กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--Media Plus Connection
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ บริษัท เอ๊กซคอน จำกัด ผู้บริหารงาน BIFF&BIL 2015 และ ภาควิชาวิทยาการสิ่งทอ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดพิธีเปิด “โครงการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการแฟชั่น” (Product Design Development Workshop) เพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้าแฟชั่น และงานแสดงสินค้าเครื่องหนังปี 2558 ครั้งที่ 33 (BIFF & BIL 2015) และ กิจกรรมการจัดนิทรรศการแนวโน้มแฟชั่น (Trend Forum) ในงานแสดงสินค้า BIFF & BIL 2015 พร้อมสัมมนา เรื่อง Color and Fashion Trend 2015/16เพื่อพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยในการแข่งขันกับตลาดต่างประเทศ ด้วยการยกระดับการออกแบบสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และสอดรับกับเทรนด์แฟชั่นโลก และเพิ่มความสามารถในการผลิตสินค้าแฟชั่นรูปแบบใหม่ๆ สอดคล้องกับความต้องการของผู้ซื้อ โดยมีผู้ประกอบการสนใจมาเข้าร่วมเวิร์กช้อปกว่า 50ราย ที่ ห้องประชุม 1 ชั้น 1 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ถนนรัชดาภิเษก)
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะประธานเปิดโครงการฯกล่าวว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นไทยในปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องที่ดีจากปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะการส่งออกเนื่องจากความมีเอกลักษณ์ของสินค้าไทย ยังคงทำให้สินค้าทางด้านแฟชั่นไทยเป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นี้ จะยิ่งทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังของไทยมีโอกาสขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอีก เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการค้าในภูมิภาคอาเซียนค่อนข้างมาก
โดยกรมส่งเสริมการส่งออกยังคงเดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการด้านแฟชั่นให้สามารถสร้างแบรนด์ของตัวเอง ตลอดจนให้ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ผลิตสินค้าเพื่อเพิ่มศักยภาพสินค้าไทยในตลาดโลก โดยได้ร่วมมือกับภาควิชาวิทยาการสิ่งทอ คณะอุตสาหกรรมเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดโครงการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่น พร้อมให้การสนับสนุนพัฒนาสินค้าคอลเลคชั่นใหม่เพื่อนำมาจัดแสดงในงานแสดงสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง BIFF&BILL 2015 ระหว่างวันที่ 11-15 มีนาคม 2558 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและประชุม อิมแพค เมืองทองธานี
“โครงการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการแฟชั่นเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 แล้ว เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการแฟชั่น และเครื่องหนังไทย รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องที่จะมาร่วมงาน BIFF & BIL 2015 ได้พัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้กับตลาดต่างประเทศ ด้วยการยกระดับการออกแบบสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และสอดรับกับเทรนด์แฟชั่นโลก เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสินค้าแฟชั่นระดับภูมิภาคและ สามารถกำหนดเทรนด์แฟชั่นได้ในอนาคต ด้วยการนำเสนอสินค้าที่นำสมัยสอดคล้องกับความต้องของตลาดและเทรนด์แฟชั่นโลกอย่างแท้จริง” รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกล่าว
ด้าน ผศ.ดร.อโนทัย ชลชาติภิญโญ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งทอจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะผู้ร่วมจัดโครงการฯ กล่าวว่า โครงการฯได้คัดเลือกผู้ประกอบการกว่า 50 ราย เข้ารับการอบรมความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงแฟชั่นเกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่น การจัดการสินค้า แนวโน้มตลาดที่เหมาะสมและมีศักยภาพเน้นสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า รวมทั้งให้คำปรึกษาเรื่องการพัฒนาสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ๆการสร้างแรงบันดาลใจ การออกแบบที่ตรงกับเทรนด์ความต้องการของตลาด เป็นต้น ซึ่งผลงานผลิตภัณฑ์แฟชั่นที่ผ่านการพัฒนาการออกแบบจากโครงการเวิร์กช้อปดังกล่าว จะได้นำมาจัดแสดงในงาน BIFF & BIL 2015 พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับเทรนด์สีและแฟชั่นในปี 2015/16 ว่าแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ โดยรูปแบบแรกเป็นแนวโน้มแฟชั่นของฤดูกาล Autumn/Winter 2015/16 ซึ่งประกอบไปด้วย 4 เทรนด์หลักได้แก่
Essence เป็นเทรนด์ที่นำเสนอความเป็นสปอร์ต ในรูปแบบประยุกต์ด้วยเฉดสีธรรมชาติ ในโทนขรึม และสะท้อนงานหัตถกรรมโดยมีสีชมพูอมม่วง และส้มอิฐ เป็นสีหลัก โครงเสื้อสะท้อนงานคราฟท์โดยเฉพาะการใช้วัตถุดิบจากหนังมาเป็นวัตถุดิบของเสื้อผ้า
Confluence ความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ไหลบ่ามารวมกันทำให้เกิด Street Style ที่มีเนื้อผ้าหลากหลายสีสันฉูดฉาด สะท้อนความเป็นฮิปปี้ผสมผสานกับความเป็นขบถ โดยมีสีเหลืองสดทุกเฉดจนถึงส้มและสีน้ำเงิน เทาเป็นสีเบสิค
Dissonanceนำเอาศิลปะยุคบาโรคและไบเซนไทน์ที่รุ่งเรืองถึงขีดสุดมาดัดแปลงให้ทันสมัยด้วยเฉดสีที่มืดขรึม ในโทนกรมท่า ฟ้า และม่วง และมีสีทองเป็นแอกซ์เซนต์
Existence สะท้อนภาพธรรมชาติในเขตขั้วโลกเหนือที่ปกคลุมด้วยหิมะ และเถ้าถ่าน โดยมีสีขาวน้ำแข็ง ดำถ่าน และเขียวหม่น รวมถึงฟ้าน้ำแข็ง (Arctic Blue) เป็นไฮท์ไลท์ เนื้อผ้าเน้นผิวสัมผัสที่เลียนแบบปุยหิมะ ขนสัตว์ และเถ้าถ่าน
ส่วนรูปแบบที่ 2 นับเป็นครั้งแรกที่งาน BIFF & BIL นำเสนอเทรนด์แฟชั่นวัตถุดิบผ้าและหนังที่แสดงถึง “สปิริตความเป็นไทย”โดยรวบรวมแรงบันดาลใจที่สะท้อนภาพความเป็นไทยจากหลากหลายแหล่งตั้งแต่สภาพภูมิศาสตร์ที่เป็นแหล่งรวมวัตถุดิบอีโค่ชั้นเลิศของโลกศิลปะผสมผสานของสถาปัตยกรรมในยุคโคโลเนียลความสนุกสนานร่าเริงและรอยยิ้มที่น่าประทับใจของคนไทยจนถึงความน่าฉงนของเพศสภาพในยุคโมเดิร์นซึ่งแต่ละธีมของเทรนด์นอกจากจะเป็นการรวมเอาวัตุดิบใหม่ล่าสุดของอุตสาหกรรมสิ่งทอและฟอกหนังแล้วยังเป็นการสอดประสานธีมไปกับการจัดแบ่งโซนพื้นที่ของการจัดงานในครั้งนี้เช่นโซนซาลอน (The Salon) สตรีท (The Street) เฮอริเทจ (The Heritage)และ ซอส (The Source) โดยที่โทนสีของวัตถุดิบแต่ละธีมถูกคัดสรรให้สอดคล้องไปกับเทรนด์สีของโลกสำหรับฤดูกาล Spring/Summer 2016และเทรนด์ Spirit of Thailand จะถูกนำเสนอร่วมกับอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนังและเครื่องประดับด้วยลุคส์สวยๆของมินิคอลเลคชั่นในแฟชั่นโชว์ในพิธีเปิดงาน BIFF&BIL 2015 นี้
Tropical Artisanนำเสนอแรงบันดาลใจที่ได้จากความเป็นธรรมชาติของวัตถุดิบที่หลากหลายและแปลกใหม่ผสมกับงานคราฟท์ทำมือเพื่อตอบสนองอีโค่ไลฟ์สไตล์ประเทศไทยคือแหล่งรวมวัตถุดิบที่สะท้อนความบริสุทธิเช่นฝ้าย ไหม ใยกัญชงที่ถูกนำมาเติมแต่งด้วยภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของไทยมาช้านานทั้งในเรื่องการย้อมสีธรรมชาติ การทอมือการผสมผสานผิวสัมผัสของผ้าที่ลอกเลียนแบธรรมชาติได้อย่างแยบยลรวมไปถึงวัตถุดิบหนังเอ้คซอติกที่แปลกและแตกต่างไปจากแหล่งวัตถุดิบอื่นเช่นจระเข้น้ำจืดปลากระเบน ขาไก่และปลานิลเป็นต้น ด้วยโทนสีขาวทุกเฉดสี สีย้อมธรรมชาติในโทนส้มน้ำเงินอินดิโก้และเขียวหลากเฉด
SnookSnanสะท้อนอุปนิสัยของคนไทยที่มีแต่รอยยิ้มและความเป็นกันเองตามที่ทั่วโลกให้นิยามว่าดินแดนแห่งรอยยิ้มเทรนด์นี้นำคุณไปสัมผัสความสนุกของสตรีทสไตล์ที่ผสมผสานบรรยากาศของตลาดนัดสวนจตุจักรและสยามสแคว์แหล่งรวมความฮิปของแฟชั่นของกรุงเทพ ด้วยสีสันที่ฉูดฉาดระหว่างสีส้ม. สีเขียวเทคโน ตัดกับสีฟ้ายีนส์การมิกส์แอนด์แมชลำลองกับแบรนด์เนมหรูหรือการนำเสื้อผ้ามือสองมาปรับแต่งใหม่อย่างมีชีวิตชีวาเป็นธีมที่รวบรวมเนื้อผ้าสำหรับแฟชั่นลำลอง ยีนส์ ผ้าลายสก๊อต ผ้าฟอกสี ผ้ายืดหนังสีสดจัดจ้านและงานพิมพ์กราฟฟิคที่มีสะท้อนความสนุกแบบไทยๆ
Indochinaนำคุณย้อนอดีตไปสู่แหล่งรวมแรงบันดาลใจจากหลากหลายอารยะธรรมชนเผ่าไทยในคาบสมุทรอินโดจีนและสถาปัตยกรรมยุคล่าอาณานิคมที่คงอยู่ร่วมกันอย่างน่าแปลกใจสะท้อนความเจริญรุ่งเรืองของแต่ละศิลปะที่ปะทะกันอย่างมีเอกลักษณ์เช่นอาคารแบบชิโนโปรตุกีสกับการแต่งกายแบบไทยมุสลิม. เรือนไม้สักติดลูกไม้กับการแต่งกายแบบล้านนาเป็นต้นธีมนี้นำเสนอผ้าที่คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมของตนเองทั้งงานทองานปักงานตกแต่งลายผ้าปะทะกันกับความคลาสสิคของผ้าและหนังที่มีกลิ่นไอยุโรปและเทรนด์การแต่งกายแบบ ethnic fusion ด้วยโทนสีขรึมของผ้าการ์บาดีนผ้าเชิ้ตติ่งไฮทวิสเนื้อเงาหรูหรานำมาสไตล์ลิ่งร่วมกับผ้าไหมไทยพื้นเมืองสีสดจัดจ้านของสีโทนส้มทองเขียวมรกตและแดงทับทิม
Gender Futurismสังคมไทยจัดว่าเป็นสังคมที่ด้านหนึ่งติดยึดกับขนบเดิมแต่อีกด้านแตกต่างด้วยแนวคิดที่ทันสมัย เพศสภาพที่คลุมเครือที่มีทั้งยอมรับและปฏิเสธไปพร้อมๆกันสะท้อนศิลปะของการปรับตัวของคนไทย สังคมสมัยใหม่เสาะหาอัตลักษณ์ที่เริ่มชัดขึ้นจากภายในที่เรียกร้อง เทคโนโลยีทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ง่ายและเร็วจนสังคมเริ่มตั้งคำถามถึงความจริงในเพศ เส้นแบ่งระหว่างเสื้อผ้าชายและหญิงเลือนหายไปเมื่อใจกับกายเห็นพ้องกัน เนื้อผ้าในธีมนี้เริ่มตั้งแต่โครงสร้างผ้าที่ชัด กระด้าง เงาและดิบ ไปถึงเนื้อผ้าที่ซับซ้อน บอบบางและนุ่มที่สุด ในเฉดสีที่บริสุทธิ์ สะอาดและด้านจางๆ จับคู่ตรงข้ามการตกแต่งผิวผ้าแบบเคลือบมุกและเงาวับแบบโลหะ
สำหรับงาน Bangkok International Fashion Fair&Bangkok International Leather Fair 2015 (BIFF & BIL2015) เป็นงานแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังที่ได้รับการยอมรับในเวทีระดับนานาชาติ โดยเป็นเวทีแสดงศักยภาพและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ จากทั่วทั้งเอเชียและทั่วโลกในงานจะได้พบกับนิทรรศการแนวโน้มแฟชั่น (Trend Forum),นิทรรศการสินค้าแฟชั่นที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (ECO Fashion) นิทรรศการ 60up Lifestyle&Fashionหรือ นิทรรศการรวบรวมสินค้าแฟชั่นและสำหรับผู้สูงอายุจากผู้ประกอบการไทยที่ผ่านมาอบรมจาก Ms.Yoko Miyake ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีบริการจับคู่ธุรกิจแบบ One-Stop Supply-Chain Integration ที่ยกระดับการให้บริการเต็มรูปแบบเพียงผู้ซื้อนำแบบสเกตช์สินค้าที่ต้องการมาแสดง ก็สามารถสั่งผลิตและรับต้นแบบสินค้าได้ทันที โดยมีขึ้นระหว่าง 11-15 มีนาคม 2558 นี้ ที่ อาคารชาเลนเจอร์ 1-2 ศูนย์การแสดงสินค้าและประชุม อิมแพค เมืองทองธานี