กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
-มั่นใจ ยิ้มรับกำไรเติบโตถึง 102 % จากปีที่ผ่านมา -
มั่นคงเคหะการ แถลงผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2548 ประสบความสำเร็จโชว์อัตราการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 3 ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องถึง 53% จาก 74.69 ล้านบาท ของปีที่ผ่านมาเป็น 114.17 ล้านบาท เมื่อเทียบผลประกอบการงวด 9 เดือน อัตราการเติบโตของกำไรสูงถึง 102 % จาก 182.36 ล้านบาทมาเป็น 368.83 ล้านบาท รายได้ 9 เดือนปีนี้โตกว่ารายได้ทั้งปี 47 แล้ว
นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรชั้นแนวหน้าของไทยภายใต้แบรนด์ “ชวนชื่น” ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 50 ปี เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายในผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2548 ถึง 513.52 ล้านบาท โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องถึง 63 % จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หากเทียบผลประกอบการงวด 9 เดือน อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายสูงถึง 92% จะเห็นได้ว่ารายได้จากการขายสำหรับงวด 9 เดือนในปีนี้ ที่ 1,700.46 ล้านบาท นั้นสูงกว่ารายได้จากการขายของปี 2547 ซึ่งรวมทั้งปีอยู่ที่ 1,643.53 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในไตรมาส 3/2548 นี้ บริษัทฯ ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรได้ใกล้เคียงกับ 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ดังเห็นได้จากอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น 40.99 % เมื่อเทียบกับ 40.66 % ในไตรมาส 2 และ 40.37 % ในไตรมาส 1 ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารใน ไตรมาส 3/2548 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา คือ 75.74 ล้านบาท สำหรับงวด 9 เดือนปี 2548 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A to Sales) ลดลงเป็น 15.00% จาก 23.17% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายถึง 92% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงขึ้น 24%
"เนื่องจากทางบริษัทฯ สามารถทำกำไรและด้วยประสิทธิภาพของการจัดการที่สูงขึ้นนี้ ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 3/2548 มีการเติบโตถึง 53% จาก 74.69 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเป็น 114.17 ล้านบาท หากเทียบผลประกอบการงวด 9 เดือน อัตราการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานปกติสูงถึง102% จาก182.36 ล้านบาทมาเป็น 368.83 ล้านบาท เมื่อรวมกำไรรายการพิเศษจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนปี 2548 เท่ากับ 622.71 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) 0.72 บาท (0.43 บาทจากการดำเนินงานปกติ และ 0.29 บาทจากรายการพิเศษ) นอกจากนี้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) ลดลงจาก 0.7 เท่าเมื่อไตรมาสที่ผ่านมา เป็น 0.63 เท่าคือ โดยหนี้สินลดลงจาก 2,796 ล้านบาทเป็น 2,602 ล้านบาท จากการชำระคืนหนี้ สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้นจาก 4,023 ล้านบาท เป็น 4,139 ล้านบาท จากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมในข้างท้าย--จบ--