กรุงเทพ--27 พ.ค.--เพาเวอร์-พี
นายวีระชัย เอื้อวิไลจิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพาเวอร์-พี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาสแรกของปีนี้ว่า บริษัทฯ สามารถดำเนินการมีกำไรสุทธิ 12.708 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าไตรมาสเดียวกันในปี 2538 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 4.979 ล้านบาท ถึง 155% โดยคิดเป็นกำไรต่อหุ้นใน ไตรมาส 1/2539 0.61 บาท ในขณะที่ไตรมาส 1/2538 มีกำไรต่อหุ้น 0.24 บาท
สำหรับสาเหตุที่บริษัทฯ สามารถดำเนินการมีผลกำไรสุทธิสูงขึ้นถึง 155% เนื่องจากภาครัฐมีโครงการขยายระบบสาธารณูปโภคมากมายหลายโครงการ และ ในภาคเอกชนก็มีการก่อสร้างอาคารสูง และโรงงานเกิดขึ้นมาก ประกอบกับบริษัทฯ มีการพัฒนาบุคลากรและเครื่องจักรที่ทันสมัย ทำให้สามารถรับงานได้เพิ่มมากขึ้น ไม่ ว่าจะเป็นงานฐานรากเสาเข็มตอก เสาเข็มเจาะ และการทำฐานรากแบบใหม่ Jet Grouting สำหรับแก้ปัญหาดินอ่อน ด้วยการอัดฉีดพ่นคอนกรีตลงไปในดิน และ กวนดินไปพร้อมกันด้วยความเร็วสูง บริษัทฯ จึงมีรายได้รวมไตรมาสแรกนี้ 308.226 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าไตรมาสแรกของปี 2538 ถึง 32.065 ล้านบาท โดยมีต้นทุน และค่าใช้จ่ายในไตรมาสแรกปีนี้ 295.517 ซึ่งสูงกว่าไตรมาสเดียวกันในปี 2538 21.336 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทฯ มีความสามารถในการผลิตเสาเข็มเจาะถึง 400,000 คิวบิกเมตรต่อปี และยังได้สั่งซื้อเครื่องเจาะรุ่นใหม่เข้ามาอีก 2 ชุด จากประเทศ ญี่ปุ่น และอิตาลี่ มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อให้สามารถรับงานได้เพิ่มมากขึ้น สำหรับเสาเข็มตอกมีกำลังการผลิตประมาณ 108,000 คิวบิกเมตรต่อปี และมีเครื่อง มือ Jet Grouting ทั้งหมด 3 ชุด โดยในปีนี้บริษัทฯ มีงานแล้วทั้งสิ้น 14 งาน อาทิ โครงการดอนเมืองซิตี้ บางกอกโฮม ดุสิตคอนโดมิเนียม อาคารเอื้อวัฒนสกุล อาคารสำนักงานใหญ่บริษัทผลิตไฟฟ้า โรงแรมแมนดาริน เป็นต้น และยังอยู่ในขั้น ตอนการติดต่อเจรจาอีกหลายโครงการ--จบ--