กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--สำนักงาน กปร.
จากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศ์ ที่ได้พระราชทานพระราชดำริ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อน ให้แก่พสกนิกรชาวไทยในทุกภูมิภาคของประเทศ ส่งผลให้เกิดแนวคิดทฤษฎีการพัฒนาผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริถึง 4,447 โครงการ ทั่วประเทศ กล่าวได้ว่าทุกพื้นที่ที่มีปัญหาทั้ง 2 พระองค์จะทรงเข้าไปช่วยเหลือและบำบัดทุกข์สร้างสุขให้แก่อาณาประชาราษฎร์
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ในฐานะหน่วยงานกลางในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสนองพระราชดำริ และทำหน้าที่รวบรวมพระราชดำริ ประสานงานติดตามประเมินผล และประชาสัมพันธ์โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้กับประชาชนคนไทยและต่างชาติได้รับความรู้ และตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และเพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณให้เป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกัน จึงได้ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต
ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี จัดโครงการเผยแพร่แนวพระราชดำริ และผลสำเร็จจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้กับประชาชนคนไทยที่พำนักในประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส และสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ทั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 นำโดย
นายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ เลขาธิการ กปร. พร้อมคณะสื่อมวลชนไทย ร่วมเดินทางในการเผยแพร่แนวพระราชดำริและผลสำเร็จของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมกับร่วมถ่ายทอดสำนึกรักในพระมหากรุณาธิคุณและแผ่นดินไทยของคนไทยในต่างแดน ภายใต้โครงการ “สื่ออาสา สืบสานพระราชดำริ ในต่างแดน”
การเผยแพร่พระราชดำริ การทรงงานและผลสำเร็จจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในครั้งนี้ ได้นำนิทรรศการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่โครงการแรกที่บ้านห้วยมงคล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่มีมากถึง 3,000 กว่าโครงการ ด้วยพระอัจฉริยภาพของทั้งสองพระองค์ที่ทรงเล็งเห็นความสำคัญและจำเป็นของแหล่งน้ำ ดังที่ว่า “น้ำคือชีวิต” ทั้งเพื่อการอุปโภค บริโภค และการเพาะปลูก พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเป็นอันดับแรก เพื่อให้เกษตรกรไทยได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ก็ด้วย “พลังสายน้ำ พลังแผ่นดิน สร้างชีวิตที่ยั่งยืน ของผสกนิกรของพระองค์ และโครงการการพัฒนาดิน ป่าไม้ พลังงานทดแทน อาชีพ รวมถึงพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศถึง 900 โครงการ ที่เป็นการเสริมงานพัฒนาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการส่งเสริมและสร้างงานศิลปาชีพ ตลอดจนการแก้ไขปัญหาการจ้างงานการประกอบอาชีพและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ก่อเกิดเป็นโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ฯ โครงการฟาร์มตัวอย่าง ตามพระราชดำริ สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ธนาคารอาหาร ทั้งหมดล้วนสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างสุข ให้แก่ประชาชนและผืนแผ่นดินไทยอย่างยั่งยืน
“กษัตรินักพัฒนา และผลจากการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ” คำบรรยายจากนายสุวัฒน์ เทพอารักษ์เลขาธิการ กปร. ที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์การทำงานสนองพระราชดำริ และหลักการทรงงานที่ทั้ง 2 พระองค์ได้ทรงปฎิบัติมาอย่างต่อเนื่อง ได้บอกเล่าสู่ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติของทั้ง 2 ประเทศ ได้ตระหนักและรับรู้รับทราบถึงพระราชกรณียกิจที่ทั้งสองพระองค์ได้ทรงเสียสละพระวรกายทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรชาวไทยให้ได้อยู่ดีกินดีมีอาชีพ และคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเท่าเทียมกันแม้ขณะที่ทั้งสองพระองค์จะทรงพระประชวรก็ตาม
นอกจากนี้ ยังได้นำผลสำเร็จจากการพัฒนาในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไปเผยแพร่ในรูปของผลผลิตและผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรทั้งด้านการเกษตร ผลิตภัณฑ์แปรรูป หัตถกรรมและงานศิลปาชีพ ซึ่งมีทั้งข้าว วุ้นเส้น ข้าวเกรียบ เห็ด น้ำพริกที่มาจากผลผลิตทางการเกษตร สบู่ น้ำยาสระผม ยาดมจากสมุนไพร กระบุง ตระกร้า กระเป๋า หมวกจากหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ และผลิตภัณฑ์จากกระจูดพืชท้องถิ่นของภาคใต้ ทั้งหมดเป็นการสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่เกษตรกรไทย ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่นำไปจัดแสดงได้รับความสนใจทั้งชาวไทยและต่างชาติป็นอย่างดียิ่ง
ประชาชนคนไทยจากทั้ง 2 ประเทศ ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพร้อมกับร่วมใจกันจุดเทียนชัยถวายพระพร เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 ด้วยการร่วมร้องเพลงสดุดีมหาราชา เพลงสรรเสริญพระบารมี และลงนามถวายพระพร นับเป็นความประทับใจของชาวไทยในต่างแดนด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้