กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แถลงถึงผลการพิจารณา กรณีกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และกรณีร้องขอให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง กรณีเสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .....ในประเด็นเกี่ยวกับที่มาของสมาชิกวุฒิสภาในส่วนของสมาชิกวุฒิสภา จำนวน ๓๘ คน
คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสียงข้างมาก เห็นว่า สำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงตามคำร้องขอให้ ถอดถอนในส่วนของ สมาชิกวุฒิสภา ออกจากตำแหน่งนั้น เป็นเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติวินิจฉัยและดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดจนเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะได้ยึดอำนาจการปกครองประเทศ และมีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557 เรื่องการสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ดังนั้น แม้รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 จะสิ้นสุดลง แต่การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีประกาศฉบับที่ 24/2557 ประกาศ ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2557 ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มีผลใช้บังคับต่อไป ประกอบกับคดีดังกล่าวมีข้อกล่าวหาที่ครอบคลุมถึงการกระทำความผิดที่ถูกถอดถอนตามกฎหมายอื่น นอกจากการร้องขอถอดถอนตามรัฐธรรมนูญที่สิ้นสุดไปแล้วด้วย จึงทำให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีมีการร้องขอให้ถอดถอน ผู้ดำรงตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ออกจากตำแหน่งได้ตามมาตรา 58 ทั้งต่อมาได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ซึ่งมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ได้บัญญัติให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประกอบด้วย สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าสองร้อยยี่สิบคน ทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้มีการตราข้อบังคับการประชุม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ.2557 กำหนดให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่ง ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งเป็นการดำเนินการถอดถอน ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 64 ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติให้ส่งรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริง พร้อมเอกสาร และความเห็นของเรื่องนี้ไปยังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป จำนวน ๓๘ รายประกอบด้วย
๑. นายประสิทธิ์ โพธสุธน ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 261
๒. นายสมชาติ พรรณพัฒน์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 262
๓. พลตำรวจตรี องอาจ สุวรรณสิงห์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 264
๔. นายดิเรก ถึงฝั่ง ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 265
๕. นายประวัติ ทองสมบูรณ์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 266
๖. นายกฤช อาทิตย์แก้ว ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 267
๗ นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธ์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 268
๘. พลตำรวจโท พิชัย สุนทรสัจบูลย์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 269
๙. นายโสภณ ศรีมาเหล็ก ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 273
๑๐. นายภิญโญ สายนุ้ย ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 274
๑๑. นายต่วนอับดุลเล๊าะ ดาโอ๊ะมารียอ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 275
๑๒. นายไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 276
๑๓. นายสุเมธ ศรีพงษ์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 277
๑๔. พันตำรวจโท จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 278
๑๕. นายสุรพงษ์ ตันธนศรีกุล ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 279
๑๖. นายพีระ มานะทัศน์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 280
๑๗. พลตำรวจเอก โกวิท ภักดีภูมิ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 281
๑๘. นายประดิษฐ์ ตันวัฒนะพงษ์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 282
๑๙. พลตรี กลชัย สุวรรณบูรณ์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 285
๒๐. นายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูล ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 286
๒๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วรวิทย์ บารู ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 287
๒๒. นายสุโข วุฑฒิโชติ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 290
๒๓. นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 292
๒๔. นายสุวิศว์ เมฆเสรีกุล ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 294
๒๕. นายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 295
๒๖. นายรักพงษ์ ณ อุบล ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 296
๒๗. นายบวรศักดิ์ คณาเสน ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 297
๒๘. นายจตุรงค์ ธีระกนก ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 298
๒๙. นายสุริยา ปันจอร์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 299
๓๐. นายถนอม ส่งเสริม ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 301
๓๑. นายบุญส่ง โควาวิสารัช ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 302
๓๒. นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 303
๓๓. นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 304
๓๔. นายวรวิทย์ วงษ์สุวรรณ์ ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 307
๓๕ นางภารดี จงสุขธนามณี ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 306
๓๖. พลโท พงศ์เอก อภิรักษ์โยธิน ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 308
๓๗. นายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 309
๓๘. นายวิทยา อินาลา ผู้ถูกกล่าวหา ลำดับที่ 310
จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน