กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
‘บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป’ ผู้ผลิตอาหารแบบครบวงจรที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตไก่และสุกรที่ดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม โชว์ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแข็งแกร่ง ทำกำไรสุทธิโต 23.58% หลังบริหารจัดการเพื่อมุ่งให้เกิดผลตอบแทนสูงสุดจากการดำเนินธุรกิจผลิตไก่และสุกรเพื่อป้อนความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ด้านผู้บริหารเดินหน้าตอกย้ำสร้างประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ดันผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง
นายวิณห์ ธนิตติราภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตอาหารแบบครบวงจรที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตไก่และสุกร โดยได้ดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม เพื่อจำหน่ายให้แก่นายหน้าซื้อขาย ผู้ค้าปลีก โรงผลิตชิ้นส่วนสัตว์ บริษัทค้าปลีกแบบสมัยใหม่และบริษัทอุตสาหกรรมค้าปลีก ตัวแทนส่งออกและตัวแทนรับซื้อเพื่อส่งออก เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 12,851.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 11,689.1 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 884.6 ล้านบาท เติบโต 23.58% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 715.8 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานที่เติบโตได้อย่างโดดเด่นทั้งในส่วนของรายได้จากการขายและการให้บริการ รวมถึงกำไรสุทธิมาจากปัจจัยความสำเร็จจากยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างผลประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรในธุรกิจผลิตไก่และสุกร ตั้งแต่กระบวนการเพาะพันธุ์ การเลี้ยง ผลิตและจำหน่าย โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการเลี้ยงไก่พ่อแม่พันธุ์ในฟาร์มเพาะพันธุ์ไก่ ฟักไข่ในโรงฟักก่อนจัดให้เกษตรกรเป็นผู้เลี้ยงไก่ของบริษัทฯ และนำไก่กลับมาเพื่อส่งไปที่โรงผลิตชิ้นส่วนสัตว์ของบริษัทฯ ขณะที่ธุรกิจสุกรนั้น บริษัทฯ ได้ใช้แนวคิดเดียวกัน ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างผลตอบแทนจากการดำเนินธุรกิจผลิตไก่และสุกรได้สูงสุด
ขณะเดียวกัน ธุรกิจการผลิตอาหารสัตว์ แม้ว่าเกือบร้อยละ 90% ของกำลังการผลิตทั้งหมดจะถูกผลิตเพื่อนำไปใช้เลี้ยงไก่และสุกรของบริษัทฯ และส่วนที่เหลือจะนำไปจำหน่ายให้แก่ลูกค้าภายนอก แต่ก็ยังสามารถรักษาการเติบโตที่ดีในแง่ของรายได้จากการขายและการให้บริการ ซึ่งช่วยให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตได้ตามแผนงานที่วางไว้
“ผลการดำเนินงานของเรายังมีอัตราการเติบโตที่ดี เนื่องจากแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ที่มุ่งสร้างผลตอบแทนสูงสุดจากการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทฯ โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจไก่คิดเป็นร้อยละ 72.3 ของรายได้รวม รองลงมาได้แก่ธุรกิจสุกร และธุรกิจผลิตอาหารสัตว์” นายวิณห์ กล่าว
ส่วนภาพรวมไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทฯ ยังคงตอกย้ำยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างผลประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรในธุรกิจผลิตไก่และสุกร ซึ่งเป็นแนวทางที่จะสามารถผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีเป้าหมายสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรม เนื้อสัตว์ของไทยและเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในการจำหน่ายไก่และสุกรในประเทศไทยที่ได้มาตรฐานระดับสากล