กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส
ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง - คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) พิสูจน์ให้เห็นถึงความโดดเด่นสำหรับ 2 คำนิยามนี้โดยผ่านการทดสอบจากสื่อมวลชนในกิจกรรมการทดสอบช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นงานแรกที่ได้สัมผัสกับรถสปอร์ตอเนกประสงค์ SUV แบบ Plug-in ไฮบริดอย่างใกล้ชิด วิ่งด้วยระยะไกลกว่า 4,200 กิโลเมตร รถมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำแค่เพียง 5.6 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร (17.86 กิโลเมตร/ลิตร) ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่ำอยู่แค่เพียง 1.4 ลิตร/100 กิโลเมตร (71.43 กิโลเมตร/ลิตร) เพียงเท่านั้น นั่นหมายความว่า ต่ำกว่าระดับการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ NEDC ที่ 3.4 ลิตร/100 กิโลเมตร (29.4 กิโลเมตร/ลิตร) ถึง 2 ลิตร/100 กิโลเมตร
นอกเหนือจากคาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) แล้วยังมีพานาเมร่า เอส-อี ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) ที่ใช้ขับขี่ในเส้นทางเดียวกัน เพราะหลักการลดน้ำหนักรถที่ยอดเยี่ยม การขับเคลื่อนล้อหลัง และความสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์ ส่งผลให้แกรนด์ ทัวเร่อ (Grand Tourer) จากปอร์เช่พร้อมด้วย Plug-in Hybrid คันนี้มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำเพียง 5.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (18.52 กิโลเมตร/ลิตร)
รถ plug-in ทั้ง 2 คันถูกขับขี่ไปบนเส้นทางรอบๆ แฟร้งก์เฟิร์ต ผ่านหมู่บ้านต่างๆ ตามถนนนอกเมือง และบนถนนหลวง โดยไม่มีข้อจำกัดของความเร็ว และยังได้รับการยืนยันถึงความแตกต่างของเส้นทาง โดยใช้ความเร็วระหว่าง 36 และ 56 กิโลเมตร โดยวิ่งด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ถึง 36 กิโลเมตร โดยมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 0.0 ลิตร/100 กิโลเมตร และไม่ปล่อยมลพิษใดๆ เลย
คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) ให้พละกำลังเครื่องยนต์สูงถึง 416 แรงม้า (306 กิโลวัตต์) อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในเวลาเพียงแค่ 5.9 วินาที และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 243 กิโลเมตร/ชั่วโมง และตัวแทนจำหน่ายจะเริ่มขายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 เป็นต้นไป และถือได้ว่าปอร์เช่คือค่ายรถยนต์แรกที่มีรถแบบ Plug-in ถีง 3 รุ่นด้วยกัน นั่นคือ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) พานาเมร่า เอส-อี ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) ที่เปิดตัวไปเดือนสิงหาคม 2013 ในฐานะรถยนต์หรูแบบ plug-in ไฮบริด และอีกหนึ่งรุ่นคือ 918 Spyder รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตภายใต้แบรนด์ปอร์เช่นั่นเอง
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรง พร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award และ The Highest Score of Porsche
Service Support Mission 2014 จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th