กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--เมืองไทยประกันชีวิต
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปีที่ผู้บริโภคจำนวนมาก มักจะให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อวางแผนภาษีนั้น ประกันชีวิตก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก บริษัทฯ จึงได้คัดแบบประกันที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าขึ้นมาโปรโมทเพื่อตอบโจทย์ผู้เอาประกันให้สามารถได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 300,000 บาท โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
แบบที่ 1 “เมืองไทย ซุปเปอร์กู๊ด 12/5”สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าขายดีของบริษัทฯ นับตั้งแต่เปิดตัวในกลางปีที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นที่ให้ผลประโยชน์สูง มีเงินจ่ายคืนทุกปี สูงสุดถึง 10%* และให้ผลประโยชน์รวมตลอดสัญญาถึง 155%* ที่สำคัญชำระเบี้ยไม่นานเพียง 5 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองยาวถึง 12 ปี เบี้ยประกันเริ่มต้น 23,800 บาท รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือน - 70 ปี
ส่วนประกันชีวิตแบบบำนาญที่ผู้เอาประกันสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีส่วนเพิ่มได้อีกสูงสุดถึง 200,000 บาท รวมเป็น 300,000 บาทนั้น บริษัทฯ มีแบบประกัน “เมืองไทย 8501 ดี 60 (บำนาญแบบลดหย่อนได้)” โดยชำระเบี้ยเพียงครั้งเดียว จึงไม่ต้องกังวลเรื่องภาระการจ่ายเบี้ยอีกในปีต่อ ๆ ไป เมื่อเกษียณที่อายุครบ 60 ปี ไปจนถึงอายุ 85 ปี จะได้รับเงินบำนาญปีละ 12%* รวมรับผลประโยชน์ทั้งสิ้น 312%* และกรณีเสียชีวิตก่อนเกษียณ ก็จะได้รับความคุ้มครองชีวิตสูงสุดถึง 140%ของเบี้ยประกันที่ชำระมา ซื้อได้ตั้งแต่อายุ 30-58 ปี โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ
สุดท้ายเป็นประกันชีวิตแบบบำนาญ “เมืองไทย 8560 จี 15 (บำนาญแบบลดหย่อนได้)” เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ประจำและต้องการทยอยเก็บออมไปจนถึงวันเกษียณ พร้อมกับได้สิทธิหักลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 300,000 บาทเช่นกัน โดยจะให้ความคุ้มครองชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สูงสุดถึง 250%* และเมื่อเกษียณที่อายุครบ 60 ปี ไปจนถึง 85 ปี จะได้รับเงินบำนาญปีละ 12%* รวมทั้งสิ้น 312%* ทั้งยังการันตีจ่ายผลประโยชน์บำนาญขั้นต่ำ 15 ปีหากผู้เอาประกันเสียชีวิตก่อนรับเงินบำนาญครบตามสัญญา ซื้อได้ตั้งแต่อายุ 20-55 ปี
“ปกติแล้วช่วงปลายปีจะมียอดขายประกันชีวิตสูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงอื่น ๆ ของปี โดยเฉพาะแบบประกันที่ให้สิทธิลดหย่อนภาษี บริษัทฯ จึงพยายามค้นหาความต้องการของลูกค้าและนำเสนอแบบประกันที่เหมาะสมเข้ามาตอบโจทย์ ทั้งยังเป็นเครื่องมือการออมเงินและช่วยวางแผนการเกษียณอย่างมีระบบด้วย นอกจาก 3 แบบดังกล่าวแล้ว ลูกค้ายังสามารถมองหาแบบประกันอื่น ๆ ที่ให้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามต้องการ โดยมีข้อสังเกตเบื้องต้นง่าย ๆ ว่าจะต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ตัวแทนขายของเมืองไทยประกันชีวิต”นายสาระ กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลผลการดำเนินงานช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) 2557 จากสมาคมประกันชีวิตไทย พบว่า บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มีเบี้ยจากธุรกิจใหม่มากเป็นอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งตลาดถึง 20.8% หรือคิดเป็นมูลค่า29,726ล้านบาท เติบโต 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มีเบี้ยรับปีต่อไป 33,099 ล้านบาท เติบโต 23% และมีเบี้ยรับรวมทั้งสิ้น 62,825 ล้าบาท เติบโต 25%./
หมายเหตุ: * ของจำนวนเงินเอาประกันณวันเริ่มสัญญา