กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
TAKUNI เร่งศึกษาเตรียมขยายตลาดการค้าก๊าซ LPG ในประเทศในกลุ่มประเทศ AEC โดยเน้นเฉพาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV หลังกรมธุรกิจพลังงานเปิดทางคู่ค้ามาตรา 7 ส่งออก LPG ไปประเทศเพื่อนบ้านอย่างเสรี ประกอบกับความต้องการทางด้านเชื่อเพลิงและพลังงานในกลุ่มประเทศ CLMV ยังมีความต้องการค่อนข้างมากเนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศตอนนี้โตต่อเนื่อง
นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ TAKUNIหนึ่งในผู้ประกอบการจัดจำหน่ายก๊าซ LPG ตามมาตรา 7 หลังจากที่กรมธุรกิจพลังงานได้ให้ผู้ค้ามาตรา 7 ของไทยสามารถส่งออกก๊าซหุงต้ม (LPG) ได้อย่างเสรี โดยขณะนี้ทางบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการศึกษาความพร้อมและตลาดโดยรวมของกลุ่มประเทศใน AEC โดยเบื้องต้นประเมินว่าบริษัทฯคงมุ่งศึกษาไปในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านหรือกลุ่มประเทศ CLMV ก่อนโดยเฉพาะ 3 ประเทศ ที่ติดกับชายแดนไทยได้แก่ เมียนมาร์ กัมพูชา และประเทศลาว
“การที่กรมธุรกิจพลังงานได้ให้ผู้ค้ามาตรา 7 ของไทยสามารถส่งออกก๊าซ LPG ได้อย่างเสรี ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยลดลักลอบส่งออก LPG ที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากประเทศรอบๆ ชายแดนไทยยังขาดแคลนเชื้อเพลิงในด้านพลังงานไปใช้โดยเฉพาะ LPG ซึ่งมีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับราคาก๊าซ LPG ที่จำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่า บริษัทฯจะได้รับโอกาสในการขยายธุรกิจในการจำหน่ายก๊าซ LPG ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ทางบริษัทฯเพียงแค่จำหน่ายในประเทศเท่านั้น ” นางสาว นิตา กล่าว
นางสาวนิตากล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯได้เคยศึกษาถึงตลาดในต่างประเทศมาบ้างแล้วซึ่งพอจะเห็นโอกาสที่เราจะมีโอกาสขยายตลาดไปต่างประเทศ แต่ที่ผ่านมาก็ต้องรออนุญาตให้กรมธุรกิจพลังงานพิจารณาอนุญาตเสียก่อน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ บริษัทฯก็พอจะคุ้นเคยตลาดก๊าซ LPG ในต่างประเทศบ้างโดยการที่บริษัทฯ ได้รับจ้างขนส่งให้กับผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตในการขายก๊าซ LPG ไปต่างประเทศ
นางสาวนิตากล่าวต่อว่า ในส่วนของสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 นี้ รายได้หลักยังคงมาจากการจำหน่ายและขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว คิดเป็น 95% ส่วนรายได้ที่เหลือ อีก 5% มาจากการบริการติดตั้งระบบก๊าซและจำหน่ายอุปกรณ์ และบริการตรวจสอบความปลอดภัยทางวิศวกรรม โดยในปัจจุบันทางทาคูนิ กรุ๊ป มียอดขายก๊าซ LPG เฉลี่ยเดือนละ 4,500 –5,200 ตัน ปัจจุบันบริษัท มีคลังบรรจุก๊าซ LPG อยู่ที่พิจิตรที่รองรับกลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่ ภาคเหนือตอนบน หรือภาคกลางตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดพิจิตร สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร เป็นต้น