กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
โครงการส่งเสริมวิชาการเทศนาธรรม “สามเณรธรรมาสน์ทอง” ประกาศรายชื่อสามเณรที่มีความโดดเด่นเป็นเลิศด้านการเทศนาธรรม จำนวน ๓ รูป ปิดฉากนำร่องการสร้างสามเณรนักเทศน์ในปีแรกอย่างสมบูรณ์ พร้อมเล็งต่อยอดโครงการฯ ให้มีต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและสร้างโอกาสการเทศนาธรรมของสามเณรทั่วประเทศ สืบทอดวิถีแห่งการแสดงพระธรรมเทศนาอย่างถูกต้อง และเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยดำรงพระพุทธศาสนาให้ยืนยาว
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ร่วมกับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกรมการศาสนา ได้จัดพิธีประกาศผลและมอบวุฒิบัตร โครงการส่งเสริมวิชาการเทศนาธรรม “สามเณรธรรมาสน์ทอง” ณ วัดพิชยญาติการาม ซึ่งเป็นโครงการฯ ที่จัดขึ้น ในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ในปี ๒๕๕๘ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้สามเณรได้ศึกษาเรียนรู้และต่อยอดให้เป็นนักเทศนาธรรม สามารถเผยแผ่หลักธรรมคำสอนอย่างถูกทำนองคลองธรรม
ภายในงานมี สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ประธานศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี ซึ่งนอกจากมีการประกาศผลสุดยอด “สามเณรธรรมาสน์ทอง” ผู้มีความโดดเด่นด้านการเทศน์เป็นพิเศษทั้ง ๓ รูปอย่างเป็นทางการ พร้อมมอบวุฒิบัตรแก่เหล่าสามเณรธรรมาสน์ทองที่ได้ผ่านการอบรมหลักสูตรเข้มข้นทั้ง ๑๐ รูปแล้ว ยังมีพิธี “อาจาริยปฏิการบูชา” ที่สามเณรผู้ผ่านการอบรมทั้ง ๕๐ รูป น้อมคารวะพระเถรานุเถระที่เป็นพระอาจารย์ ผู้ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ หลักและวิธีการเทศนาตลอดมาจนเสร็จสิ้นโครงการ
นายสด แดงเอียด ที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ด้านการศาสนา ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ในฐานะประธานกรรมการจัดโครงการฯ กล่าวว่า สำหรับผลของการดำเนินโครงการสามเณรธรรมาสน์ทองในปีแรกนี้ ถือได้ว่าทางโครงการฯ ได้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้ใจตั้งไว้แล้ว ทั้งการสร้างศาสนทายาทในการสืบทอดและแสดงพระธรรมเทศนาอย่างถูกต้องตามหลัก การส่งเสริมและสร้างโอกาสให้สามเณรได้แสดงพระธรรมเทศนา อันนำไปสู่การเผยแผ่พุทธธรรมอย่างกว้างขวาง รวมถึงได้ช่วยสนับสนุนให้สำนักเรียนและโรงเรียนพระปริยัติธรรมมีบทบาทในการพัฒนาการเรียนการสอนด้านการเทศนาธรรมแก่สามเณรมากขึ้น นอกจากนี้ ทางโครงการฯ จะนำบทเรียนจากปีนี้ ไปพัฒนาปรับปรุงโครงการฯ ให้ดียิ่งขึ้นในปีต่อไป
ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมวิชาการเทศนาธรรม “สามเณรธรรมาสน์ทอง” ได้ดำเนินมาตั้งแต่ต้นปี ๒๕๕๗ ในการคัดเลือกสามเณรจากทั่วประเทศ ๒๗๓ รูป เข้าร่วมการอบรมที่จัดตามรายภูมิภาค โดยศึกษาเรียนรู้และฝึกปฏิบัติตามวิถีการเทศน์ที่ถูกต้องจากพระเถรานุเถระผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อนำทักษะความรู้และประสบการณ์ไปถ่ายทอดและเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ประชาชนทั่วไปได้ จากนั้นสามเณรทั้งหมดที่ผ่านการอบรมในโครงการ จะต้องเขียนบทเทศนาธรรมให้คณะกรรมการคัดเลือกเหลือ ๕๐ รูป เข้าสู่รอบที่สอง เพื่ออบรมด้านวิชาการและฝึกปฏิบัติเทศนาธรรมอย่างเข้มข้น
จนที่สุดได้คัดเลือกสามเณรเหลือ ๑๐ รูป ไปทัศนศึกษาดูงาน ณ สังเวชนียสถานและพุทธสถานสำคัญที่ประเทศอินเดียและเนปาล รวมถึงแสดงพระธรรมเทศนาเชิงประจักษ์ให้คณะกรรมการพิจารณาในรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งมีหัวข้อการเทศน์ หรือ “พระบาลี” โดยได้รับเมตตาประทานหัวข้อการเทศน์จากสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
จากการแสดงพระธรรมเทศนาเชิงประจักษ์ พระเถรานุเถระผู้เป็นคณะกรรมการได้พิจารณาสามเณรที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ จำนวน ๓ รูป ซึ่งจะเข้ารับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปี ๒๕๕๘ และจะได้รับทุนเพื่อสนับสนุนในด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่สามเณรและสำนักเรียนด้วย โดย “สามเณรธรรมาสน์ทอง” ที่ได้รับคัดเลือกทั้ง ๓ รูป ได้แก่ สามเณรธงชัย ไชยภักดี จาก วัดคลองโพธิ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ สามเณรอรรถกร สุดคิด จากวัดพระนคร จังหวัดนครศรีธรรมราช และ สามเณรสุทธิชัย อุปวันดี จากวัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งสามเณรทั้ง ๓ รูป นี้ คณะกรรมการได้พิจารณาให้ความเห็นว่า มีความสามารถโดดเด่นและเป็นเลิศด้านการเทศนาเท่าเทียมกัน ไม่มีใครเป็นรองใคร สามารถเรียกได้ว่าเป็น “สุดยอดสามเณรธรรมาสน์ทอง” อย่างเต็มภาคภูมิ
“ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนสถานศึกษาในท้องถิ่นภูมิลำเนา สามารถนิมนต์สามเณรที่ผ่านการอบรมจากโครงการสามเณรธรรมาสน์ทองไปเทศนาอบรมศีลธรรมได้ เพราะสามเณรจะสามารถถ่ายทอดธรรมะแก่เด็กและเยาวชนได้อย่างเข้าถึงกว่าพระผู้ใหญ่ เกิดกระแสความตื่นตัวในการฟังเทศน์และเผยแผ่หลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา ถือเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ จนนำมาสู่การประพฤติปฏิบัติตัวตามทำนองคลองธรรม” นายสด กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมวิชาการเทศนาธรรม “สามเณรธรรมาสน์ทอง” จะมีการดำเนินโครงการฯ อย่างต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป โดยจะมีการเสริมประสิทธิภาพเพื่อการสร้างสามเณรนักเทศน์ ด้วยการเพิ่มระยะเวลาการอบรม และเพิ่มการฝึกฝนให้สามเณรได้ฝึกปฏิบัติขึ้นธรรมาสน์เทศนาธรรมอย่างเต็มที่ โดยผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการฯ ได้ที่ เว็บไซต์ www.thammastong.com