กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--
บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ประกาศข้อมูลหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ต่อประชาชนทั่วไป คาดว่า เงินที่นักลงทุนจะได้รับในปีแรก (ปี 2558) ตามที่ปรากฎอยู่ในหนังสือชี้ชวน จะอยู่ที่ประมาณ 8.59%-9.02% โดยแบ่งเป็นเงินปันผล7.80%-8.19% และการจ่ายลดทุน 0.80%-0.84% อันเนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินที่เกิดจากค่าเช่ารับล่วงหน้า
ทั้งนี้ JASIF เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตรายแรกในประเทศไทยที่เน้นลงทุนในทรัพย์สิน
บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตเป็นหลัก มีมูลค่ากองทุนประมาณ 55,000-57,750 ล้านบาท จำนวนหน่วยลงทุน 5,500 ล้านหน่วย โดยคาดว่าจะมีผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งเป็นผู้จองซื้อทั่วไป ประมาณ 806.85 ล้านหน่วย ซึ่งจำนวนหน่วยลงทุนขั้นต่ำของการจองซื้อ 2,000หน่วย และเพิ่มเป็นจำนวนทวีคูณของ 100 หน่วย
นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า“การจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ถือเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตที่จัดขึ้นเป็นรายแรกในประเทศไทยที่เน้นลงทุนในทรัพย์สินบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตเป็นหลัก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนให้เกิดการใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐาน ร่วมกัน โดยทรัพย์สินที่กองทุนจะเข้าลงทุนครั้งแรกได้แก่ กรรมสิทธิ์ในเส้นใยแก้วนำแสง 980,000 คอร์กิโลเมตร ประกอบด้วย (1) เส้นใยแก้วนำแสง จำนวนรวมประมาณไม่น้อยกว่า 800,000 คอร์กิโลเมตร ที่บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JAS จะส่งมอบให้ JASIF ณ วันซื้อขายเส้นใยแก้วนำแสงเสร็จสิ้น และ (2) เส้นใยแก้วนำแสง จำนวนรวมประมาณ 180,000 คอร์กิโลเมตร ที่ TTTBB จะทยอยส่งมอบให้JASIF ภายใน 2 ปี นับจากวันซื้อขายเส้นใยแก้วนำแสงเสร็จสิ้น
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัดกล่าวว่า “สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับ 1 ร่างหนังสือชี้ชวนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) แล้วเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับประมาณการเงินที่นักลงทุนจะได้รับในปีแรกประมาณ 8.59%-9.02% จะแบ่งเป็นประมาณการการจ่ายเงินปันผล 7.80%-8.19% และการจ่ายลดทุน0.80%-0.84% อันเนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินที่เกิดจากค่าเช่ารับล่วงหน้า ตามที่ปรากฎอยู่ในหนังสือชี้ชวน โดยคำนวณจากสมมติฐานว่าผลกำไรส่วนใหญ่มาจากรายได้ตามสัญญาเช่าและหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งเป็นเพียงการแสดงประมาณการสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2558 ทั้งนี้ การจ่ายลดทุนจะเกิดเฉพาะ 3 ปีแรกเท่านั้น นอกจากนี้ค่าเช่าที่กองทุนจะได้รับจะเพิ่มขึ้นตามปรับขึ้นตามอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ แต่ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี ส่งผลให้เงินที่นักลงทุนได้รับในแต่
ละปีจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF)มีจุดเด่นอยู่หลายประการ ซึ่งได้แก่
1. เส้นใยแก้วนำแสงอายุที่กองทุนจะลงทุน มีอายุการใช้งานมาแล้วเฉลี่ยเพียงประมาณ 4 ปี และวางโครงข่ายไว้ครอบคลุม 77จังหวัดทั่วประเทศไทย
2. รายได้ค่าเช่าของกองทุนเติบโตสม่ำเสมอ มีโอกาสจ่ายผลตอบแทนที่น่าสนใจให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน โดยรายได้ค่าเช่าของกองทุนจะเป็นไปตามสัญญาเช่าระหว่างกองทุนกับ TTTBB ซึ่งจะปรับขึ้นตามอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ แต่ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี และคาดว่าในปี 2558 กองทุนจะสามารถจ่ายเงินให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้ 4,962.9ล้านบาท โดยแบ่งเป็นในรูปของเงินปันผล 4,501.9 ล้านบาท และการลดทุน 461.0 ล้านบาท
3. อุตสาหกรรมบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มการเติบโตสูง ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในระดับต่ำเพียงร้อยละ 24.6 ในปี 2556 เทียบกับช่วงร้อยละ 70.3-99.6 ของประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี และสิงคโปร์ คาดว่าอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของไทยจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นร้อยละ 35.4 และร้อยละ 44.0 ในปี 2559 และปี 2562
4. TTTBB ในฐานะผู้เช่าหลักมีผลการดำเนินงานที่เติบโต โดย TTTBB มีรายได้เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในประเทศไทย โดยมีรายได้ในปี 2556 เท่ากับ 9,623 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 22.6 ต่อปี ในระหว่างปี 2554 ถึงปี2556 และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2556 เท่ากับ 4,610 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 27.2 ต่อปี ในระหว่างปี 2554 ถึงปี 2556
5. JAS จะถือหน่วยลงทุนร้อยละ 33.33 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด ในปีที่ 1-3 และจะถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 19 ในปีที่ 4-6”
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย กล่าวว่า “จะมีการเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนสำหรับผู้จองซื้อทั่วไปภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติจัดตั้งกองทุนจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการเสนอขายได้ที่ www.jas-if.com สำหรับวิธีการจัดสรรหน่วยลงทุนสำหรับผู้จองซื้อทั่วไปนั้นจะใช้วิธี Small-Lot First ในรอบแรกตามจำนวน จองซื้อขั้นต่ำ 2,000 หน่วย และในรอบต่อๆ ไปรอบละ 100 หน่วยโดยไม่จำกัดจำนวนหน่วยลงทุนที่จะจองซื้อต่อ 1 ใบจอง กรณีที่มีหน่วยลงทุนไม่เพียงพอต่อการจัดสรรให้ผู้จองซื้อทั่วไปทุกรายใน รอบใด จะใช้วิธีสุ่มคัดเลือกรายชื่อผู้จองซื้อทั่วไปที่มีสิทธิได้รับการจัดสรร (Random) ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยบริษัท เซ็ทเทรด ดอทคอม จำกัด
นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวสรุป “กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) เปิด โอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของโครงข่ายเส้นใยแก้วนำแสงที่ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ นอกจากนั้นแล้วยังจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตของไทยในอนาคตอีกด้วย ”