กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โชว์ผลประกอบการ 9 เดือน ของปี 2557 เติบโตต่อเนื่อง ทั้งด้านเบี้ยประกันภัยรับปีแรก และ ด้านเบี้ยประกันภัยรับรวม โกยเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจากทุกช่องทางแตะ 3.9 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 5.3% เบี้ยประกันภัยรับรวมจากทุกช่องทางอยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มั่นใจปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายมาจากการเติบโตอย่างสมดุลในทุกช่องทางการขาย ซึ่งต่างเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพ พร้อมเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งทั้ง 3ช่องทางการขาย ปูทางสู่เป้าหมายผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพของประเทศไทย
นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปิดไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ อลิอันซ์ อยุธยา สามารถโชว์ผลงานที่ดีเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจากทุกช่องทางอยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 5.3% และเบี้ยประกันภัยรับรวมจากทุกช่องทางอยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยช่องทางตัวแทนยังคงเป็นช่องทางที่ทำรายได้สูงสุด มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1.3 พันล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวม9.7 พันล้านบาท ช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์สร้างยอดเบี้ยประกันรับปีแรก 1.2 พันล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวม5.1 พันล้านบาท ขณะที่ช่องทางการตลาดขายตรง ยังคงครองแชมป์ยอดเบี้ยสูงสุดในตลาดเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ด้วยเบี้ยประกันภัยรับปีแรกรวม 1.1 พันล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวม 3.3 พันล้านบาท
“สำหรับทิศทางในการดำเนินธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2557 นี้ อลิอันซ์ อยุธยา ยังคงให้ความสำคัญกับทุกกระบวนการของการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะเป็น “ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพในตลาดประเทศไทย” ที่พร้อมมอบ “การบริการที่เป็นเลิศ” (Service Excellence) แก่ลูกค้า ฝ่ายขาย และพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเฉพาะในส่วนของช่องทางตัวแทน ซึ่งเป็นช่องทางการขายที่ใหญ่ที่สุดนั้น มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงตามแผนที่วางไว้ เพื่อนำช่องทางตัวแทนนี้ ก้าวสู่การเป็นท็อป 3 ของธุรกิจประกันชีวิตไทยภายในปี 2560” นายสมิธ กล่าวสรุป
ขณะเดียวกัน กลุ่มอลิอันซ์ ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหลักของ อลิอันซ์ อยุธยา รายงานผลประกอบการเฉพาะไตรมาสที่สาม ของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้รวมเติบโตขึ้น 14.5 %แตะที่ 28.8 พันล้านยูโร (1.2 ล้านล้านบาท) จาก 25.1 พันล้านยูโร (1.04 ล้านล้านบาท) ผลกำไรจากการดำเนินงานเติบโตขึ้น 5.2% อยู่ที่ 2.7 พันล้านยูโร (1.1 แสนล้านบาท) จาก 2.5 พันล้านยูโร (1.04 แสนล้านบาท) รายได้สุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นเติบโตขึ้น 11.2% อยู่ที่ 1.6 พันล้านยูโร ( 66.6 พันล้านบาท) จาก 1.5 พันล้านยูโร (59พันล้านบาท)
ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยรายได้รวมเติบโตขึ้น 9.8% แตะ 92.2 พันล้านยูโร (3.8 ล้านล้านบาท) จาก 84.0 พันล้านยูโร (3.5 ล้านล้านบาท) ผลกำไรจากการดำเนินงานเติบโตขึ้น 6% มาอยู่ที่ 8.1 พันล้านยูโร (3.4 แสนล้านบาท) จาก 7.7 พันล้านยูโร (3.2 แสนล้านบาท) รายได้สุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 5.5% มาอยู่ที่ 5 พันล้านยูโร (2.1 แสนล้านบาท) จาก 4.7 พันล้านยูโร (1.93 แสนล้านบาท)
กลุ่มธุรกิจประกันวินาศภัยถือว่าทำผลงานได้ดีอีกครั้งในไตรมาสนี้ โดยมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งในส่วนของรายได้และผลกำไรจากการดำเนินงาน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ผลกำไรจากการดำเนินงานเติบโตมาจากการรับทำประกันภัยเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่วนกลุ่มธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ มียอดเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นเกือบ 25% ขณะเดียวกัน ในกลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสที่สาม เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเมื่อเทียบกับไตรมาสที่หนึ่งและไตรมาสที่สองของปี 2557
จากตัวเลข ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 อัตราส่วนเงินกองทุนของกลุ่ม ตามแนวทางของสหภาพยุโรปEuropean Solvency I อยู่ที่ 184% แข็งค่าขึ้น 3 จุด เมื่อเทียบกับตัวเลข ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 โดยสัดส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 16.2% อยู่ที่ 58.2 พันล้านยูโร (2.4 ล้านล้านบาท) จาก 50.1 พันล้านยูโร (2.1 ล้านล้านบาท) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556
“การเติบโตภายในที่แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจประกันวินาศภัย บวกกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในผลิตภัณฑ์ และผลกำไรจากการดำเนินงานที่ดีในกลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์ได้แสดงให้เห็นว่า เรากำลังเดินมาถูกทางแล้วในปี 2557 นี้” นายดีเทอร์ เวมเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการเงิน กลุ่มอลิอันซ์ กล่าวและว่า “ผลประกอบการของเราในไตรมาสนี้ ถือเป็นการยืนยันการคาดการณ์ของเราว่าจะสามารถพิชิตเป้าหมายผลกำไรจากการดำเนินงานที่ตั้งเอาไว้ที่ 10.5 พันล้านยูโร (4.344 แสนล้านบาท) ได้อย่างแน่นอน”
อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร = 41.3681 บาท