กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ร่วมกับ สวนนงนุช พัทยา สร้างสรรค์สวนสวยสุดอลังการ จัดงาน “The Garden2014” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ตระการตาพรรณไม้น้ำ เสน่ห์แห่งพฤกษา” มอบความสุขให้คนรักธรรมชาติได้มาสัมผัสกับพรรณไม้น้ำและพรรณไม้ชายน้ำนานาชนิดที่นำมาประดับตกแต่งอย่างสวยงามทั่วบริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ตั้งแต่วันที่ 13-23 พฤศจิกายน 2557
ภายในงานได้เนรมิตศาลาทรงไทยประยุกต์ท่ามกลางบรรยากาศอันชุ่มฉ่ำของสวนไม้สไตล์ทรอปิคอล โอบล้อมไปด้วยพรรณไม้น้ำและพรรณไม้ชายน้ำหลากสายพันธุ์ โดยหนึ่งในไฮไลต์ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ร่วมงาน คือ การได้ชื่นชมความงดงามของ “บัว” พรรณไม้ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งไม้น้ำ และจากการบอกเล่าของ ผศ. ดร. ณ. นพชัย ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการสถานีวิจัยบัวและถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก กล่าวว่า “บัวเป็นชื่อเรียกของไม้น้ำชนิดหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตและความเชื่อทางศาสนา มายาวนาน โดยทางพระพุทธศาสนาเชื่อว่าดอกบัวเสมือนตัวแทนของความบริสุทธิ์และปราศจากกิเลส เพราะแม้ว่าบัวจะเกิดใต้โคลนตมแต่ก็สามารถโผล่พ้นผิวน้ำ เปรียบได้กับผู้หลุดพ้นจากความทุกข์ กลายเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน คนไทยจึงนิยมใช้ดอกบัวเป็นสัญลักษณ์ในการบูชาพระและประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์”
ถ้าจะพูดถึงสายพันธุ์บัวในปัจจุบัน ผศ. ดร. ณ. นพชัย แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ บัวหลวง ซึ่งเป็นสายพันธุ์บัวพื้นเมืองของไทย ก้านดอกและใบชูเหนือน้ำ ส่วนมากพบดอกสีชมพูและสีขาว นิยมนำดอกมาบูชาพระ อีกประเภท คือ บัวสาย เป็นสายพันธุ์บัวที่พบทั่วโลก ลักษณะใบลอยน้ำ ดอกมีสีสันหลากหลาย สำหรับในงาน “The Garden 2014” ได้นำความสวยงามของราชินีแห่งไม้น้ำมาให้ชื่นชมกว่า 20 สายพันธุ์ อาทิ บัวเอทรานส์ หรือบัวยักษ์ออสเตรเลียที่มีขนาดของดอกใหญ่ที่สุดในโลก และบานได้นาน 5-6 วัน ซึ่งในแต่ละวันกลีบดอกจะค่อยๆ เปลี่ยนเฉดสีที่แตกต่างกันไป โดยกลีบดอกสีขาวจะเปลี่ยนเฉดเป็นสีชมพูและบานเย็น ส่วนกลีบดอกสีฟ้าจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินและม่วง
บัวดวงตาสวรรค์ ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดบัวโลก จาก International Water Centre (IWC) ประเทศ สหรัฐอเมริกา ในปี 2012 เป็นสายพันธุ์บัวผันยักษ์กลีบซ้อน ขนาดดอกเป็นทรงดาวไล่สีจากขาวไปจนถึงน้ำเงินที่ปลายกลีบ ส่วนใบเป็นสีแดงอมม่วง บัวจงกลนี สายพันธุ์ที่เกิดตามธรรมชาติ ตามประวัติศาสตร์เล่าว่าเป็นบัวที่ เกิดในสมัยสุโขทัยเมื่อประมาณ 700 ปี ลักษณะดอกตูม ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ บานตลอดทั้งวัน นานประมาณ 5 วัน ถือเป็นสายพันธุ์หายากที่พบได้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
บัวมิลค์กี้ เวย์ หรือบัวทางช้างเผือกได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดบัวโลกปี 2014 จากสมาคมบัวและไม้น้ำนานาชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ลักษณะกลีบดอกมีสีเหลืองนวล ความโดดเด่นอยู่ที่ลายแถบสีชมพูที่แต่งแต้มประปรายในกลีบดอก กลิ่นหอมและออกดอกตลอดทั้งปี บัววิกตอเรีย หรือบัวกระด้งที่มีขนาดของใบใหญ่ที่สุดในโลก ใบลอยแตะผิวน้ำ ใบและก้านใบมีหนามแหลม มี 2 สายพันธุ์ ได้แก่ ‘บัววิกตอเรีย อมาโซนิกา’ ขนาดใบมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 3 เมตร พบได้ตามหนองน้ำตื้นๆ ของแม่น้ำอะเมซอน และ ‘บัววิกตอเรีย สายพันธุ์อังกฤษ’ ขนาดใบมีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 1.5 เมตร มีขอบกระด้งสูงราว 1 คืบ สามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 32 กิโลกรัม
นอกจากนี้ยังมีบัวคู่หยินหยาง 'สุวรรณา' และ 'เพชรชมพู’, บัวแทนซาไนท์ และบัวบูลล์อายส์ เป็นต้น อีกทั้งภายในงานยังตกแต่งไปด้วยพรรณไม้น้ำและไม้ชายน้ำรูปทรงสวยงาม เช่น บอนดำ ซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นพรรณไม้น้ำแห่งปีAquatic Plant of The Year 2003 จากสมาคมบัวและไม้น้ำนานาชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ลักษณะก้านใบยาวชูสูงขึ้นจากดิน สีแดงเข้มจนเกือบดำ ใบขนาดใหญ่คล้ายรูปหัวใจสีดำ ว่านเพชรหึง จัดเป็นสายพันธุ์กล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พบมากในจังหวัดตรัง ปัจจุบันถือเป็นพันธุ์ไม้ราคาแพงที่มีผู้นิยมปลูกจำนวนมาก
เขียวหมื่นปี หรือแก้วกาญจนา ถือเป็นราชาแห่งไม้ประดับที่นิยมปลูกเพื่อความสวยงามและเป็นไม้มงคล อีกทั้งมีประสิทธิภาพในการช่วยดูดสารพิษบางประเภท จึงเหมาะสำหรับปลูกในบ้าน หลิวย้อย เป็นพรรณไม้ยืนต้น มักขึ้นอยู่ตามริมแม่น้ำ ชาวจีนเชื่อว่าต้นหลิวนั้นเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภ ความสุข ความร่ำรวย การได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง และยังเป็นพืชวิเศษที่ชาวจีนเคารพบูชาอีกด้วย รวมทั้งยังมีพรรณไม้น้ำอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มหาหงส์ กระดิ่งนางฟ้า สไบนาง กกอียีปต์ ฯลฯ
ในปีนี้ ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ยังได้ร่วมกับกรมป่าไม้ จัดกิจกรรมแจกกล้าไม้กว่า 2,000 ต้นให้กับผู้มาร่วมงาน เฉพาะในวันที่ 13 -14 พ.ย. และวันที่ 17-21 พ.ย. ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนขอรับกล้าไม้ได้ที่บริเวณงาน และยังมีกิจกรรมเวิร์กช้อปประดิษฐ์สิ่งของจากวัสดุเหลือใช้ สำหรับงาน The Garden 2014 จัดตั้งแต่วันที่ 13-23 พฤศจิกายนนี้ ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์