กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
‘DRT’ มองสัญญาณตลาดวัสดุก่อสร้างไตรมาส 4 เริ่มฟื้นในตัวทิศทางที่ดี หลังห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่โหมแคมเปญกระตุ้นตลาดปลุกกำลังซื้อและกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เร่งผุดโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่ม ชูจุดแข็งด้านเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายและสินค้าที่มีความหลากหลาย รอจังหวะการลงทุนภาครัฐปลุกเศรษฐกิจฟื้นตัวเต็มที่ในปี 2558 หวังเก็บเกี่ยวยอดขายปรับตัวสูงขึ้น
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด อิฐมวลเบาและบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ ตราเพชร เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เริ่มมีสัญญาณในทิศทางที่เป็นบวก จากการฟื้นตัวของกำลังซื้อของลูกค้าที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น หลัง 9 เดือนแรกตลาดวัสดุก่อสร้างอยู่ในภาวะชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ปัจจัยการฟื้นตัวดังกล่าวมาจากกลุ่มผู้ประกอบการห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ทุกราย ต่างโหมทำแคมเปญกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อ DRT ที่มีจุดแข็งด้านเครือข่ายช่องทางการจำหน่าย ซึ่งครอบคลุมทั้งช่องทางขายห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่และกลุ่มลูกค้าโครงการ จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวดังกล่าว โดยพบว่ากลุ่มลูกค้าโครงการมียอดขายที่ดีขึ้นเนื่องจากบริษัทฯ มีการนำเสนอโซลูชั่นที่พร้อมด้วยสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี
“เราเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกของตลาดวัสดุก่อสร้างในไตรมาส 4 ที่ทยอยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ที่จะส่งผลดีต่อความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างที่มีมากขึ้น โดยเราประเมินว่ากลุ่มลูกค้าโครงการจะเป็นพระเอกที่ทำรายได้ให้กับ DRT มากขึ้น เนื่องจากขีดความสามารถการแข่งขันจากความพร้อมของสินค้าและบริการที่ดี เป็นผลให้สัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าโครงการของ DRT ในปีนี้ เพิ่มเป็น 13-14% จากเดิมที่มี 8-9% จากรายได้รวมปีนี้ 4,000 ล้านบาท” นายสาธิต กล่าว
รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า ส่วนภาพรวมในปี 2558 เชื่อว่าจะดีขึ้นต่อเนื่องหลังภาครัฐมีการขับเคลื่อนนโยบายลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ที่ช่วยให้เกิดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจและผลักดันให้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวได้ดีขึ้น จึงเป็นโอกาสของ DRT ที่มีจุดแข็งด้านช่องทางการขายและสินค้าที่มีความหลากหลาย จะสามารถเก็บเกี่ยวรายได้และกำไรที่ดีขึ้นจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 4-5% ได้