กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
เอไอเอส เดินหน้าเปิด เอไอเอส คอลล์เซ็นเตอร์ เพิ่มอีกเป็นแห่งที่ 5 ณ จังหวัดหนองคาย สร้างโอกาสให้ผู้พิการได้โชว์ศักยภาพ ยืนยันผู้พิการมีความสามารถและจิตบริการไม่แตกต่างจากคนปกติ
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ที่ผ่านมา เอไอเอส มีการรับพนักงานผู้พิการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในหลากหลายฟังก์ชั่นอยู่แล้ว และเป็นที่มาในการเห็นถึงศักยภาพของคนกลุ่มนี้ที่ไม่แพ้กับคนปกติ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถและจิตบริการ ดังนั้นเมื่อบริษัทฯ มีการขยายตัวและรับพนักงานเพิ่ม เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานคอลล์เซ็นเตอร์ เราจึงมองถึงการรับผู้พิการเข้าเป็นพนักงานคอลล์เซ็นเตอร์ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ตั้งแต่ปี 2550 จึงเกิดเป็นแนวคิดที่จะจัดตั้ง เอไอเอส คอลล์เซ็นเตอร์เพื่อสนับสนุนศักยภาพผู้พิการขึ้นอย่างเป็นกิจจะลักษณะ โดยครั้งแรกได้เริ่มต้นกับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย พัฒนาโครงการนี้ขึ้น และเราเป็นผู้จัดรูปแบบของงานที่เหมาะสมกับลักษณะของความพิการ ,การตกแต่งสถานที่-อุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้เอื้อต่อการทำงาน รวมไปถึงนำเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะเป็นเครื่องมือช่วยให้การบริการลูกค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ ติดตั้งโครงข่าย Online, นำเทคโนโลยีดักจับความเคลื่อนไหวที่ Key Board หรือสิ่งที่แสดงผลบนหน้าจอ และเปลี่ยนเป็นเสียงพูด ซึ่งต้องใช้ควบคู่กับโปรแกรมตาทิพย์ของสถาบันคนตาบอดแห่งชาติเพื่อการวิจัยและพัฒนา ซึ่งผลจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ได้ผลอย่างดียิ่ง ทั้งในแง่ของคุณภาพงานบริการสำหรับลูกค้า และการได้สร้างโอกาสทางอาชีพเพื่อผู้พิการ และนี่จึงเป็นที่มาให้เรามีการขยายศูนย์ Call center เพื่อสนับสนุนศักยภาพผู้พิการอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งวันนี้ที่เปิดตัวแห่งที่ 5 ณ จ.หนองคาย”
ด้าน วิลาสินี พุทธิการันต์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านงานบริการและบริหารลูกค้า เอไอเอส กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันเรามีพนักงานเอไอเอส คอลล์เซ็นเตอร์ผู้พิการ 77 คน โดยได้ร่วมมือกับองค์กรที่ดูแลผู้พิการ จัดตั้ง เอไอเอส คอลล์เซ็นเตอร์เพื่อสนับสนุนศักยภาพผู้พิการแล้วทั้งหมด 5 แห่ง และเตรียมที่จะเปิดให้บริการอีก 5 แห่งในปี 2558 สำหรับการเปิดในครั้งนี้ ได้ร่วมมือกับโรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ หนองคาย จัดตั้งขึ้น โดยมีจำนวนพนักงานเบื้องต้น 9 คน ซึ่งส่วนใหญ่พิการทางร่างกาย โดยลักษณะของงานที่มอบหมายคือ การโทรติดต่อลูกค้า แจ้งสิทธิพิเศษหรือข้อมูลต่างๆ ซึ่งหลังจากฝึกอบรมและเริ่มให้บริการลูกค้าในช่วงที่ผ่านมา พบว่าสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างดี มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานด้านบริการของเอไอเอสที่วางไว้”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส ได้กล่าวย้ำตอนท้ายว่า “โอกาส เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้ ดังนั้นการเป็นผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสื่อสารโทรคมนาคม ย่อมหมายถึงการสร้างโอกาสใหม่ๆให้แก่คนไทยทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ, เอกชน, คนปกติ, ผู้ด้อยโอกาส และผู้พิการ ที่ล้วนแล้วแต่จะเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศชาติให้เข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทั้งแก่ตนเองและชุมชน ซึ่ง เอไอเอส พร้อมที่จะสนับสนุนและสร้างโอกาสดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจากเทคโนโลยีสื่อสารของเรา และหวังว่าโครงการนี้จะสามารถปลุกกระแสให้สังคมตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญกับผู้พิการทุกประเภท อันเป็นการเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานเพิ่มขึ้นด้วย”