การไต่สวนกรณีการก่อสร้างสนามฟุตซอลของกระทรวงศึกษาธิการ

ข่าวทั่วไป Thursday November 27, 2014 12:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--สำนักงาน ป.ป.ช. คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเกี่ยวกับกรณีเรื่องกล่าวหาร้องเรียนกรณีทุจริตในการก่อสร้างสนามฟุตซอลของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และสำนักงาน ป.ป.ท. ส่งเรื่องมาให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการ เรื่องดังกล่าวปรากฎเป็นข่าวทางสื่อมวลชน ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้สั่งการให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฏข้อเท็จจริงเบื้องต้นสรุปได้ว่า ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในจังหวัดต่างๆ โดยในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน ๓ จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา มุกดาหาร และอำนาจเจริญ รวม ๗๖ แห่ง เป็นเงินจำนวน ๒๗๗,๕๐๐,๐๐๐ บาท โดยงบประมาณดังกล่าวได้มาจากการแปรญัตติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ระบุเป็นค่าก่อสร้าง ปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างที่ชำรุดทรุดโทรมที่ประสบอุบัติภัย แต่การดำเนินการได้นำไปก่อสร้างสนามฟุตซอล โดยเจาะจง ส่งงบประมาณไปในจังหวัดข้างต้นที่กลุ่มการเมืองต้องการ การดำเนินการดังกล่าวพบว่ามีกลุ่มการเมืองไปติดต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้นำงบประมาณไปก่อสร้างตามโรงเรียนที่กำหนด โดยกำหนดให้ดำเนินการตามแนวทางการจัดซื้อจัดจ้าง การประกวดราคา การกำหนดราคากลาง รวมทั้งร่างบันทึกการกำหนดขอบเขตงาน (TOR) เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้บริษัทห้างร้านของกลุ่มการเมืองดังกล่าวเป็นผู้ได้รับงาน ซึ่งการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างมีข้อพิรุธโดยมีผู้ยื่นเสนอราคาเป็นกลุ่มเดียวกัน จึงเป็นการส่อแสดงว่ามีการสมยอมราคา รวมทั้งการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานโดยพื้นคอนกรีตไม่ถูกต้องตามคุณลักษณะเฉพาะและนำวัสดุแผ่นยางสังเคราะห์สำหรับสนามในร่มมาใช้ในสนามกลางแจ้ง จึงทำให้ไม่สามารถใช้งานได้และไม่มีความทนทาน เป็นการใช้วัสดุผิดประเภท เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการก่อสร้าง กรณีดังกล่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า สำหรับเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเรื่องที่มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงพฤติการณ์ตามที่ถูกกล่าวหาและมีมูลเพียงพอต่อการไต่สวนข้อเท็จจริงจึงมีมติแต่งตั้งนายประสาท พงษ์ศิวาภัย และนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นคณะอนุกรรมการไต่สวน เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งตัวแทนของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ร่วมเป็นองค์คณะอนุกรรมการไต่สวน จึงถือเป็นมิติใหม่ในความร่วมมือขององค์กรอิสระระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช และ สตง. ในการไต่สวนเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะมีการแจ้งคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาที่เกี่ยวข้องได้รับทราบต่อไปประกอบด้วย อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษา รวมทั้งผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าว โดยจะแบ่งการทำงานเป็นคณะย่อยเพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงในภูมิภาคหรือจังหวัดที่เกิดเหตุ เพื่อความรวดเร็ว ถ้าหากพบว่ามีจังหวัดอื่นที่ส่อไปในทางทุจริตในการก่อสร้างสนามฟุตซอล ก็จะดำเนินการไต่สวนเพื่อขยายผลต่อไป ส่วนเขตพื้นที่ภาคเหนือและภาคอื่นที่เกี่ยวข้องได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้วนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาโดยด่วนอีกครั้ง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ