กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--My Brand Agency
อำเภอสามพรานคึกคัก ชาวกรุงกว่า 7,000 คน แห่ร่วมงานวันสังคมสุขใจหวังกระตุ้นการผลิตและการบริโภคเกษตรอินทรีย์ฟื้นชื่อเสียง อำเภอสามพราน “แหล่งปลูกผักผลไม้คุณภาพดี
อำเภอสามพราน ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล มูลนิธิสังคมสุขใจ เครือข่ายเกษตรกร มหาวิทยาลัย ภาครัฐ ภาคเอกชน ภายใต้โครงการสามพรานโมเดล ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จะจัดงาน “มหกรรมวันสังคมสุขใจ” ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 29 -30 พฤศจิกายน 2557 ในสวนสามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม ภายใต้แนวคิด ย้อนสังคมไทย สู่เกษตรอินทรีย์ เพื่อชีวีปลอดภัย ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานสินค้าอินทรีย์ เพื่อพัฒนาอำเภอ สามพราน ให้เป็นชุมชนแห่งความสุขปลอดสารเคมี เป็นแหล่งใหญ่ในการผลิตสินค้าอินทรีย์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
วัตถุประสงค์การจัดงานสังคมสุขใจ เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้นำผลผลิตอินทรีย์และอาหารปลอดภัย มาจัดแสดงและจำหน่ายให้กับผู้บริโภคโดยตรง รวมทั้งสร้างความตระหนักและความตื่นตัวให้กับเกษตรกร ผู้บริโภค และภาคส่วนต่างๆ ให้ลดการใช้สารเคมี หันมาบริโภคพืชผักอินทรีย์ ซึ่งมีความปลอดภัยต่อทั้งสุขภาพของผู้ปลูก ผู้ซื้อ และผู้บริโภค ในการจัดงานครั้งนี้ยังมุ่งหวังที่จะฟื้นชื่อเสียงอำเภอสามพรานให้เป็นแหล่งปลูกผักผลไม้คุณภาพ
สำหรับงานวันสังคมสุขใจ ครั้งที่ 1 นี้ จัดขึ้น ในวันที่ 29-30 พฤศจิกายน นี้ ที่สวนสามพราน จ. นครปฐม โดยได้รับเกียรติจาก หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานในวันที่ 29 พฤศจิกายน ซึ่งไฮไลต์ของงาน จะเป็นการเปิดตลาดน้ำอินทรีย์ย้อนยุค ซึ่งเกษตรกร อ.สามพราน และใน จ.นครปฐมนำผลผลิตอินทรีย์ลงเรือมาจำหน่าย และตลาดบกโบราณอินทรีย์ ก็มีผลผลิตอินทรีย์ สดจากไร่ ตัดใหม่จากสวนของเกษตรกรกว่า 100 ชนิด มาให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ ในราคาสบายกระเป๋า
ฯพณฯ มล. ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่งานวันสังคมสุขใจ ได้จัดให้มีกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมเกษตรกรให้หันมาสนใจการเพาะปลูกเกษตรอินทรีย์ และผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ พืชผักปลอดภัย รวมกลุ่มนำผลผลิตมาจัดแสดงและจำหน่าย เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และยังก่อให้เกิดการบูรณการร่วมกันในการพัฒนาการทำเกษตรอินทรีย์ให้ยั่งยืนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ประชาชน เยาวชน ทั่วไปได้ท่องเที่ยวพักผ่อนไปพร้อมกับการมีส่วนร่วมในการศึกษาเรียนรู้วิธีการทำผลิตภัณฑ์อินทรีย์ต่างๆ ในกลุ่มของสามพรานโมเดล ที่สามารถนำกลับไปปรับใช้กับวิถีชีวิตประจำวันได้
ด้านนายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จังหวัดนครปฐมได้สร้างมิติใหม่ในการทำงานแบบมีส่วนร่วม จากทุกภาคส่วนจนเกิดเป็นงานวันสังคมสุขใจในวันนี้ ที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรอินทรีย์ นำผลผลิตมาจัดแสดงและจำหน่าย อีกทั้งยังช่วยส่งเสริม ให้มีการทำเกษตรอินทรีย์แพร่หลายในอำเภอสามพราน และขยายคลอบคลุมทั่วทั้งจังหวัดนครปฐม ซึ่งนอกจากส่งเสริมให้เศรษฐกิจชุมชนดีขึ้น ยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้เกิดการกินอยู่ปลอดภัยอย่างยั่งยืน เพื่อให้จังหวัดนครปฐมของเราเป็นต้นแบบของการพัฒนาและบูรณาการร่วมกัน ของการทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะสร้างความภาคภูมิใจให้เกษตรกรและภาครัฐของจังหวัดนครปฐมเราได้เป็นอย่างดี
“งานสังคมสุขใจครั้งนี้ มีความสำคัญและมีความหมายมาก เพราะจากมุ่งมั่นพยายามจากทุกภาคส่วน ทำให้วันนี้ อ.สามพราน เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด คือเกษตรกรตระหนักถึงพิษภัยของสารเคมี หันมาทำการเกษตรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น และขยายเครือข่ายกว้างออกไปเรื่อยๆ ส่งผลให้เกษตรกรจำนวน 30 ราย กำลังจะได้รับการรับรองมาตรฐานอินทรีย์สากล IFOAM (International Federation of Organic Agriculture Movement) จากสำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.)”
นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพรานริเวอร์ไซด์ และ เลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ ในฐานะประธานจัดงานวันสังคมสุขใจ ครั้งที่ 1 กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งถือเป็นการรวมตัวของเกษตรกรอินทรีย์ครั้งใหญ่ที่สุดใน.จ.นครปฐม และตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้ง 2 วันมีผู้บริโภคให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 7,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนกรุง สะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัวของคนเมืองที่รักษ์สุขภาพรวมถึงเกษตรกรอินทรีย์เองด้วย ที่หันมาให้ความสนใจกับการทำเกษตรอินทรีย์กันมากขึ้น ซึ่งความสำเร็จนี้ทางสามพรานร่วมกับภาคีนำไปขยายผลต่อ ด้วยการจัดตลาดนัดสุขใจสัญจร โดยให้เกษตรกรในเครือข่ายนำพืชผักผลไม้อินทรีย์ ไปออกร้านจำหน่ายตามหน่วยงานหรือองค์กร ย่านธุรกิจใหญ่ๆ ในกรุงเทพ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนเมืองที่รักษ์สุขภาพ ได้เลือกซื้อสินค้าจากเกษตรกรโดยตรง
ซึ่งตลอดทั้งสองวันของการจัดงานวันสังคมสุขใจ จะมีกิจกรรม ชม ช็อป ชิม แชร์ เพื่อให้ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจในการใช้วิถีชีวิตอินทรีย์ให้กับผู้เข้าชมงาน อาทิ ชม ซุ้มกุหลาบมอญอินทรีย์ ไอเดียบ้านดินพอเพียงในฝัน การสอนเทคนิคการทำปุ๋ย การบำรุงดิน การปลูกพืชผักสวนครัวในกระถาง และจากวัสดุเหลือใช้ชิมเมนู เช่น นพเก้าน้ำพริกสูตรเด็ด 9 ชนิด พร้อมข้าวหุงหม้อดิน 9 สายพันธุ์ ที่เคียงมากับผักไทยพื้นบ้านสดๆ รวมถึงช็อปผักผลไม้อินทรีย์ และเพื่อฟื้นตำนานข้าวสารขาว ลูกสาวสวย และมีการประกวดลูกสาวชาวสวน เพื่อทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์การจัดงานวันสังคมสุขใจ ในปีต่อๆไปด้วย พร้อมเปิดจำหน่ายข้าวอินทรีย์ชนิดต่างๆ อาทิ ขาวหอมนิล ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนครชัยศรีอินทรีย์ของเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์ที่เพิ่งเก็บเกี่ยวเสร็จไปสดๆ ร้อนๆ
โดยภายในงาน ยังมีสินค้าเด่นๆหลากหลายชนิด ทั้งมีการสาธิตวิธีการทำต่างๆ จากกลุ่มเกษตรกรแต่ละกลุ่ม อาทิ กลุ่มเครือข่ายพี่น้อง 2 ตำบล +... มีการสาธิตวิธีการทำปุ๋ยใช้เอง, การสีข้าวโดยใช้เครื่องสีขนาดเล็ก และ มีการยกวงประชุมเข้ามาเพื่อแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของกลุ่ม ด้วยการ หิ้วปิ่นโตเก็บพืชผักจากสวนที่เราปลูกเอง มานั่งร่วมวงกินข้าวกลางวันร่วมกัน กลุ่มบางช้าง ก็จะเด่นในเรื่อง สมุนไพร, ผลไม้ต่างๆ กลุ่มหอมเกร็ด มีกิ่งชำ และพันธุ์ไม้ จำพวกมะพร้าว กล้วยมุก กล้วยนาก ที่สามารถนำไปขยายพันธ์ได้ทันที ซึ่งกลุ่มหอมเกร็ดเป็นกลุ่มเกษตรกรที่เพิ่งฟื้นตัวจากน้ำท่วมได้ไม่นาน ส่วนใหญ่จึงมีแค่กิ่งพันธุ์ที่พร้อมจะขยายพันธุ์ต่อไป
กลุ่มคลองโยง เน้นเรื่องข้าวโดยเฉพาะหอมนครชัยศรี ที่ชาวนาร่วมกันพลิกฟื้นกลับมาปลูกกันอีกครั้งหลังจากข้าวสายพันธุ์นี้หายไปจาก จ.นครปฐม นานกว่า 40 ปี นอกจากนี้ยังมีข้าวหอมนิลและพืชผักผลไม้ต่างๆ อีกทั้งมีการสาธิตวิธีการโม่แป้งแบบโบราณ กลุ่มส้มโอไทยทวี จะเด่นในเรื่องส้มโอนครชัยศรีแท้ มีทั้งพันธุ์ทองดี รสหวานฉ่ำ ขาวน้ำผึ้งส้ม ส่วนนครชัยศรี จะมีรสหวานกรอบ กลุ่มแพร่ จุดเด่น – เสื้อม่อฮ่อม, ชาสมุนไพร ซึ่งในวันงานจะมีสาธิตวิธีการย้อมเสื้อม่อฮ่อม ที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ รวมถึงชาสมุนไพรที่สามารถเก็บได้จากสวน แล้วนำมาทำเป็นชา ชงดื่มเพื่อสุขภาพ อีกทั้งเด็กนักเรียนในโครงการบวรอินทรีย์ 10 โรงเรียนขนผักผลไม้ที่กันเองมาออกร้านจำหน่าย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Post&Share สำหรับผู้ชอบถ่ายรูปลง Facebook ชิงรางวัลห้องพักจากสามพรานริเวอร์ไซด์อีกด้วย
“ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่มารวมพลัง ขานรับสามพรานโมเดลและร่วมกัน จัดงานวันสังคมสุขใจ และขอบคุณ ผู้บริโภค ที่มาให้การสนับสนุน การจัดงานครั้งนี้ ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 วันของการจัดงาน มีผู้บริโภคให้ความสนใจเข้าร่วมงาน กว่า 7,000 คน ทำให้สินค้าอินทรีย์ ของเหล่าบรรดาพ่อค้า แม่ค้า รวมถึงเด็กนักเรียนจากโครงการบวรอินทรีย์ทั้ง 10 โรงเรียน ขายดิบขายดี สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเกษตรกรได้เห็นความต้องการของตลาดที่กว้างขึ้น เพื่อนำไปพัฒนาแปลงปลูกและแผนการจัดการผลผลิต ส่วนด้านผู้บริโภคซึ่งได้เจอ พบปะคุยกับเกษตรกรโดยตรง ก็จะมีความมั่นใจในสินค้าที่เขาซื้อมากขึ้น ตลอดจนรู้แหล่งสินค้าอินทรีย์ ด้านภาครัฐ-เอกชน และ NGO ก็จะเห็นถึงความตื่นตัวของสังคม และหันมาช่วยกันส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาโซ่อุปทานอินทรีย์ สู่การสร้างสังคมสุขใจ ให้กับชุมชนอื่นๆ สำหรับในปีต่อไป เราจะจัดในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ เรายังจะมีกิจกรรม ตลาดสุขใจสัญจร ไปยังอาคารสำนักงานต่างๆ ซึ่งผู้สนใจสามารถ ติดต่อมาที่มูลนิธิสังคมสุขใจ ที่ 034-322-588-93 หรือติดตามข้อมูล ทาง Facebook /สามพรานโมเดล ” นายอรุษ กล่าว ปิดท้าย