กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง
บล.ทรีนีตี้ เคาะเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยปีหน้าที่ 1,730 จุด เชื่อบรรยากาศการลงทุนดีขึ้น พร้อมประเมินภาพรวมการลงทุนเดือนสุดท้ายของปี คาดกระแสเงินลงทุน LTF และ RMF ไหลเข้าปลายปี แนะกลยุทธ์การลงทุนโยกเข้าสู่หุ้นในกลุ่ม SET50 และ SET100
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า มองบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี 2558 จะมีทิศทางที่ดีขึ้นในหลายด้านจากปีนี้ ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินเป้าหมายดัชนี SET Index ปีหน้าอยู่ที่ 1,730 จุด อิง Forward PE ที่ 13.8 เท่า สำหรับเดือนธันวาคมนี้ มองว่า SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,575-1,620 จุด โดยคาดว่าจะมีแรงหนุนตามการปรับตัวขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลาง ซึ่งจากสถิติจะสามารถปรับตัวได้ดีในเดือนธันวาคมของทุกปี
ทั้งนี้มีปัจจัยสนับสนุนได้แก่ กระแสเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน LTF/RMF ไหลเข้าในช่วงท้ายปี โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม SET50 และ SET100 ที่น่าจะปรับตัว Outperform หุ้นขนาดเล็ก (Non SET100) และระดับการ Long สุทธิในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ของ Hedge fund ที่มีปริมาณลดลง สะท้อนถึงมุมมองที่ดีต่อสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงส่งผลกระทบเชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งจะกดดัน SET Index ได้พอสมควร เนื่องจากกลุ่มพลังงานเป็นหมวดอุตสาหกรรม (Sector) ที่มีมูลค่าตลาด (Market cap) ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของตลาด และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของสหรัฐฯ ในวันที่ 16-17 ธันวาคมนี้ อาจมีเนื้อหาในเชิง Hawkish มากขึ้น หลังตัวเลขอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์อย่างมาก นอกจากนั้นคาดจะมีแรงขายปิดกองของ Trigger fund ที่บริเวณดัชนี 1,600 – 1,620 จุด
นายณัฐชาต กล่าวแนะนำกลยุทธ์การลงทุนว่าในเดือนสุดท้ายของปีนี้แนะนำให้นักลงทุนสับเปลี่ยน (Switch) การลงทุนออกจากหุ้นขนาดเล็กเข้าสู่หุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางใน SET50 และ SET100 เพื่อลดความเสี่ยงการขายทำกำไรของหุ้นขนาดเล็ก มีการปรับตัวสูงแล้ว โดยหุ้นที่แนะนำสำหรับเดือนธันวาคมตามบทวิเคราะห์ The Big Picture ได้แก่ หุ้นกลุ่ม Blue chip ที่เป็นเป้าหมายของเม็ดเงินจากกองทุน LTF/RMF ได้แก่ INTUCH, SCB, SCC, หุ้นกลุ่มสายการบินที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ถูกลง ได้แก่ THAI, AAV, หุ้นกลุ่มที่มีโอกาสถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET50 ได้แก่ SPALI, หุ้นกลุ่มสื่อและบันเทิงที่ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว ได้แก่ VGI และหุ้นกลุ่มที่เริ่มเป็นเป้าหมายของนักลงทุนสถาบันต่างประเทศหลังถูกบรรจุในดัชนี MSCI หุ้นขนาดใหญ่ได้แก่ TUF