกำลังใจให้เด็กเสมอ”
นายอนุพงศ์ รณกรกิจอนันต์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไมโล กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์ไมโลต้องการเป็นแรงสนับสนุนหลักที่ส่งเสริมให้เยาวชนหันมาเล่นกีฬา เพื่อพัฒนาความแข็งแรงของร่างกาย ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ ฝึกฝน และรู้จักใช้ทักษะจากการเล่นกีฬา เช่น การควบคุมอารมณ์ ความมุ่งมั่นในการเล่นกีฬา การเล่นเป็นทีมเวิร์ค เพิ่มพูนมิตรภาพ ให้ทุกคนรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ได้นำเอาทักษะต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้เด็กๆ ได้รับโภชนาการที่มีประโยชน์พร้อมกับเครื่องดื่มที่ให้สารอาหารที่เหมาะสมเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์”
ไมโลขอเป็นหนึ่งพลังสนับสนุนให้น้องๆ เล่นกีฬา เพราะเชื่อว่า พื้นฐานที่ดีก้าวแรกจะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต จุดเริ่มต้นของน้องๆ เมื่อหลายปีก่อนกำลังเริ่มฉายแววเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ นักฟุตซอลรุ่นจิ๋วในวันนี้ อาจเติบโตขึ้นเป็นตำนานบทใหม่ให้วงการฟุตซอลและฟุตบอลไทยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้