กรุงเทพ--30 ก.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
โรงพยาบาลดำเนินสะดวก ราชบุรี ใช้เวลาเพียง 30 นาทีคืนดวงตาสร้างโลกอันสดใสให้กับผู้ที่อยู่ในโลกมืดที่มีสาเหตุมาจากต้อกระจกตั้งเป้า 100 รายฟรีโดยไม่คิดมูลค่า ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยมีแผลเท่ารูเข็ม พร้อมเชิญชวยผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคซื้อเลนซ์แก้วตาเทียมเพื่อช่วยคนไทยด้วยกัน
นายสรอรรถ กลิ่นประทุม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมการผ่าตัดสลายต้อกระจกด้วยอัลตราซาวด์ แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้องในจังหวัดราชบุรี ที่โรงพยาบาลดำเนินสะดวก ราชบุรี ว่า โครงการสลายต้อกระจกด้วยอัลตราซาวด์ เป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่สู่ภูมิภาค โดยกรมการแพทย์มอบหมายให้โรงพยาบาลสงฆ์ โรงพยาบาลราชวิถี และโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เป็นผู้นำในการถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาค ทั้งนี้เทคโนโลยีใหม่นี้มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาผู้ป่วยโรคตาต้อกระจก โดยใช้คลี่นความถี่สูงเข้าไปสลายเลนต์ตาที่เสื่อม แล้วดูดออก และใส่เลนซ์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่ ทำให้มองเห็นเป็นปกติได้เร็ว ด้วยเวลาการผ่าตัดเพียง 30 นาที มีรอยแผลเท่ารูเข็ม สามารถชุบชีวิตในโลกมืดของผู้ป่วยโรคตาต้อกระจกให้สดใสมองโลกสวยดั่งเดิม หลังผ่าตัดสามารถกลับบ้านได้เร็ว มีระยะพักฟื้นเพียง 1 สัปดาห์ ก็สามารถทำงานได้ตามปกติ ต่างจากแบบเก่าใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง ต้องพักฟื้นนาน 2-3 เดือน ด้วยวิธีสมัยใหม่นับว่าได้ผลกับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ทางกรมการแพทย์จะได้ขยายการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ไปยังจังหวัดอื่นต่อไป
นายสรอรรถ กล่าวว่า ในประเทศไทยมีคนตาบอดจากทุกสาเหตุ 186,000 ราย ในจำนวนนี้ 74% มีสาเหตุจากโรคตาต้อกระจก ซึ่งเกิดจากการเสื่อมของเลนส์ พบมากในผู้สูงอายุ ประมาณว่าคนไทย 1,000 คนจะพบผู้ป่วยตาต้อกระจก 1 คน ในอนาคตเมืองไทยจะมีผู้สูงอายุมากขึ้น ปัญหาโรคตาต้อกระจกเพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้น การที่กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการผลิตจักษุแพทย์ กระจายจักษุแพทย์เครื่องมือที่ทันสมัยสู่ชนบท หรือหมุนเวียนจักษุแพทย์ให้บริการประชาชนในจังหวัดที่ไม่มีจักษุแพทย์ นับเป็นการแก้ปัญหาตาบอดจากต้อกระจกได้
นายสรอรรถ กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลดำเนินสะดวก มีจักษุแพทย์ 2 คน สำหรับการบริการตามโครงการซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ทางโรงพยาบาลดำเนินสะดวกร่วมกับทีมจักษุแพทย์ กรมการแพทย์ ทำการสลายต้อกระจกให้กับประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า จำนวน 100 ราย พร้อมทั้งมอบแว่นสายตาให้กับผู้ที่มีปัญหาสายตาอีก 400 ราย ดังนั้นการที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีความรู้ความชำนาญในการตรวจรักษาพยาบาลผู้ป่วย ที่ผ่าตัดสลายต้อกระจกและแก้ปัญหาตาบอดจากต้อกระจก ให้สามารถมองเห็นได้รวดเร็ว ย่อมทำให้ประชาชนในชนบทสามารถเข้าถึงบริการของรัฐ ไม่เสียเวลามารักษาในเมือง และเป็นการแก้ปัญหาผู้ป่วยโรคตาต้อกระจกในภูมิภาคได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวมักเกิดกับผู้สูงอายุลูกหลานจึงควรใส่ใจผู้สูงอายุในบ้าน หากพบว่ามีอาการตามัว ปวดตา ตาพร่า ควรรีบพบจักษุแพทย์ สำหรับผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป ควรพบจักษุแพทย์ปีละ 1 ครั้ง ส่วนผู้ที่ต้องการบริจาคเลนซ์แก้วตาเทียม เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในโลกมืดสามารถมองโลกสดใสมีชีวิตชีวาได้ดั่งเดิม สามารถบริจาคได้ที่มูลนิธิโรงพยาบาลดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี โทร.032-253102, 241103-4 หรือที่กองทุนสมเด็จพระสังฆราช เพื่อช่วยผู้ป่วยตาต้อกระจก โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) จังหวัดนครปฐม 73210 หรือโทร. 034-321983-5, 321244--จบ--