กรุงเทพ--25 ส.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงสาธารณสุขจัดอบรมหมอแผนโบราณทั่วประเทศ ให้มีมาตรฐานเดียวกันอย่างมีคุณภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการบริการประชาชน พร้อมทั้งมอบรางวัลให้หมอแผนโบราณ ผู้สอบได้คะแนนยอดเยี่ยมในแต่ละสาขา
นายแพทย์ทรงยศ ชัยชนะ ผู้อำนวยการกองประกอบโรคศิลปะ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดอบรมเพิ่มพูนความรู้ของผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณทั่วไป ณ ห้องประชุมไพจิตร ตึกสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า หมอแผนโบราณ เป็นที่พึ่งของประชาชนมาเป็นเวลานานและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการเบื้อต้น ในด้านการรักษาพยาบาลมากขึ้น โดยเฉพาะในชนบท กระทรวงสาธารณะสุขได้วางแนวทางปฎิบัติงานแก่หมอโบราณ เพื่อบริการประชาชน สังคม และประเทศ อย่างมีคุณภาพ โดยการพัฒนาคุณภาพหมอแผนโบราณให้มีมาตรฐาน มีการสอบเพื่อวัดระดับคุณภาพก่อน ออกใบประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ รับรองให้ประกอบวิชาชีพได้ ปัจจุบันหมอแผนโบราณส่วนมากจะเรียนรู้ด้วยตนเอง หรือจากครู อาจารย์โดยตรง ไม่มีสถาบันการเรียนการสอน จึงทำให้มีความหลากหลายในด้านความรู้ ความสามารถ ในการรักษาพยาบาลประชาชน
ปี 2540 มีหมอแผนโบราณสอบผ่านเพื่อขอรับใบประกอบโรคศิลปะแผนโบราณทั่วไป จำนวน 219 คน ประกอบด้วยสาขาเวชกรรม 66 คน สาขาเภสัชกรรม 140 คน และสาขาการผดุงครรภ์ 13 คน กระทรวงสาธารณสุขอบรมให้ความรู้หมอแผนโบราณเหล่านี้ในเรื่อง นโยบายการคุ้มครองผู้บริโภคต้านบริการทางการแพทย์สาธารณสุข รวมทั้งด้านกฎหมายการประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เป็นการเสริมสร้างกลุ่มวิชาชีพเดียวกัน และเน้นในเรื่องการมีจรรยาบรรณที่ดี ซึ่งการเพิ่มความรู้เหล่านี้จะทำให้ หมอแผนโบราณทั่วประเทศมีคุณภาพและมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
นายแพทย์ทรงยศ กล่าวต่อไปว่า หมอแผนโบราณมี 3 สาขา ดังนี้ สาขาเวชกรรม เน้นในการรักษาและวินิจฉัยโรค มีผู้เข้าสอบ 310 คน สอบผ่าน 66 คน ประมาณ 30% ผู้ที่ได้คะแนยอดเยี่ยม คือ นางสาวจิรวรรณ อำนาจสิริวิทย์ อายุ 29 ปี ในส่วนของสาขาเภสัชกรรม ซึ่งเชี่ยวชาญในด้านส่วนประกอบของยา มีผู้เข้าสอบ 895 คน ผ่านการสอบ 140 คน ประมาณ 15.7% ผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุด อายุถึง 67 ปี คือนายนิ่ม นิ่มหนู และสาขาสุดท้ายคือการผดุงครรภ์ เป็นการดูแลหญิงตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอด พร้อมทั้งดูแลเด็กแรกเกิด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของแม่และลูกเป็นหลัก ซึ่งนางกัลยา จันทร์ศรีวงศ์ ทำคะแนนได้เป็นอันดับหนึ่ง ในจำนวนผู้เข้าสอบ 60 คน และผ่านการสอบเพียง 13 คนเท่านั้น--จบ--