โพลล์สำรวจความคิดเห็นต่อบริการและการปรับราคารถแท็กซี่

ข่าวทั่วไป Monday November 17, 2014 16:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษาร่วมแถลงผลการสำรวจความคิดเห็น ความพึงพอใจของประชาชนต่อบริการและการปรับราคารถแท็กซี่สาธารณะ ที่จะปรับขึ้นในเดือนธันวาคม 2557 จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,149 คน การสำรวจดังกล่าวสามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านข้อมูลทางประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 51.17 ขณะที่ร้อยละ 48.83 เป็นเพศชาย กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 25 ถึง 34 ปีและ 35 ถึง 44 ปี คิดเป็นร้อยละ 30.81 และร้อยละ 25.33 ตามลำดับ นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 34.38 จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นลูกจ้าง/พนักงานในห้างร้านหรือบริษัทเอกชนคิดเป็นร้อยละ 30.72 ในด้านพฤติกรรมการใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 36.38 ใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะอย่างน้อย 1 ถึง 2 วันต่อสัปดาห์ รองลงมาใช้บริการประมาณ 3 ถึง 6 วันต่อสัปดาห์คิดเป็นร้อยละ 30.9 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเกือบหนึ่งในห้าหรือคิดเป็นร้อยละ 19.06 ใช้เป็นประจำทุกวัน และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 13.06 ใช้บริการน้อยกว่า 1 วันต่อสัปดาห์ สำหรับสาเหตุสำคัญสูงสุด 5 อันดับในการใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะของกลุ่มตัวอย่างคือ ไม่สะดวกในการนำพาหนะส่วนตัวไป คิดเป็นร้อยละ 82.59 ไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คนในการใช้บริการ คิดเป็นร้อยละ 80.33 พาหนะมีความสะดวกสบาย คิดเป็นร้อยละ 77.46 เดินทางได้สะดวกรวดเร็ว คิดเป็นร้อยละ 75.46 และเข้าถึงจุดหมายปลายทางได้สะดวก คิดเป็นร้อยละ 72.67 ส่วนปัญหาสำคัญสูงสุด 5 อันดับที่กลุ่มตัวอย่างเคยพบจากการใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะได้แก่ ปฏิเสธการให้บริการ คิดเป็นร้อยละ 82.07 ปฏิเสธการให้บริการ คิดเป็นร้อยละ 79.55 ผู้ขับขี่แต่งตัว/พูดจาไม่สุภาพ คิดเป็นร้อยละ 74.5 ขับรถผิดเส้นทาง/ส่งผิดจุดหมาย คิดเป็นร้อยละ 73.02 และพาหนะเก่า/สกปรก คิดเป็นร้อยละ 69.36 นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เคยพบเห็นรถแท็กซี่สาธารณะจอดรับส่งผู้โดยสารกีดขวางการจราจรบ้างคิดเป็นร้อยละ 47.87 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างมากกว่าหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 39.77 ระบุว่าเคยพบเห็นเป็นประจำ ส่วนในกรณีที่มีรถแท็กซี่สาธารณะจอดรับส่งผู้โดยสารกีดขวางการจราจร กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 47.26 มีความคิดเห็นว่าควรเอาผิดกับทั้งผู้โดยสารและผู้ขับขี่รถแท็กซี่สาธารณะ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 29.07 ระบุว่าควรเอาผิดกับผู้โดยสาร ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 23.67 ระบุว่าควรเอาผิดกับผู้ขับขี่ ในด้านความคิดเห็นต่อการปรับขึ้นค่าบริการรถแท็กซี่สาธารณะ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 59.88 ทราบว่าจะมีการปรับขึ้นค่าบริการรถแท็กซี่สาธารณะในช่วงต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 นี้ แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 61.27 ยังไม่ทราบว่าจะมีการปรับอัตราค่าบริการรถแท็กซี่สาธารณะขึ้นไปประมาณ 50 สตางค์โดยเฉลี่ยต่อกิโลเมตรโดยคงค่าบริการเริ่มต้นไว้เท่าเดิม ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 47.08 มีความคิดเห็นว่าการปรับขึ้นค่าบริการรถแท็กซี่สาธารณะโดยเฉลี่ยประมาณ 50 สตางค์ต่อกิโลเมตรเป็นการปรับขึ้นราคาค่าบริการที่ไม่สูงเกินไป ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 41.38 มีความคิดเห็นว่าสูงเกินไป ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 11.58 ไม่แน่ใจ นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งหรือคิดเป็นร้อยละ 56.05 มีความคิดเห็นว่าการปรับขึ้นราคาค่าบริการรถแท็กซี่สาธารณะจะไม่ช่วยให้ปัญหาการปฏิเสธการรับผู้โดยสารลดลงได้ ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างไม่ถึงหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 32.81 มีความคิดเห็นว่าช่วยได้ แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 63.19 ระบุว่าการปรับขึ้นราคาค่าบริการรถแท็กซี่สาธารณะจะไม่ส่งผลให้ตนเองใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะน้อยลง ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 28.72 ยอมรับว่าจะส่งผลให้ใช้บริการน้อยลง
แท็ก แท็กซี่  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ