กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์
บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ (GOLD) ได้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ครั้งที่ 1/2557 ในวันที่ 9 ธันวาคม 2557 โดยมีมติอนุมัติเข้าซื้อกิจการ บริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด (มหาชน) (KLAND) โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญ จำนวน 1,780,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 100 ของจำนวนหุ้นชำระแล้วของ KLAND หรือในจำนวนขั้นต่ำที่ทำให้บริษัทฯ ถือหุ้นใน KLAND ไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 และทำให้บริษัทฯ มีอำนาจควบคุมใน KLAND ในราคาหุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,560,000,000 บาท จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ KLAND ซึ่งผลการลงมติ ผู้ถือหุ้นเสียงข้างมากเห็นด้วยกับการทำรายการ โดยมีผู้ถือหุ้นเห็นด้วย 300 ราย จำนวน 1,276,157,130 เสียง คิดเป็นร้อยละ 99.99 ของผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุมและมีสิทธิออกเสียงในวาระนี้
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมกับทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า (“ทรัสต์”) ของบริษัทฯ และธุรกรรมการให้เช่าช่วงสิทธิการเช่าที่ดินพร้อมอาคารสำนักงาน สิ่งปลูกสร้าง งานระบบ และจำหน่ายไปซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินอื่นๆ ของโครงการสาทร สแควร์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ ของบริษัท นอร์ท สาธร เรียลตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ แก่ทรัสต์ ซึ่งกระทำในนามของทรัสต์ และเพื่อประโยชน์ของทรัสต์ ซึ่งถือเป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินของบริษัทฯ พร้อมทั้งมีมติอนุมัติการจองซื้อหน่วยทรัสต์ของทรัสต์ ซึ่งมีอาคารสาทรสแควร์ และอาคารปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ของบริษัทย่อยของบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นสินทรัพย์ของหน่วยทรัสต์นี้ เป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 30 ของจำนวนหน่วยทรัสต์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของทรัสต์หรือคิดเป็นเงินลงทุนไม่เกิน 3,000 ล้านบาท (“ธุรกรรมจองซื้อหน่วยทรัสต์”) ซึ่งถือเป็นรายการได้มาซึ่งทรัพย์สินของบริษัท โดยมีผู้ถือหุ้นเห็นด้วย 302 ราย จำนวน 363,442,555เสียง คิดเป็นร้อยละ 99.99 ของผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุมและมีสิทธิออกเสียงในทั้ง 2 วาระนี้
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า “การได้รับอนุมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ จะเป็นผลดีกับบริษัทฯ เพราะจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถขยายตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบของบริษัทจากตลาดกลางให้ครอบคลุมถึงตลาดบนได้ ทั้งนี้การขายโครงการสาทรสแควร์และใช้วิธีการเข้าถือหน่วยลงทุนแทน จะทำให้บริษัทสามารถชำระหนี้ ลดภาระดอกเบี้ย แต่ยังมีรายได้ที่มั่นคงจากค่าเช่าตามสัดส่วนของการลงทุน ทั้งยังมีกระแสเงินสดสำหรับการพัฒนาโครงการแนวราบ ซึ่งจะเติบโตอย่างมากหลังจากที่ได้เคแลนด์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทฯ สอดคล้องกับกลยุทธ์ในการก้าวขึ้นเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย”