กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--IR network
บอร์ดบมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ไฟเขียวซื้อกิจการ "Sendai Okura Mega Solar Godo Kaisha" ทุ่มงบลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท กรุยทางบุกธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 38.1 เมกะวัตต์ ที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้การไฟฟ้า Tohoku Electric Power ภายใน 2 ปีนับจากนี้ "โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์" มั่นใจเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ ช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ หนุนรายได้-กำไรของกลุ่มบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ระบุยังเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 9/2557 ได้มีมติอนุมัติเข้าซื้อกิจการ Sendai Okura Mega Solar Godo Kaisha เพื่อดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 38.1 เมกกะวัตต์ ที่เมืองเซนได จังหวัดมิยะงิ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้รับสัมปทานในการขายไฟฟ้าเป็นเวลา 20 ปี และสามารถขายไฟฟ้าในอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed-in-Tariff หน่วยละ 36 เยน โดยคาดว่าจะดำเนินการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้า Tohoku Electric Power ได้ภายใน 2 ปีนับจากนี้ และคาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 440 ล้านบาทต่อปีให้กับบริษัทฯ
"การเข้าซื้อกิจการ Sendai Okura Mega Solar Godo Kaisha ในครั้งนี้ GUNKULจะลงทุนในสัดส่วน 100% โดยบริษัทฯ มีการจัดหาแหล่งเงินทุนในการเข้าซื้อกิจการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเรามีความมั่นใจและเชื่อมั่นว่า การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ของกลุ่มบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อีกทั้งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และทำให้รายได้และกำไรของบริษัทฯ เติบโตยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศและกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจ โดยบริษัทฯ มองว่าในอนาคตตลาดการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่นยังน่าสนใจและยังเปิดกว้าง เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นพยายามหาแหล่งพลังงานด้านอื่น ๆ เพื่อลดการพึ่งพิงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ทำให้พลังงานทดแทนจากโซลาเซลล์และพลังงานทดแทนด้านอื่น ๆ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าพัฒนาโครงการเพิ่มเติมเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทน” นางสาวโศภชากล่าวในที่สุด
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงมีนโยบายที่จะพัฒนาและขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าไว้ภายใน 3 ปี จะมีจำนวนเมกะวัตต์ไม่น้อยกว่า 300 เมกะวัตต์ โดยประเมินว่าธุรกิจพลังงานทดแทนยังเป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่นในอนาคต เป็นพลังงานทางเลือกที่เป็นที่ต้องการของตลาด และยังสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศอีกด้วย