กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--ซีเค-คอนเนคชั่น
นางสาวจีจี้ (หลุ่ย) แซ่กั๊ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย วัน มอลล์ จำกัด กล่าวว่า เวปไซต์ออนไลน์ ไทย วัน มอลล์ เปิดโอกาสให้แก่นักธุรกิจและผู้ประกอบการไทยที่ต้องการจำหน่ายสินค้าไปยังประเทศจีน โดยไม่ต้องมีหน้าร้าน โดยเวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ อยู่ในส่วนของ Tmall ซึ่งอยู่ภายใต้แพลทฟอร์มอาลีบาบากรุ๊ป ซึ่งเป็นตลาด E-Commerce จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดในโลกในขณะนี้ เป็นที่นิยมมากในหลายทวีป เช่น ทวีปเอเชีย และทวีปอเมริกา เป็นต้น โดยรูปแบบ E-Commerce ของอาลีบาบากรุ๊ปจะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ C2C (Customer to Customer), B2C (Business to Customer) และ B2B (Business to Business) ซึ่ง ไทย วัน มอลล์ ได้เป็นหนึ่งในแพลทฟอร์ม B2C คือ การที่ผู้ประกอบการสามารถจำหน่ายสินค้าไปยังผู้บริโภคโดยตรง โดยในขณะนี้ เวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ มีผู้ใช้(USER) สัญชาติจีนสูงถึง 600 ล้านคน จากประชากรจีนทั้งหมด 1,400 ล้านคน โดยจำนวนลูกค้าของไทย วัน มอลล์ กว่า 13.9% จะมาจากเมืองกวางตุ้ง รองลงมาคือ เจ้อเจียง 10.7%และเจียงซู 10.3%
เวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ จำหน่ายสินค้า Thailand Best ซึ่งอยู่ใน Tmall ที่เป็นแพลทฟอร์มของอาลีบาบา กรุ๊ป และมีความน่าเชื่อถือ 100% จากการที่รัฐบาลจีนได้ให้การสนับสนุนเป็นพิเศษ อีกทั้งยังมีจุดแข็งในเรื่องของการชำระเงิน โดยลูกค้าสามารถชำระผ่าน Alipay.com โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน อีกทั้งยังมีระบบการจัดส่งสินค้ารวดเร็วไม่เกิน 10 วัน และได้รับสิทธิยกเว้นภาษีขนส่งสำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยมในเขตฟรีเทรดโซน เมื่อสินค้าส่งถึงบ้านและมีความเสียหาย ลูกค้าไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินจนกว่าจะได้รับความพอใจในสินค้า ในกรณีที่สินค้าชำรุดเสียหายระหว่างการจัดส่ง ลูกค้าสามารถพูดคุยกับผู้ประกอบการได้โดยตรง เนื่องจากเวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ มี Call Center แบบ Real time อยู่ทั้งในไทยและจีน ให้ลูกค้าสอบถามข้อมูลได้ตลอดเวลา ซึ่งนับได้ว่าเป็น Third Party Payment ที่ใหญ่และมีประสิทธิภาพที่สุดในโลก
ปัจจุบัน เวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ มีความมุ่งมั่นเพื่อตอบสนองผู้ประกอบการไทย ในการทำธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยได้ทำธุรกิจกับลูกค้าชาวจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของโลกได้ง่ายขึ้น โดยจะเน้นไปที่สินค้า “Thailand Best” อาทิ อาหารและผลไม้แห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งนับว่าเป็นสินค้าขายดีหรับคนจีน นอกจากนี้ยังมีเครื่องสำอางแบรนด์ไทย ยาดม และขนมขบเคี้ยวอีกด้วย ซึ่งแพคเกจของสินค้าในเวปไซต์ทุกชิ้นจะถูกบรรจุให้มีความแข็งแรงและทนทานในการจัดส่งเป็นอย่างมาก
การร่วมมือกับอาลีบาบาที่ครอบคลุมธุรกิจอีคอมเมิร์ชของของจีนกว่า 80 % ถือว่าเป็นรากฐานของธุรกิจที่ดีในการเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการมา 7 เดือน ไทย วัน มอลล์มีคนเข้าใช้งานประมาณ 6,000-8,000คนต่อวัน ซึ่งล้วนแต่เป็นคนจีนเกือบทั้งหมด จะมีประมาณ 5%เป็นคนจีนที่อาศัยอยู่ในไทย โดยบริษัทฯพร้อมทุ่มงบไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทในการประชาสัมพันธ์สินค้าไทยให้เข้าถึงคนจีนมากขึ้น ตั้งเป้ายอดขายจากเดือนเมษายนปีนี้ ถึงเดือนเมษายนปีหน้า จะทำรายได้เพิ่มเป็น 300 ล้านบาท
นอกเหนือจากการทำธุรกิจแบบ B2C แล้ว บริษัท ไทย วัน มอลล์ ในอนาคตอันใกล้นี้ ยังมีจุดมุ่งหมายในการขยายธุรกิจในรูปแบบ G2G หรือ Government to Government เพิ่มอีกด้วย คือ การร่วมมือกันของรัฐบาลในแต่ละประเทศ และจัดส่งสินค้าในปริมาณมาก เพื่อเป็นทางที่จะช่วยเหลือชาวเกษตรกรที่มีความต้องการอยากจำหน่ายสินค้า อาทิ ผลไม้ และ ข้าว โดยบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ธุรกิจนี้จะสร้างความก้าวหน้าให้กับบริษัทและเจ้าของธุรกิจผู้ประกอบการไทยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังวางแผนที่ให้ ไทย วัน มอลล์ จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2017 และเป็นเวปไซต์ B2C ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนภายใน 5 ปีนับจากนี้
นายเกา เหวิน ควัน ทูตพาณิชย์และที่ปรึกษาฝ่ายการค้าสาธารณรัฐประชาชนจีน เผยว่า ในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในไทยประมาณ 4.7ล้านคน คิดเป็น 18%ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในไทยทั้งงหมด ในปีนี้ประเทศไทยจะเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของจีนด้วยมูลค่าการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศหรือราว 72,000ดอลล่าร์