กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--IR PLUS
VPO มั่นใจ เทรดวันแรก 24 พ.ย.นี้ ราคาหุ้นยืนเหนือจอง หลังความต้องการซื้อล้น เชื่อ เป็นเพราะ นลท. มั่นใจพื้นฐานธุรกิจ จากกำลังการผลิตใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ แถม ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยระดับโลก อีกทั้ง ช่องทางการจำหน่ายหลากหลาย เป็นผู้ผลิตไม่กี่รายส่งออกน้ำมันปาล์มดิบได้ด้วยตนเอง “กฤษดา ชวนะนันท์” เผย การเข้าตลท. ครั้งนี้ เป็นการเตรียมพร้อมโอกาสการลงทุนใหม่ๆ สร้างการเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว
นายกฤษดา ชวนะนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ VPO เปิดเผยว่า มั่นใจหุ้น VPO ที่เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายนนี้ จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน ทำให้สามารถยืนเหนือราคา 2.70บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาจองได้ เนื่องจากในช่วงเปิดให้จองซื้อหุ้น มีนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นไอพีโอจำนวนมากเกินกว่าจำนวนที่เสนอขาย โดยคาดว่า เป็นผลจากบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง จากจุดแข็งในการเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบที่มีกำลังการผลิตใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ส่งผลให้บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบหนึ่งในสามบริษัทที่สามารถส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปต่างประเทศได้ด้วยตนเอง ประกอบกับ โรงงานใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยระดับโลก ส่งผลให้น้ำมันปาล์มดิบของบริษัทฯ มีคุณภาพได้รับการยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ ทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการอุปโภคบริโภค และการใช้เป็นไบโอดีเซลซึ่งเป็นพลังงานทดแทน รวมทั้งเมื่อเปิด AEC ในปี 2558 ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ โดยหุ้น VPO จะเป็นทั้งหุ้น Growth stock และ Dividend Stock สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับนักลงทุนในระยะยาว
“ ภายหลังจากบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในฐานะผู้บริหารตลอดจนทีมงานจะดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส และมีธรรมาภิบาลมีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยตระหนักถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้น คู่ค้า พนักงาน ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย นอกเหนือจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย เรายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร รวมทั้ง มุ่งเน้นการสร้างสรรค์สังคมโดยเฉพาะชุมชนในจังหวัดชุมพรและบริเวณโดยรอบ ซึ่งเป็นแหล่งพื้นที่ปลูกผลผลิตปาล์มให้แก่บริษัทฯ ทั้งให้ความรู้และพัฒนาเกษตรกร นำมาซึ่งการเติบโตของสังคมอีกทางหนึ่ง ดังนั้น การเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ นอกจากเป็นความภาคภูมิใจของวิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์แล้ว เรายังเป็นบริษัทจดทะเบียนแรกจากจังหวัดชุมพรที่เข้าร่วมโครงการหุ้นใหม่ความภูมิใจจังหวัด จัดโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ”
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่ายหุ้น IPO บริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า VPO ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุนในการเปิดจองซื้อหุ้น ที่ผ่านมา โดยการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกจำนวน 236 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 2.70 บาท คาดว่าผลจากนักลงทุนเชื่อมั่นในธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง อนาคตมีการเติบโตที่ดี ประกอบกับภาวะตลาดหลักทรัพย์ในช่วงนี้หุ้นไอพีโอได้รับการตอบรับที่ดีจากภาวะตลาดโดยรวม จึงเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนจนทำให้เข้ามาซื้อหุ้นในกระดานเพิ่มเติมอีก และมั่นใจหลังเข้าทำการซื้อขาย VPO จะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวังอย่างแน่นอน
สำหรับ เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้บางส่วน จะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถลดภาระดอกเบี้ยต่อปีและอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ เข้ามาสนับสนุนกำไรของบริษัทฯ ให้เติบโตเพิ่มขึ้น ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ทำให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องที่ดี เพื่อเตรียมพร้อมรับการขยายธุรกิจและโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มเติม
นายพากพูม วัลลิสุต ประธานกรรมการ บริษัท เดอะ ควอนท์ กรุ๊ป จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า VPO เป็นบริษัทที่มีศักยภาพของกำลังการผลิตสูงที่สุดในจังหวัดชุมพร ส่งผลให้บริษัทฯ มีความได้เปรียบในเรื่องช่องทางการจำหน่ายที่มีมากกว่าผู้ผลิตรายอื่น โดยมีลูกค้าที่จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบในประเทศรายใหญ่เป็นพันธมิตรที่สำคัญ ได้แก่ บมจ. มรกตอินดัสตรี้ส์ บจ.น้ำมันพืชปทุม และ บมจ.ล่ำสูง (ประเทศไทย) เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบในประเทศเพียงไม่กี่รายที่สามารถส่งออกได้ด้วยตนเอง โดยมีลูกค้ารายใหญ่ที่เป็นพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ Cargill International Trading Pte. Ltd. และ ADM Hamburg Aktiengesellschaft เป็นต้น และคาดว่า จากการเปิด AEC ในปี 2558 นี้ จะยิ่งเป็นโอกาสของบริษัทฯ ในการสร้างผลประกอบการที่ดียิ่งขึ้นไปอีก
บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการเติบโตของกำไรสุทธิ จึงมุ่งเน้นการบริหารจัดการภายในอย่างมีประสิทธิภาพ และซื้อผลผลิตปาล์มในราคาที่เหมาะสม เนื่องจากบริษัทฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเกษตรกรอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว อีกทั้ง ไม่มีนโยบายเก็งกำไรราคาปาล์ม จึงไม่มีความเสี่ยงในภาวะที่ผลผลิตปาล์มผันผวน จึงเชื่อว่า จากความแข็งแกร่งข้างต้น ทำให้นักลงทุนเล็งเห็นถึงความคุ้มค่าการลงทุนหุ้น VPO ในระยะยาว และเชื่อว่า จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจนสามารถยืนเหนือราคาจองที่ 2.70บาท/หุ้นในวันเปิดเทรดวันแรก และต่อเนื่องในระยะยาวได้