กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--กทบ.
นายแพทย์พลเดช ปิ่นประทีป กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของกองทุนหมู่บ้าน เปิดเผยว่า จากการจัดประชุมเพื่อกำหนดทิศทางอนาคตของกองทุนหมู่บ้าน โดยมีนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ อาจารย์ไพบูลย์ วัฒนศิรธรรม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ร่วมกันจัดประชุมเพื่อเป็นการกำหนดทิศทางอนาคตของกองทุนหมู่บ้านและคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในระหว่างวันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2548 ณ โรงแรมแม็กซ์ พระรามเก้า กรุงเทพฯ และมีผู้แทนของกองทุนหมู่บ้านจากทั่วประเทศมาร่วมประชุม จำนวน 208 คน โดยมาจากภาคใต้ 34 คน ภาคเหนือ 44 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 66 คน ภาคกลาง 44 คน และผู้แทนกองทุนหมู่บ้านชุมชนมุสลิม จำนวน 4 คน
อย่างไรก็ตาม จากการคัดเลือกและมีการแบ่งกลุ่มเป็น 5 ภูมิภาค และเลือกกันเอง อย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้วิธีการปรึกษาหารือว่าใครควรจะเป็นตัวแทน สุดท้ายที่ประชุมได้เลือกผู้ทรงคุณวุฒิชาย 8 คน และหญิง 6 คน ดังนี้ ตัวแทนภาคเหนือ ได้แก่ น.ส.พัฒนา ผะอบเหล็ก จากจ.พิจิตร นายจรรยา จินตาทิพย์ จ.นครสวรรค์ และนายสุรกาญจน์ วิเชียรสรรค์ จ.พิษณุโลก ภาคอีสาน ได้แก่ นางสำรวย โล่นารายณ์ จ.บุรีรัมย์ นางไพเราะจิตร เจริญยิ่ง จ. หนองบัวลำภู และนายเลื่อน มุทุวงศ์ จ. อุบลราชธานี ภาคกลาง ได้แก่ นางสัมพร ดินทรี จ.ชลบุรี นางวิไลรัตน์ แตงไพโรจน์ จ. ปทุมธานี นายพินิจ ศาสตร์สาระ จ.นครปฐม และนายวันชาติ บุญเก่า จ.ฉะเชิงเทรา และสุดท้ายตัวแทนจากภาคใต้ ได้แก่ นางบุญหนุน ช่วยชูหนู จ.ชุมพร และนายสบาย ไสศรินทร์ จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ที่ประชุม ได้สรุปผลการประชุม โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. เสนอให้กองทุนหมู่บ้านในอนาคต เป็นสถาบันการเงินชุมชนที่มีบทบาทหน้าที่สนับสนุนการพึ่งตนเอง ของครอบครัว
2. ที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันว่า กรรมการในระดับหมู่บ้านต้องเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีวิสัยทัศน์ มีวิถีปฏิบัติ และเป็นแบบอย่างได้ มีความเข้าใจในปรัชญาของกองทุนหมู่บ้าน
3. ให้มีการจัดระบบและเชื่อมโยงข้อมูลกองทุนหมู่บ้านทุกระดับ มีสำนักงานศูนย์กลางประสานงานระดับภาคและระดับจังหวัด
4. กรรมการกองทุนระดับชาติ ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิ 14 คน ที่ประชุมมีความเห็น ให้กรรมการต้องมีความเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่พรรคการเมือง มีความเป็นอิสระในการตัดสินใจ สนับสนุนกองทุนหมู่บ้านระดับฐานให้บรรลุเป้าหมาย และแปรแนวคิดการสร้างสถาบันการเงินชุมชนเพื่อการพึ่งตนเองไปสู่การปฏิบัติได้จริง--จบ--