กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--IR network
บมจ.เด็มโก้ มั่นใจรายได้ไตรมาส4/57 โตต่อเนื่อง รับเหนาะๆปันผลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมรอบสอง 50ล้านบาท "พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์"ฟันธงแนวโน้ม"รายได้-กำไรปี 58 ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อานิสงส์กฟผ.ทุ่มงบลงทุนสายส่งและสถานีไฟฟ้าสูงสุดในรอบ 5 ปี รวมทั้งการขยายตลาด โซล่าฟาร์ม 1.4 พันเมกกะวัตต์ พร้อมลุยลงทุนพลังงานทดแทนทั้ง"พลังงานลม-แสงอาทิตย์-ขยะ" ตั้งเป้าเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 200 เมกกะวัตต์ ไม่หวั่นข่าวผู้ถือหุ้น บริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ส์ โฮลดิ้ง เนื่องจากพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่งทั้งธุรกิจรับเหมา และ การลงทุนที่จะขยายตัวต่อเนื่อง
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) (DEMCO) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2558 คาดว่าจะทำลายสถิติสูงสุดทั้งในด้านรายได้ และ กำไร โดยในด้านรายได้จะมาจากการขยายขนาดของตลาด บริษัทจะได้ประโยชน์จากการลงทุนด้านสายส่งและสถานีไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ประกาศงบลงทุน 5 ปี มากกว่า 120,000 ล้านบาท การลงทุนจาก กฟภ. ปีละกว่า 20,000 ล้านบาท รวมถึงส่วนเพิ่มจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ตามประกาศของ กระทรวงพลังงาน 1,445 เมกกะวัตต์ มูลค่าลงทุนมากกว่า 86,000 ล้านบาท สำหรับรายได้จากการลงทุนบริษัทจะรับรู้รายได้ จากการถือหุ้น 15 % ในโครงการพลังงานลมห้วยบง 2,3 รวมทั้งโครงการโซล่าและ โซล่ารูฟ จำนวน 3 เมกกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินปันผล ในปี2558 จำนวนรวม 195 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า จากนโยบายภาครัฐซึ่งสนับสนุนให้มีการลงทุนในพลังงานทดแทน ทั้งโซล่าฟาร์ม 1,445 เมกกะวัตต์ โรงไฟฟ้าขยะ 400 เมกกะวัตต์ เด็มโก้กำลังศึกษาที่จะเข้าลงทุนในโซล่าร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าขยะรวม 100-200 เมกกะวัตต์ ในระยะเวลา 2 ปี โดยในปี 2558 คาดว่าจะมีการลงทุนประมาณ 70 เมกกะวัตต์จากโครงการโรงไฟฟ้าขยะ 16 เมกกะวัตต์ โซล่าฟาร์ม 50 เมกกะวัตต์ ซึ่งจากแผนลงทุนนี้จะทำให้บริษัทเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 140 เมกกะวัตต์ ในปี 2558 และจะเพิ่มขึ้นอีก 80-100 เมกกะวัตต์ ในปี 2559
"การลงทุนที่เพิ่มขึ้นในอนาคตนี้ บริษัทเห็นว่าไม่ต้องมีการเพิ่มทุน เนื่องจากโครงสร้างเงินทุนที่ประกอบด้วย Demco-W5,Demco-W6,ESOP จำนวนรวม 1,500 ล้านบาท รวมกับหุ้น 4% จำนวน 4.2 ล้านหุ้น ที่บริษัทถืออยู่ในWEH ซึ่งปัจจุบันซื้อขายนอกตลาดอยู่ที่ราคา 570 บาท/หุ้น จะทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดอีกไม่น้อยกว่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งจากโครงสร้างเงินทุนที่มาจาก Warrant , ESOP และหุ้น WEH มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท จะส่งผลให้บริษัทสามารถกู้เงินราว 8,000-10,000 ล้านบาท บนอัตราส่วน DE Ratio 2.5 เท่า ทำให้บริษัทมีศักยภาพในอนาคตที่จะลงทุนในธุรกิจ 12,000-14,000 ล้านบาทเพื่อรองรับการลงทุนโรงไฟฟ้าขนาด 200- 250 เมกกะวัตต์ในอนาคต ได้อย่างสบาย "นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
“สำหรับกระแสข่าวที่ปรากฏในสื่อที่เกี่ยวกับผู้ถือหุ้น WEH นั้น บริษัทเห็นว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผู้ถือหุ้นไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท บริษัทยังมีความมั่นใจว่า ทีมคณะกรรมการและผู้บริหารบริษัท WEH เป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูงทั้งในด้านการเงินและธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม จะผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานลมของWEH ให้เป็นไปตามแผน เนื่องจากโครงการแต่ละโครงการได้ผ่านการพัฒนาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และมีความพร้อมที่จะเข้าสู่ช่วงการก่อสร้างตามลำดับ” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวเสริม
ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 3/57 และงวด 9 เดือน มีรายได้รวม 1,521.37 ล้านบาท และ 3,282.30 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 118.29 ล้านบาทและ 248.94 ล้านบาท ขณะที่สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 6,090.42 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 5,888.07 ล้านบาท
นอกจากนี้ในเดือน ธ.ค.2557 บริษัทจะได้รับเงินปันผลจากการลงทุนในโครงการพลังงานลมห้วยบง 2,3งวดที่สองจำนวน 50 ล้านบาท รวมเป็นเงินปันผลที่รับในปีนี้ทั้งสิ้น 166.46 ล้านบาท