กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--IR network
ผู้ถือหุ้น บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) พร้อมใจอนุมัติออกหุ้นใหม่ 200 ล้านหุ้น เพื่อรองรับ TDR และเข้าเทรดตลาดหุ้นไต้หวัน ในราคาไม่ต่ำกว่า 6.37 บาท “ขจรพงศ์ คำดี” เผยเตรียมนำเงินจากการระดมทุนสำรองไว้ซื้อเหมืองแห่งใหม่เพิ่ม ตามแผนธุรกิจที่ได้วางไว้
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยว่าที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2557 ได้มีมติอนุมัติให้ออก Taiwan Depository Receipts (TDR) หรือใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหุ้นสามัญของ EARTH ต่อประชาชนในประเทศไต้หวันจำนวนไม่เกิน 200,000,000 หน่วย และเสนอขายต่อผู้ลงทุนประเภทสถาบันและประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นนักลงทุนในประเทศสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ซึ่งราคาเสนอขายของ TDR จะเป็นไปตามที่ตกลงกันระหว่างบริษัท และผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์รายอื่นๆ โดยจะอ้างอิงกับสภาพของตลาดและสภาพเศรษฐกิจโดยรวมในขณะที่เสนอขาย TDR และเป็นไปตามอุปสงค์ของนักลงทุนในระหว่างกระบวนการ Book Building
ทั้งนี้ราคาเสนอขายดังกล่าวจะต้องไม่ต่ำกว่า 6.37 บาทต่อหุ้น และนำ TDR ดังกล่าวจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน (Taiwan Stock Exchange-TWSE) เพื่อให้นักลงทุนที่ถือ TDR ของบริษัทสามารถทำการซื้อขาย TDR ในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน
นอกจากนี้ยังอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จากทุนจดทะเบียนเดิม 4,439,103,137 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 4,639,103,137 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่เป็นจำนวน 200,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการออก TDR ด้วย
นายขจรพงศ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังได้อนุมัติจัดสรรหุ้นของบริษัท จำนวน 200,000,000 หุ้นคิดเป็นร้อยละ 6.75 ของทุนชำระแล้ว เพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งมิได้เป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกันในประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เป็น TDR
ทั้งนี้การเสนอขายจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คณะกรรมการกำกับตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขายหุ้นดังกล่าวทั้งในประเทศไทยและไต้หวัน
“บริษัทมีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนสำรองในการซื้อเหมืองใหม่ 3-5 แห่ง ตามแผนธุรกิจที่ได้วางไว้ และลงทุนด้านสาธารณูปโภคในเหมืองถ่านหิน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ”นายขจรพงศ์กล่าวในช่วงท้าย