กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--ธนาคารกสิกรไทย
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจบริการไพรเวทแบงค์ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผย ถึงภาพรวมเศรษฐกิจโลกและไทยว่า เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น จากการที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง รายได้และการบริโภคเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อัตราการว่างงานลดต่ำเหลือเพียง 5.8% คาดว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกาในปีนี้จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่กลุ่มประเทศยุโรป ยังมีความเสี่ยงเรื่องเงินฝืด แต่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวช้า จากมาตรการการกระตุ้นของธนาคารกลางยุโรป (ECB) การที่ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งขึ้น จะช่วยสนับสนุนการส่งออกของยุโรป ในส่วนของธนาคารพาณิชย์ของยุโรปก็มีแนวโน้มที่จะปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น สำหรับจีน แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลง แต่การปฏิรูปจะมีผลต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ส่วนประเทศไทย การเติบโตในปีหน้า จะขึ้นอยู่กับการใช้จ่ายภาครัฐ ภาวะเศรษฐกิจโลก และประเด็นทางการเมือง
สำหรับการลงทุนในปี 2558 คาดว่า ควรจะลงทุนแบบผสมผสาน และกระจายความเสี่ยง การลงทุนกองทุนหุ้นยังน่าสนใจกว่าการลงทุนในกองทุนในพันธบัตร โดยสำหรับสหรัฐอเมริกา กองทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ที่น่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของราคาอสังหริมทรัพย์ สำหรับยุโรป แม้เศรษฐกิจจะยังฟื้นตัวช้า แต่กองทุนที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เน้นการส่งออก และการบริโภค ยังน่าสนใจ สำหรับจีน เป็นประเทศที่น่าลงทุนรองจากสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมูลค่าพื้นฐานที่ยังต่ำ และมีความเสี่ยงของขาลงยังมีจำกัด ส่วนประเทศไทย ตลาดหุ้นยังดูแพง แต่สภาพคล่อง และบรรยากาศเอื้อตลาด
ตลาดทองคำ มีความน่าสนใจน้อย ไม่มีปัจจัยสนับสนุน การที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จะกดดันราคาทองคำต่อไป ดังนั้นการลงทุนในกองทุนทองคำยังไม่น่าสนใจมากนัก ในขณะที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงมามาก จึงคาดว่าราคาน่าจะฟื้นตัวช้า ๆ ดังนั้นกองทุนน้ำมันจึงน่าสนใจที่จะลงทุน
ลิงค์สำหรับดาวน์โหลด https://www.sendspace.com/file/z53wy7