JMT ซื้อหนี้เสียเข้าพอร์ตเพิ่มอีก 6,458 ลบ. หนุนพอร์ตบริหารหนี้ทะลุเป้าอยู่ที่กว่า 5.7 หมื่นลบ. จากเดิมวางไว้ 5 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 18, 2014 15:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--IR PLUS JMT ซื้อหนี้ทะลุเป้า !!! ล่าสุด เซ็นสัญญากับบริษัทบริหารสินทรัพย์แห่งหนึ่งมูลค่า 6,458 ลบ. หนุนพอร์ตบริหารหนี้ปัจจุบันอยู่ที่ 5.7 หมื่นลบ. เกินเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 5 หมื่นลบ. เรียบร้อยแล้ว แถมอยู่ระหว่างประมูลซื้อหนี้เสียเข้าพอร์ตเพิ่มอีก 2 – 3 ดีล หนุน JMT แข็งแกร่งในอนาคต “ปิยะ พงษ์อัชฌา” เชื่อ ผลงานปี 58 กำไรสุทธิโตตามเป้า 40 – 50% ได้ไม่ยาก หลังผลงานไตรมาส 3/57 ออกมาสุดประทับใจ กำไร โต 110.21% นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ บริหารหนี้ด้อยคุณภาพระดับแนวหน้าของไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2557 บริษัท บริหารสินทรัพย์เจ จำกัด บริษัทย่อยของ JMT ได้ลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ด้อยคุณภาพของสินเชื่อส่วนบุคคล กับบริษัทบริหารสินทรัพย์แห่งหนึ่ง โดยสัญญามีมูลค่าหนี้เท่ากับ 6,458 ล้านบาท สนับสนุนการซื้อหนี้เข้ามาบริหารในปีนี้ของบริษัทฯ ให้เกินเป้าหมายที่วางไว้ โดยหนี้ก้อนดังกล่าวเป็นหนี้ที่บริษัทฯ ได้พิจารณาแล้วว่ามีคุณภาพ ได้รับอัตราผลตอบแทนที่คุ้มค่าและสูงกว่าอัตราต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ทั้งนี้ จากการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก บริษัทฯ ก็สามารถเดินหน้าซื้อหนี้เสียเข้าพอร์ตเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง และมากกว่าปกติ จากเป้าหมายเดิมจะซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารในปีนี้เพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท สนับสนุนพอร์ตบริหารหนี้สิ้นปี 2557 ให้อยู่ที่ 50,000 ล้านบาท จากปี 2556 มีพอร์ตบริหารหนี้อยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบัน บริษัทฯ ซื้อหนี้ทะลุเป้าหมาย มีพอร์ตบริหารหนี้อยู่ที่กว่า 57,000 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นทิศทางที่ดีของบริษัทฯ ในการรับรู้รายได้จากหนี้ดังกล่าวอนาคต ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/2557 คาดว่าจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของ JMT ในปีนี้ บริษัทฯ มีทิศทางเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2557 ที่ผ่านมาและช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการทยอยซื้อหนี้เสียเข้าพอร์ตเพิ่มอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี และบางส่วนจะเริ่มรับรู้เป็นรายได้ในช่วงปลายปี 2557 ส่วนการจัดเก็บหนี้ ก็สามารถทำได้ดีเกินกว่าที่คาดไว้ จึงมั่นใจ เป้าหมายกำไรสุทธิทั้งปี 2557 ที่วางไว้ จะเติบโตอีก 40 - 50% จากปี 2556 อยู่ที่ 75.08 ล้านบาท จะเป็นไปตามนั้นได้ไม่ยาก “เราซื้อหนี้เสียเข้ามาบริหารเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง จนทะลุเป้าหมายเดิมที่วางไว้ ปัจจุบัน JMT มีพอร์ตบริหารหนี้อยู่ที่กว่า 5.7 หมื่นล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับ ตั้งแต่ไตรมาส 2/2557 เป็นต้นไป บริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้เต็มจำนวนจากการตัดต้นทุนหนี้ก้อนโตก้อนแรกเสร็จสิ้น อีกทั้ง ก่อนหน้านี้สามารถตัดต้นทุนหนี้เสียได้เพิ่มเติมอีก2 – 3 กอง ซึ่งเป็นกองไม่ใหญ่มาก แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการจัดเก็บหนี้ของเรา ปัจจัยเหล่านี้เป็นส่วนสนับสนุนรายได้และกำไรของบริษัทฯ ที่จะเข้ามาอย่างแข็งแกร่งในอนาคต โดยหนี้ที่เราซื้อมาตั้งแต่ต้นปี จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงปลายปีนี้ส่วนหนึ่ง ส่วนหนี้ที่ซื้อมาตั้งแต่ช่วงกันยายนเป็นต้นไปจะรับรู้รายได้ในปีหน้า ไม่หมดเท่านี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างประมูลซื้อหนี้เสียเข้าพอร์ตเพิ่มเติมอีก 2 - 3 ดีล จึงมั่นใจว่าผลงานในปี 2557 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2558 จะเป็นปีที่ดีของเรา ” นายปิยะ กล่าว สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2557 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 33.35 ลบ. จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิอยู่ที่ 15.87 ลบ. คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 17.49 ล้านบาท หรือ 110.21% ส่วนผลงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 76.76 ลบ. จากช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่63.31 ลบ. คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 13.45 ล้านบาท หรือ 21.24% จากผลงานที่ออกมาบริษัทฯ มีกำไรเติบโตขึ้นเป็นผลจากบริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นไปตามที่คาดไว้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเราซื้อหนี้เสียเข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่อง และสามารถจัดเก็บหนี้ได้ตามเป้าหมาย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ