กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--IR network
บมจ. เมืองไทย ลิสซิ่ง เจ้าตลาดสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก (26 พ.ย.) เปิดตลาดพุ่งแตะ 9.50 บาท พุ่งทันที 72.72% เมื่อเทียบกับราคาไอพีโอที่ 5.50 บาท/หุ้น ก่อนปิดตลาดที่ 11.90 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้นกว่า 116.36% วอลุ่มทะลัก 1.2 หมื่นล้านบาท “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” ปลื้มกระแสตอบรับจากนักลงทุน สะท้อนปัจจัยพื้นฐานแกร่ง-บริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ มั่นใจ 3 ปีข้างหน้า พอร์ตสินเชื่อแตะ 2.6 หมื่นล้านบาท แย้มพร้อมบุกตลาด ”นาโนไฟแนนซ์” ทันที หลังทางการมีความชัดเจน ด้านที่ปรึกษามือเก๋าจาก บล. ฟินันเซีย ไซรัส “สมภพ กีระสุนทรพงษ์” ระบุ MTLS แกร่งทุกด้าน ธุรกิจยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกเพียบ ความต้องการสินเชื่อของคนในระดับ ”รากหญ้า” ยังมีอยู่เพียบ เนื่องจากมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MTLS) หลังจากเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันนี้ (26 พ.ย.) เป็นวันแรก เปิดตลาดที่ระดับ 9.50 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท หรือเพิ่มขึ้น 72.72% เมื่อเทียบกับราคาไอพีโอที่ 5.50 บาท/หุ้น ก่อนที่จะมาปิดตลาดในระดับราคาสูงสุดที่ 11.90 บาท เพิ่มขึ้น 6.40 บาท หรือ 116.36% มูลค่าการซื้อขาย 11,913.32 ล้านบาท
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MTLS) เปิดเผยว่า รู้สึกประทับใจที่ราคาหุ้น MTLS ทะยานตัวเหนือราคาจองเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท ซึ่งมีประสบการณ์การทำธุรกิจมายาวนานกว่า 22 ปี การบริหารงานมีประสิทธิภาพและรัดกุม สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ในระดับต่ำเพียง 1.64% รวมทั้งอัตราการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเอ็นพีแอล (Coverage Ratio) สูงถึงกว่า 280%
สำหรับเงินที่ได้จากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ในครั้งนี้จำนวนทั้งสิ้น 2,997.50 ล้านบาท บริษัทจะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินจำนวน 659 ล้านบาท และเงินส่วนที่เหลือทั้งหมดจะนำไปใช้ในการขยายพอร์ตสินเชื่อตามแผนธุรกิจและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยเตรียมขยายสาขาเพิ่มเป็น 500 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ จากณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2557 มีสาขาจำนวน 464 สาขา และคาดว่าในปี 2560 จะขยายสาขาเพิ่มเป็น 1,000 แห่ง ทั่วประเทศ
“ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เรามีโอกาสโตเพิ่มเป็นเท่าตัว จากสาขา 500 แห่ง เป็น 1,000 แห่ง ทั่วประเทศ สินเชื่อเพิ่มขึ้นจาก 12,000 ล้านบาท ในสิ้นปีนี้ เป็น 25,000 ล้านบาท ในปี 2560 และอัตราความสามารถในการทำกำไรก็มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว จะช่วยทำให้ต้นทุนทางการเงินของเราปรับตัวลดลง เพราะมีช่องทางในการระดมทุนที่หลากหลายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการออกตัวแลกเงิน (บีอี) หุ้นกู้ หรือการกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งต้นทุนดอกเบี้ยจะถูกลง ทำให้ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น” นายชูชาติกล่าว
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง กล่าวอีกว่านอกเหนือจากสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทแล้ว MTLS พร้อมที่จะขยายธุรกิจไปสู่ตลาดนาโนไฟแนนซ์ สนองนโยบายของทางการที่ต้องการเพิ่มช่องทางให้กับประชาชนในระดับล่างที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และมองว่าเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทในอนาคต ซึ่งหากมีความชัดเจน MTLS ก็พร้อมดำเนินการได้ทันที เพราะมีทีมงานที่มีความชำนาญในการปล่อยสินเชื่อและติดตามหนี้ที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีฐานลูกค้าที่มีคุณภาพดีและจำนวนมากเพียงพอ โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่า 700,000 บัญชี
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่าสาเหตุที่ทำให้หุ้นของ MTLS ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบัน เพราะถือเป็นเจ้าตลาดไมโครไฟแนนซ์ของเมืองไทยรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งทุกด้านรองรับ ไม่ว่าจะเป็นความเป็นเบอร์หนึ่งสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ เอ็นพีแอลและหนี้สูญที่อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม การตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เพียงพอและมีความแข็งแกร่ง โดยใช้แนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานเดียวกับธนาคารพาณิชย์ ทำให้มี Coverage Ratio สูงถึงร้อยละ 280 ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก ซึ่งจะทำให้รายได้ของบริษัทสามารถขยายตัวอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดของสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักเพียงประมาณ 6% ของจำนวนรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนในประเทศที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท นอกจากนี้ การที่บริษัทมีความพร้อมด้านเงินทุนมากขึ้นบริษัทยังมีโอกาสที่จะขยายพอร์ตสินเชื่อทะเบียนรถประเภทอื่นมากขึ้น
“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯจะช่วยสนับสนุนให้ MTLS เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพราะทำให้สามารถระดมทุนผ่านเครื่องมือทางการเงินในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว ต้นทุนการดำเนินธุรกิจลดลง ขณะเดียวกันธุรกิจยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เพราะความต้องการสินเชื่อของคนในระดับรากหญ้ายังมีอีกเยอะ เพราะยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน” นายสมภพกล่าวในที่สุด