กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--Chomchaviwan
บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Securities ดีเดย์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ประกาศลั่นจุดเด่นด้านความแข็งแกร่งของทีมการตลาด นักวิเคราะห์ ชูกลยุทธ์ Innovative Broker สร้างความมั่งคั่ง มั่นคงด้านการลงทุนให้ลูกค้าทุกระดับ
นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Securities เป็นบริษัทน้องใหม่ใน กลุ่มการเงิน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์ เชียล กรุ๊ป ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด และบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แอดไวเซอรี่ จำกัด
บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มเปิดให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา โดยเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์หมายเลข 5 และได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และอนุพันธ์ ดังนี้ นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ค้าหลักทรัพย์ จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาการลงทุน ตัวแทนนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน และตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า นอกจากนี้ในปี 2558 บริษัทจะเปิดให้บริการด้านวาณิชธนกิจ (Investment Banking) โดยเฉพาะการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินการลงทุน ผ่านบริษัทบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แอดไวเซอรี่ จำกัด ซึ่งจะมีการดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลการบริหารความเสี่ยง และหลักธรรมาภิบาลที่ดี
ภายใต้ความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายการลงทุนที่เชื่อมโยงกันในกลุ่มการเงิน ทำให้บริษัทมีความได้เปรียบใน ด้านข้อมูลและการวิเคราะห์การลงทุน มีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนานวัตกรรมและสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายได้
นายกานต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนธุรกิจต่อจากนี้ ด้วยสภาวะการแข่งขันที่สูง ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางด้านประชากรศาสตร์ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่พึ่งพิงเทคโนโลยีมากขึ้น การเติบโตของตลาดการลงทุนที่ยังดีอย่างต่อเนื่อง และความเข้าใจของนักลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มากขึ้นกว่าเดิม การวางแผนกลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าของบริษัทจึงต้องมีความชัดเจน ทั้งนี้ ในช่วงแรกบริษัทจะเน้นการขยายฐานไปยังนักลงทุนสถาบันซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรของกลุ่มการเงิน รวมทั้งฐานลูกค้าที่เป็นลูกค้าของกลุ่มการเงินอยู่แล้วซึ่งน่าจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าดังกล่าวได้ง่ายที่สุด แต่ในระยะกลางและระยะยาวบริษัทจะเน้นขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มนักลงทุนบุคคลทั่วไป หรือนักลงทุนที่เคยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาถือเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนการเติบโตที่สูงกว่ากลุ่มอื่น
บริษัทจะดำเนินการตามแผนธุรกิจภายใต้แนวคิด “Innovative Broker” ที่บริษัทได้วางกลยุทธ์ไว้ 3 ช่วง คือ
ช่วงที่ 1 คือ ปลายปี 2557 -ครึ่งแรกของปี 2558 บริษัทจะเน้นกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ซึ่งเป็นฐานพันธมิตรที่มีอยู่เดิมของกลุ่มการเงิน และเริ่มทำการตลาดเพื่อขยายฐานตรที่มีอยู่เดิมของบริษัทแม่ ที่กค้าด้วย ลูกค้ารายย่อยด้วย โดยจะมีการเติบโตในส่วนของเจ้าหน้าที่การตลาด (Marketing) ที่จะเข้ามารองรับการขยายตัวของลูกค้า ซึ่งจะเน้นให้มีทั้งส่วนของเจ้าหน้าที่การตลาดเดิมที่มีประสบการณ์ในตลาดอยู่แล้ว และเจ้าหน้าที่การตลาดรุ่นใหม่ที่บริษัทจะสร้างขึ้นเอง ส่วนด้านงานวิจัย เป็นกลุ่มงานที่บริษัทให้ความสำคัญควบคู่ไปด้วย เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของทั้งลูกค้าสถาบันและบุคคล โดยตั้งเป้าว่าจะมีจำนวนนักวิเคราะห์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มหลักทรัพย์ ในช่วง ไตรมาส 1/2558
ในส่วนของสายงานการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมากลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง ซึ่งบริษัทมีพันธมิตรทางธุรกิจอยู่หลายแห่ง โดยวางแผนจะเป็นผู้เข้าร่วมจัดจำหน่ายทั้งส่วนหลักทรัพย์ที่จะเข้าตลาดใหม่ (หุ้น IPO) ตราสารหนี้ และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ซึ่งในช่วงเพียง 3 เดือนที่เปิดดำเนินการ บริษัทได้เข้าร่วมจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ไปแล้ว 3 หลักทรัพย์
ช่วงที่ 2 คือ ช่วงครึ่งหลังของปี 2558 – ครึ่งปีแรกของปี 2559 บริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ตลอดจนเทคโนโลยีของระบบการซื้อขายให้มีความสะดวก รวดเร็วและง่ายต่อการใช้งาน เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าทุกกลุ่ม
ช่วงที่ 3 คือ ตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2559 เป็นต้นไป บริษัทคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากมีความพร้อมทางธุรกิจในทุกด้าน ทั้งยังมีช่องทางการตลาดที่หลากหลาย ผ่านช่องทางการให้บริการผ่านสาขาของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่มีกว่า 120 สาขาทั่วประเทศ โดยน่าจะมีโอกาสสร้างส่วนแบ่งทางการตลาดได้ถึงระดับ 2%
บริษัทมีจุดเด่นทั้งจากการอยู่ในกลุ่มการเงินที่มีชื่อเสียง มีความมั่นคงสูง มีผู้บริหารที่เป็นที่ยอมรับในตลาด ซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจให้แก่ลูกค้า ตลอดจนการมีฐานลูกค้าในวงกว้างจากการผนึกกำลัง (Synergies) ในการทำงานร่วมกันของบริษัทในกลุ่มการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และกลุ่มผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการลงทุนสูง ซึ่งเป็นโอกาสของบริษัทในการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง