กรุงเทพ--8 ก.ค.--ธนาคารนครหลวงไทย
หลังจากมีการประกาศชื่อสถาบันการเงินทั้ง 16 แห่ง ที่มีปัญหาไปเมื่อ ตอนปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาบริษัทเงินทุน และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่เหลือ อีก 75 แห่ง ต่างได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อยต่างกันไป โดยเฉพาะบริษัทที่ไม่มี ธนาคารพาณิชย์ถือหุ้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.สม จาตะศรีพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ ใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่เป็นบริษัทแม่ของ บงล. เอส ซี เอฟ บงล.นครหลวงเครดิต และ บงล.สยามซิดตี้ ซินดิเคท กล่าวว่า บริษัททั้ง 3 ได้มีการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ผันผวนในตลาดเงินไว้อย่างเต็มที่ แล้ว และที่ผ่านมาธนาคารนครหลวงไทย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัททั้ง 3 ได้ ให้การสนับสนุนทุกๆ ด้านแก่ทั้งสามบริษัทอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
"ผมได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าและผู้ใหญ่หลายรายสอบถามถึงกรณีที่หนังสือ พิมพ์บางฉบับได้รายงานถึงแผนการเพิ่มทุนของบริษัทในเครือของธนาคาร ผมจึง ขอถือโอกาสนี้เรียนว่า บงล.นครหลวงเครดิต และบงล.เอส ซี เอฟ ได้มีแผนที่จะ เพิ่มทุนจริง ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของการแยกธุรกิจหลักทรัพย์ออกจากธุร กิจเงินทุน ซึ่งขณะนี้มีสถาบันการเงินและโบรกเกอร์จากต่างประเทศหลายราย เสนอที่จะเข้าร่วมลงทุนด้วย สำหรับ บงล.สยามซิตี้ ซินดิเคต ได้ส่งแผนเพิ่มทุนให้ แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย และ ก.ล.ต. เพื่อยื่นขอเข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ฯ บริษัทในเครือทั้งสามแห่งนี้ได้ประสานงานกับทางธนาคารนครหลวง ไทยอย่างใกล้ชิด และธนาคารได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่อยู่ตลอดเวลา อนึ่งใน ขณะนี้ธนาคารยังได้รับมอบหมายจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ช่วยดูแลบริษัทเงิน ทุนนอกเครือธนาคารอีก 2 แห่งเพิ่มเติมด้วย โดยในขณะเดียวกันธนาคารกำลังศึก ษาถึงความเป็นไปได้ของการควบกิจการของบริษัทเงินทุนในเครือตามนโยบาย ของทางการอยู่ด้วย ซึ่งจะทราบผลในเร็ววันนี้" ดร.สม กล่าวในที่สุด--จบ--