กรุงเทพ--25 ก.ค.--สพช.
สพช.เดินหน้ารณรงค์อนุรักษ์พลังงาน หลังประสบความสำเร็จจากโครงการรวมพลังหาร 2 ประกาศใช้แผนแม่บทการประชาสัมพันธ์ระยะยาว 3 ปี พร้อมทั้งนำร่องด้วยการรณรงค์ชวนให้คนไทยประหยัดน้ำมันพลังงานหลักของโลก ภายใต้แผนปฏิบัติการ "รวมพลังหาร 2"
ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เปิดเผยว่าทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) ได้เตรียมรณรงค์การประชาสัมพันธ์การอนุรักษ์พลังงานขึ้นอีกครั้ง โดยในครั้งนี้เป็นการมุ่งรณรงค์ให้คนไทยร่วมประหยัดน้ำมัน ซึ่งจะเป็นโครงการประชาสัมพันธ์ต่อเนื่องภายใต้แผนปฏิบัติการโครงการรวมพลังหาร 2 ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะเป็นการมุ่งเน้นการให้ข้อมูลความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำมันในประเทศ รวมทั้งทัศนคติของประชาชนต่อการใช้น้ำมันอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ
ที่มาของโครงการรณรงค์ให้คนไทยร่วมประหยัดน้ำมันในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการที่ภาครัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปริมาณการใช้พลังงานที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งนับวันจะมีอัตราปริมาณการใช้ที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ โดยผลจากสถิติการรายงานการใช้พลังงานของประเทศไทยเมื่อปี 2538 ซี่งรวบรวมโดยกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานพบว่า ในบรรดาพลังงานทั้งหมดที่ใช้กันอยู่ในบ้านเรา คนไทยใช้พลังงานชนิดน้ำมันสำเร็จรูปมากที่สุดในสัดส่วนประมาณ 54.2% ขณะที่พลังงานหมุนเวียน ซึ่งได้แก่ ไม้ ถ่าน แกลบ และชานอ้อย พลังงานไฟฟ้า พลังงานถ่านหินและลิกไนท์ และพลังงานก๊าซธรรมชาติ เป็นพลังงานที่ใช้ในสัดส่วนที่มากเรียงตามลำดับกันไป
"ปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศไทยสูงถึง 750,000 บาเรลต่อวัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบถึงจำนวนการนำเข้าปริมาณน้ำมัน ปรากฏว่าสูงถึง 90% ด้วยกัน จึงนับเป็นตัวเลขที่คนไทยควรตระหนักและหันมาร่วมมือกันรณรงค์ประหยัดน้ำมันให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้น้ำมันยังเป็นพลังงานที่สำคัญชนิดหนึ่งและเป็นพลังงานที่จำเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมการผลิต การบริการ การคมนาคม ฯลฯ รวมถึงเป็นต้นทุนและปัจจัยในการผลิตที่มีความสำคัญต่อสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งทางภาครัฐก็ได้ตระหนักและกังวลเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง จึงได้ดำเนินแผนงานประชาสัมพันธ์การใช้น้ำมันอย่างประหยัดขึ้นมา โดยมุ่งเน้นให้คนไทยเกิดจิตสำนึกที่จะให้ความร่วมมือและความพร้อมใจกันปฏิบัติตาม" ดร.ปิยสวัสดิ์กล่าว
สำหรับแผนงานประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการใช้น้ำมันอย่างประหยัด ประกอบด้วยการจัดทำภาพยนตร์ประชาสัมพันธ์ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือเรื่อง "รถไฟ" เป็นการสื่อสารกันในประเด็นการนำเข้าน้ำมันของประเทศไทยในแต่ละปี ซึ่งมีปริมาณสูงมากกว่าที่คนทั่วไปคิด เรื่องที่สองคือ "เรือ" เป็นเรื่องราวของการปรับราคาน้ำมันขึ้นลงตามกลไกของตลาดโลก ซึ่งเป็นระบบที่เหมาะสมเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ในตลาดการค้าเสรี โดยภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องได้ทิ้งท้ายให้ประชาชนตระหนักว่า "การประหยัดน้ำมันเป็นเรื่องของคนทั้งชาติ" ซึ่งจะเริ่มออกอากาศในวันที่ 25 กรกฎาคม ศกนี้ เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษสนับสนุนอาทิ การจัดทำสารคดีสั้นทางวิทยุที่เน้นการให้ความรู้ความเข้าใจสถานการณ์น้ำมันในประเทศ และวิธีการประหยัดน้ำมันในรูปแบบต่าง ๆ เผยแพร่ออกอากาศทางสถานีวิทยุทั่วประเทศ รวมถึงการผลิตสารคดีเผยแพร่ในรายการเผชิญหน้าสภาวะแวดล้อม ที่มุ่งเน้นการให้ข้อมูล ข้อคิดเห็นของบุคคลต่าง ๆ ในรูปแบบของการรายงานอีกด้วย
รวมพลังหาร 2 ประสบความสำเร็จตามคาดพร้อมเดินหน้าสานต่อด้วยโครงการสาม
ดร.ปิยสวัสดิ์ ยังได้ชี้แจงถึงผลของโครงการรวมพลังหาร 2 ด้วยว่า แผนปฏิบัติการดังกล่าวประสบความสำเร็จตามความคาดหมาย ซึ่งจากผลการวิจัยและการสำรวจติดตามเพื่อประเมินผลของกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการดังกล่าว ที่ได้ดำเนินการไปแล้วพบว่าประชาชนทั่วไปรู้จัก และรับทราบถึงวัตถุประสงค์รวมทั้งแนวความคิดของโครงการฯ ว่าเป็นการรณรงค์เพื่อส่งเสริมการประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ประชาชนยังมีความเข้าใจต่อแนวทางในการอนุรักษ์พลังงานโดยใช้เท่าที่จำเป็น และพร้อมที่จะนำมาปฏิบัติมากขึ้น
"สิ่งสำคัญก็คือ ประชาชนยังมีความตระหนักถึงผลดีของการประหยัดพลังงานมากขึ้นในด้านที่จะช่วยทำให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่าย รวมถึงมีจำนวนประชาชนที่เพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง ที่มีความเข้าใจว่าการประหยัดพลังงานไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันอย่างที่เคยคิดกัน ซึ่งกล่าวได้ว่าโครงการรวมพลังหาร 2 ในรอบปีที่ผ่านมาสามารถสร้างกระแสความนิยมในการอนุรักษ์พลังงาน และเริ่มปลุกจิตสำนึกถึงคุณค่าพลังงานให้กับกลุ่มเป้าหมายได้" ดร.ปิยสวัสดิ์กล่าว
สืบเนื่องจากผลสำเร็จดังกล่าว ดร.ปิยสวัสดิ์ ยังได้เปิดเผยด้วยว่า สพช.ได้จัดทำแผนแม่บทโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน โดยแผนงานดังกล่าวรณรงค์ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2540 จนถึง พ.ศ. 2542 โดยมุ่งประชาสัมพันธ์เพื่อตอกย้ำให้ประชาชนตระหนักถึงการมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์พลังงานของประเทศ
"การรณรงค์อย่างต่อเนื่องนั้น เป็นแผนการประชาสัมพันธ์ที่สอดประสานซึ่งกันและกัน และสามารถสร้างประสิทธิภาพแก่แผนงานภายใต้แผนแม่บทดังกล่าว นอกจากวัตถุประสงค์เดิมของโครงการ "รวมพลังหาร 2" แล้ว เรายังได้เสริมกลยุทธ์ที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะมากขึ้น โดยจะเน้นที่การให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์พลังงาน ตลอดจนวิธีการและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการอนุรักษ์พลังงานที่ลึกซึ้งมากขึ้น รวมทั้งนำเสนอความสำเร็จขององค์กรเพื่อสร้างแนวร่วมให้มากขึ้นด้วย"
สำหรับหน่วยงานของรัฐที่มีความร่วมมือกันในการดำเนินการอนุรักษ์พลังงานนั้น ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการเสนอแนะนโยบายการอนุรักษ์พลังงานและติดตามประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานตามนโยบาย โดยมีทิศทางในการประชาสัมพันธ์ ที่มุ่งเน้นการรณรงค์ปลูกและเสริมสร้างจิตสำนัก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ นิสัย พฤติกรรมในการบริโภคพลังงานและทรัพยากรอื่น ๆ ให้กับประชาชนทั่วไป ส่วนกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน (พพ.) รับผิดชอบทางด้านการอนุรักษ์พลังงานทั้งในอาคารของรัฐโรงงานและอาคารทั่วไป ขณะที่สำนักงานการจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า (DSM) รับผิดชอบในด้านการลดความต้องการการใช้ไฟฟ้าของประชาชนโดยใช้มาตรการจูงใจ รวมถึงการเลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า
กิจกรรมของโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้แผนปฏิบัติการ "รวมพลังหาร 2" ของ สพช. มีวัตถุประสงค์ที่จะประชาสัมพันธ์นโยบาย แผนงานอนุรักษ์พลังงานและกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ ทั้งนี้มีแนวคิดที่ต้องการเสริมสร้างจิตสำนึกให้คนไทยทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด สำหรับชื่อโครงการ "รวมพลังหาร 2" หมายถึงการร่วมแรงร่วมใจกันลดการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งครั้งหนึ่งในที่นี้มิใช่เป็นปริมาณที่วัดค่าได้ แต่เป็นความรู้สึกที่มีต่อการลดการใช้พลังงานลง ซึ่งก็จะทำให้คนไทยได้มีพลังงานใช้ไปได้อีกนานต่อไป--จบ--