กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--
นำผลงานเด่นทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม และเหรียญบูชากับพระที่คัดสรรเฉพาะหมายเลข 9 รวมถึงพระส่วนตัวชุดพิเศษกว่า 150 องค์ ที่ไม่มีใครเคยเห็นและประเมินค่าไม่ได้ มาจัดแสดงให้ชมเป็น ครั้งแรกที่สยามพารากอนเพื่อร่วมฉลองครบ 9 ปี จากเดิมที่ตั้งใจว่าจะเปิดให้ชมในวันแซยิดครบ 60 ปีที่วัดร่องขุ่น
อ. เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ จะนำผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม และพระพุทธรูป ตลอดจนเหรียญบูชาชุดสำคัญซึ่งจะนำไปประดิษฐานที่หอพระพิฆเนศ ณ วัดร่องขุ่น มาจัดแสดงให้ชมเป็นพิเศษในนิทรรศการ พุทธศิลป์แห่งรัชกาลที่ 9 โดย เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ “ชมพระ ส่องพระ ส่องใจ” ในวันที่ 5 – 14 ธันวาคม ศกนี้ ที่ไลฟ์สไตล์ฮอลล์ ชั้น 2 สยามพารากอน ในงาน Siam Paragon 9 Anniversary, The Magical Phenomenon ปรากฏการณ์มหัศจรรย์แสนวิเศษ ฉลองครบรอบ 9 ปี สยามพารากอน จากเดิมที่ตั้งใจว่าจะเปิดให้ชมครั้งแรกในวันแซยิดครบ 60 ปี ที่วัดร่องขุ่น เชียงราย ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2558 แต่เมื่อสยามพารากอนจัดงานฉลองครบ 9 ปี และขอเชิญให้ อ.เฉลิมชัยเข้าร่วม จึงตอบตกลงด้วยความจงรักภักดีและเคารพเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทั้งนี้ อ. เฉลิมชัยให้ความสำคัญกับงานทุกชิ้นที่เป็นพุทธศิลป์แห่งรัชกาลที่ 9 โดยเป็นการทำงานอย่างประณีตวิจิตรบรรจงที่สุดเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากการที่มีโอกาสได้ถวายงานในฐานะหนึ่งในศิลปินผู้วาดภาพประกอบหนังสือพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” และทรงมีพระราชกระแสรับสั่งที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานพุทธศิลป์และศิลปะประจำรัชกาลที่ 9 ทั้งด้านสถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม และพระเครื่อง ที่ล้วนเป็นปัจเจกลักษณะ แตกต่างจากทุกยุคทุกสมัยและเป็นหนึ่งเดียวในโลก
งานศิลปกรรมแต่ละประเภทมีไฮไลต์ที่จะจัดแสดงเป็นครั้งแรกในงานนี้ ได้แก่ จิตรกรรม ภาพ “ความเบิกบานแห่งรัชสมัย ร.9” ภาพวาดสีอะครายลิคบนผ้าใบ ขนาดกว้าง 2.80 เมตร x สูง 1.70 เมตร และภาพ “พระเมตตาบารมี” ที่วาดขึ้นเพื่อนำมาให้ชมในนิทรรศการครั้งนี้โดยเฉพาะ ด้าน ประติมากรรม จะจัดแสดง “พระพุทธเมตตาแห่งรัชกาลที่ 9” พระพุทธรูปหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ความสูง 3 เมตร เป็นงานพุทธศิลป์ชิ้นใหญ่ที่สุดและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ อ. เฉลิมชัย ซึ่งแตกต่างจากพระพุทธรูปในยุคสมัยอื่นๆ โดยใช้เวลา
ในการสร้างกว่า 3 ปี สำหรับ พระพุทธรูปและเหรียญบูชาต่างๆ ทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน และเนื้อนวะโลหะ ได้คัดสรรเฉพาะชุดสำคัญที่เป็นหมายเลข 9 เท่านั้น ซึ่งหลายคนแสวงหาและต้องการครอบครอง เพราะคนไทยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเลข 9 กับพระชุดพิเศษที่คัดไว้เป็น A.P. (Artist Proof) ของส่วนตัว รวมทั้งสิ้นประมาณ 150 องค์ที่ไม่มีใครเคยเห็นและเป็นผลงานที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ แต่ละองค์มีรายละเอียดที่ประณีตงดงามให้ชื่นชมด้วยการส่องผ่านเลนส์ขยายกำลังสูงพิเศษที่จัดไว้กว่า 50 ตู้ โดยไม่มีการจำหน่าย แต่จะเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ของวัดร่องขุ่นให้เป็นสมบัติของชาติต่อไปหลังจากจบนิทรรศการนี้
อ. เฉลิมชัยเริ่มสร้างงานพุทธศิลป์ที่เป็นพระและเหรียญบูชาเมื่อปี พ.ศ. 2550 ประกอบด้วย พระพุทธเจ้า พระราหู พระพิฆเนศ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และพระเครื่องที่นำพระประธานของวัดร่องขุ่นมาเป็นแบบ เหตุผลของการสร้างศิลปะพระเครื่องเพื่อยกระดับและปรับรสนิยมให้ชาวบ้านได้รู้จัก ซึมซับ และสามารถเข้าถึงความงดงามทางศิลปะได้ใกล้ตัวมากขึ้น
“ผมสร้างพระด้วยจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์ เป็นผลงานพุทธศิลป์ที่ให้ความสำคัญกับความละเอียดอ่อน ประณีตงดงาม มีคุณค่าทางสุนทรียภาพที่ยิ่งใหญ่ จึงเชื่อว่ามีเทพเทวามาสถิตอยู่แล้วโดยไม่เน้นความศักดิ์สิทธิ์จากพิธีกรรมใดๆ พระทุกองค์สร้างขึ้นด้วยการลงทุนที่สูงมาก ตั้งแต่การออกแบบ แกะแบบ หล่อแบบ ฯลฯ ยากที่สุด ด้วยความตั้งใจให้เป็นงานศิลปะในระดับสากลสำหรับการชื่นชมในสุนทรียภาพ ไม่ใช่การกราบไหว้ ผู้คนทุกศาสนาสามารถเสพความงามได้โดยไม่แบ่งแยกว่าเป็นพุทธ คริสต์ อิสลาม หรือผู้นับถือศาสนาใดๆ และผมหวังที่จะทำให้วงการผู้สร้างพระเครื่องในยุคนี้และอนาคต ต้องพัฒนาตัวเองในเรื่องความสวยงามให้คู่ไปกับความศักดิ์สิทธิ์ ไม่เช่นนั้นก็จะขายไม่ได้ พระในสมัยโบราณทั้งหลายล้วนสวยงาม แต่พอมาถึงช่วงปลายยุครัตนโกสินทร์ก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ยิ่งผลิตเพื่อการค้ายิ่งทำให้คุณภาพความงามต่ำลง” อ. เฉลิมชัย กล่าว
นอกจากนี้ ในนิทรรศการ พุทธศิลป์แห่งรัชกาลที่ 9 โดย เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ “ชมพระ ส่องพระ ส่องใจ” ยังนำผลงานพุทธศิลป์ทั้งจิตรกรรมและประติมากรรมของ อ. เฉลิมชัย ที่หาชม ได้ยากมาจัดแสดงด้วย เช่น พระพุทธประทานความสุข, พระพุทธประทานยศบารมี, พระพิฆเนศ ฯลฯ รวมทั้งประติมากรรมต้นแบบ ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา, เชิดชูคุณธรรม โดยบางส่วนจะขอยืมมาจากนักสะสมหลายท่าน
พบกับผลงานชุดสำคัญของศิลปินแห่งชาติผู้มีชื่อเสียงของไทย ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมเฉลิมฉลองวาระพิเศษครบ 9 ปีของสยามพารากอน ได้ที่ไลฟ์สไตล์ฮอลล์ ชั้น 2 ตั้งแต่วันที่ 5 – 14 ธันวาคมนี้ โดยไม่ต้องเดินทางไปชมถึงเชียงราย