กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--ปตท.
สัปดาห์ ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ลดลง 3.41 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 75.70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) ลดลง 1.17 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 73.53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) ลดลง 3.01 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 72.43 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เพิ่มขึ้น 0.41 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 88.63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลลดลง 1.44 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 90.85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบได้แก่ :
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- นาย Ali al-Naimi รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดิอาระเบีย แถลงว่ากลุ่ม OPEC มีมติจะไม่ทำการปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันดิบ หลังการประชุมสามัญของ OPEC ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งปัจจุบันกลุ่ม OPEC มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบโดยรวมอยู่ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งจะส่งผลให้มีน้ำมันดิบล้นความต้องการน้ำมันของโลกอยู่ถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 พ.ย. 57 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 1.95 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ 383.02 ล้านบาร์เรล
- Platts รายงานบริษัท BHP Billiton ออกประมูลขาย US Condensate ปริมาณ 650,000 บาร์เรลส่งมอบครึ่งแรกของเดือน ม.ค. 57 โดยทางบริษัทมั่นใจว่าสินค้าของตนไม่เข้าข่ายภายใต้ข้อห้ามส่งออกน้ำมันดิบของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ โดยหากมีการชื้อขายจะเป็นตัวอย่างให้ผู้ประกอบการอื่นในสหรัฐฯทำเช่นเดียวกัน
- บริษัทน้ำมันแห่งชาติของไนจีเรียเผยปริมาณการส่งออกของไนจีเรีย เดือน ส.ค. 57 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน12.4% อยู่ที่ระดับ 2.26 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
- กระทรวงพลังงานรัสเซียรายงานปริมาณการกลั่นน้ำมันดิบของรัสเซียเดือน ต.ค. 57 อยู่ที่ 5.71 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 36,000 บาร์เรลต่อวัน และเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 457,000 บาร์เรลต่อวัน) ทั้งนี้ โรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียปิดซ่อมบำรุงสูงสุดที่ 910,000 บาร์เรลต่อวัน ในวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา
- The People’s Bank of China (PBOC) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (Lending Interest Rate) สำหรับระยะเวลา 1 ปี ลง 0.4% มาอยู่ที่ 5.6% และลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก (Deposit Interest Rate) ลง 0.25% มาอยู่ที่ 2.75% ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. 57
- Ifo รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนี (Business Climate Index) ปรับตัวขึ้นแตะ 104.7 จุดในเดือน พ.ย. 57 จาก 103.2 จุดในเดือน ต.ค. 57 โดยเพิ่มขึ้นหลังปรับตัวลดลงติดต่อกันมา 6 เดือน เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจเยอรมนีอาจเริ่มพลิกฟื้น
แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันปรับลดลงจาก OPEC ตัดสินใจคงเพดานการผลิตที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้โครงสร้างตลาดน้ำมันโลกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคใหม่ หรือ New Oil Order ที่ OPEC ไม่ได้เป็นฝ่ายที่ถือครอง Marginal Barrel ดังเช่นใน 20 ปีก่อนที่ OPEC ผลิตน้ำมันดิบป้อนตลาดถึง 50% ขณะที่ปัจจุบันผลิตที่สัดส่วน 30% การตัดสินใจของ OPECทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว และมีความผันผวนของราคา ( Implied volatility) ขึ้นสู่ระดับสูงสุดปีนี้ที่ 36% ในวันที่ 27 พ.ย. 57 (ค่าเฉลี่ย ของทั้งปี 57 ถึงปัจจุบันอยู่ที่ 18%) และนักลงทุนลดสัญญาการถือครอง Net Long Position ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่นิวยอร์คและลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 พ.ย. 57 ลง 6,285 สัญญามาอยู่ที่ 167,138 สัญญา สำหรับทิศทางราคาน้ำมัน นักวิเคราะห์ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบ Brent จะเคลื่อนไหวที่ระดับ $70/BBL ขณะที่กำลังการผลิตในสหรัฐฯ ช่วงครึ่งแรกของปี 58 จะยังมีการเติบโต แต่จะชะลอลงในครึ่งหลังของปี และเห็นว่า OPEC อาจลดกำลังการผลิตในปี 58 หากราคาน้ำมันลดลงสู่ระดับ $60/BBL ที่อาจทำให้ OPECลดกำลังการผลิตก่อนการประชุมสามัญครั้งต่อไปวันที่ 5 มิ.ย. 58 อย่างไรก็ตามปัญหาในลิเบียยังคงคุกรุ่น จากการแย่งอำนาจการปกครองในประเทศ ที่ทำให้ลิเบียมีนายกรัฐมนตรี 2 คน ที่ต่างได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังติดอาวุธ ได้แก่กลุ่ม Operation Libya Down และกลุ่ม Islamists ทำให้ผู้ซื้อน้ำมันดิบของลิเบียขาดความมั่นใจในการซื้อน้ำมันเพราะไม่แน่ใจว่ากลุ่มไหนมีอำนาจตัดสินใจแท้จริง และลิเบียมีความเสี่ยงที่จะแยกเป็น 2 ประเทศ ทางด้านเทคนิค ในสัปดาห์นี้ทางเทคนิคราคาน้ำมันดิบ Brent ,WTI และ ดูไบ สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 68-73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล , 64-69 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ 67-72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลตามลำดับ
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นจากบริษัท IHS Inc. คาดการณ์ชาวสหรัฐฯ จะท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุด Thanksgiving ในสุดสัปดาห์ที่ 27 พ.ย. 57 มากที่สุดตั้งแต่ปี 50 โดยยอดนักท่องเที่ยวเดินทางมากกว่า 49 ไมล์จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.2% อยู่ที่ระดับ 46.3 ล้านคน เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี และ รัฐบาลมาเลเซียประกาศยกเลิกการอุดหนุนราคาน้ำมันเบนซินชนิด 95 RON และ น้ำมันดีเซลมีผลวันที่ 1 ธ.ค. 57 กล่าวคือ ไม่มีการอุดหนุนราคาน้ำมันอีกต่อไป หลังยุติการอุดหนุนราคาน้ำมันเบนซินชนิด 97 RON ไปตั้งแต่ปี 53 อย่างไรก็ตาม Platts คาดการณ์ปริมาณการนำเข้าน้ำมันเบนซินของอินโดนีเซีย ในเดือน ธ.ค. 57 ลดลงจากเดือนก่อน 2.4 ล้านบาร์เรล หรือ 18% มาอยู่ที่ 10.3 ล้านบาร์เรล ประกอบด้วยน้ำมันเบนซินชนิด 88 RONปริมาณ 9.5 ล้านบาร์เรล และน้ำมันเบนซินชนิด 92 RON ปริมาณ 0.8 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันเบนซิน ในประเทศฟื้นตัว ขณะที่กรมศุลกากรของจีนรายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินของจีนเดือน ต.ค.57 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 108% มาอยู่ที่ 5.73 ล้านบาร์เรลและ EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 พ.ย. 57 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 1.8 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 206.4 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 77.3-87.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดีเซล ลดลงจาก Arbitrage Diesel จากสหรัฐฯ ไปยุโรปเปิด หลังจากปิดมากว่า 2 เดือน ผู้ค้าคาดปริมาณส่งออกในเดือน ธ.ค. 57 อยู่ที่ 1.2-1.5 ล้านบาร์เรล และบริษัท Sinopec ของจีนเริ่มดำเนินการหน่วย Gasoil Hydrogenation (76 ,000 บาร์เรลต่อวัน) ที่โรงกลั่น Yangzi ขนาด 190,000 บาร์เรลต่อวัน)อย่างไรก็ตามกรมศุลกากรของจีนรายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซล ของจีนเดือน ต.ค. 57 ลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล หรือลดลงจากเดือนก่อน 5% อยู่ที่ระดับ 48.5 ล้านบาร์เรล แตะระดับต่ำสุดในประวัติการณ์ และEIA รายงานปริมาณสำรอง Distillates เชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 พ.ย. 57 ลดลง จากสัปดาห์ก่อน 1.6 ล้านบาร์เรลอยู่ที่ระดับ 113.2 ล้านบาร์เรล ประกอบกับบริษัท Formosa Petrochemical Corp. ของไต้หวันได้หยุดดำเนินการหน่วย Residual Fluid Catalytic (RFCC) ที่โรงกลั่น Mailiao ขนาด 540,000 บาร์เรลต่อวันเนื่องจากปัญหาทางเทคนิค สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 79.2 -89.2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล