กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--คิดดี ครีเอชั่น
ยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ บรรยากาศการจับจ่ายสินค้านับวันยิ่งคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าประเภทของฝากของขวัญที่มีการวางจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย อย่างเช่น กระเช้าของขวัญ สินค้ายอดนิยมที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมเลือกซื้อหามามอบให้กันในโอกาสส่งความสุขปีใหม่ โดยปีนี้ผู้ประกอบการต่างจัดสินค้ากระเช้าของขวัญปีใหม่ ในระดับราคาที่หลากหลายทั้งกระเช้าผลไม้ สินค้าชุมชน สินค้าผักปลอดสาร และที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นคือ สินค้ากลุ่มช็อกโกแลตและคุกกี้ ในปีนี้กระเช้าของขวัญส่วนใหญ่มีราคาตั้งแต่หลักร้อยบาทไปจนถึงหลายพันบาท โดยเฉพาะกระเช้าของขวัญที่ขายดีที่สุดคือ กระเช้าราคา 1,000-2,500 บาท
โดยปกติในช่วงเทศกาลปีใหม่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะมีการทำงานประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกสุ่มตรวจสินค้าและบริการต่างๆ โดยเฉพาะกระเช้าของขวัญทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ซึ่งกระเช้าของขวัญถือเป็นสินค้าที่ต้องจัดทำฉลาก โดยต้องมีข้อความที่ตรงต่อความเป็นจริง ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสาระสำคัญของสินค้านั้น โดยต้องแสดงรายละเอียดของสินค้าที่นำมาจัดรวมให้ครบ ต้องระบุชื่อประเภทหรือชนิดของสินค้าแต่ละรายการ มีการแสดงราคาจำหน่ายที่ชัดเจน ระบุขนาด น้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุของสินค้าแต่ละรายการ รวมทั้งค่าภาชนะที่บรรจุ นอกจากนี้ยังต้องแสดงรายละเอียดของวันหมดอายุของสินค้าทุกชนิด รวมทั้งการกำหนดเงื่อนไขในการขอเปลี่ยนสินค้าให้ชัดเจน ที่ผ่านมาทางสคบ.ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการธุรกิจให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อปกป้องสิทธิของผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมและคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ถูกเอาเปรียบ หากพบผู้ประกอบการจำหน่ายกระเช้าของขวัญที่ไม่มีฉลากสินค้าหรือมีฉลากแต่การแสดงฉลากไม่ถูกต้อง จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะเดียวกันหากพบว่าสินค้ามีราคาแพงเกินความจริง สคบ. จะประสานกับกรมการค้าภายในให้ดำเนินการต่อไป
สิ่งที่ผู้บริโภคต้องรู้ไว้ก่อนเกี่ยวกับสินค้าที่จะนำมาจัดใส่ในกระเช้าของขวัญได้ คือ สินค้าต้องมีคุณภาพตามฉลากที่ระบุ ต้องมีรายละเอียดสินค้าให้ชัดเจน 5 ข้อ ได้แก่ 1. ต้องไม่ใส่เหล้าและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2. ต้องมีฉลากรายการสินค้าให้ชัดเจน 3. ต้องบอกราคาสินค้าและราคาห้ามสูงกว่าความเป็นจริง 4. สินค้าต้องมีอายุมากกว่า 3-6 เดือน 5. ต้องระบุวันเปลี่ยนคืนสินค้า โดยผู้บริโภคควรให้ความสำคัญและต้องตรวจดูฉลากของกระเช้าว่า ในกระเช้าประกอบด้วยสินค้าอะไรบ้าง จำนวนเท่าไหร่ หากสินค้าในกระเช้ามีของจำพวกอาหารกระป๋อง เช่น ผลไม้กระป๋อง เครื่องดื่มผลไม้ ต้องตรวจดูสภาพความเรียบร้อยของกระป๋องด้วย ว่ากระป๋องมีรอยบุบ ยุบหรือไม่ มีตะเข็บรอยรั่วหรือมีสนิมขึ้นหรือเปล่า และฉลากอาหารต้องมีเครื่องหมาย อย.รับรองไว้บนกระป๋องอย่างชัดเจน ส่วนพวกอาหารอื่น ๆ ในกระเช้า เช่น ขนม คุ้กกี้ อาหารแห้ง ก็ต้องตรวจสอบฉลากเลขทะเบียนตำรับอาหาร ชื่อ และที่ตั้งสถานที่ผลิตวัน เดือน ปีที่ผลิต ชื่อปริมาณวัตถุเจือปนในอาหาร น้ำหนักสุทธิเช่นกัน เพื่อดูว่าหมดอายุแล้วหรือยัง หรือเป็นของเก่าหรือไม่ ดีที่สุดคือ ต้องมีระยะเวลาหมดอายุอย่างน้อยอีก 6 เดือน ถ้าเป็นอาหารจำพวกธัญพืชควรตรวจสอบวันหมดอายุ และเพื่อไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบจากการซื้อสินค้ากระเช้าปีใหม่ นอกจาก สคบ.จะตรวจเข้มมากเป็นพิเศษเพื่อช่วยไม่ให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน ถูกโก่งราคา หรือซื้อไปแล้วสินค้าใช้ไม่ได้ หมดอายุแล้ว ซึ่งทางสคบ.ได้แนะนำให้ผู้บริโภคตรวจสอบสินค้าประเภท "กระเช้าของขวัญ” ที่กำลังจะเลือกซื้อให้รอบคอบ เพราะอาจมีผู้ประกอบธุรกิจบางรายฉวยโอกาสนำสินค้าเลียนแบบ สินค้าด้อยคุณภาพ สินค้าที่หมดอายุหรือใกล้หมดอายุนำมาจัดใส่ในกระเช้าของขวัญได้ จึงอยากขอแนะนำผู้บริโภคที่กำลังจะเลือกซื้อสินค้าประเภทกระเช้าของขวัญ ถ้าต้องการได้ของถูกใจ ไม่ถูกหลอก ควรอ่านฉลากสินค้าทุกครั้งเพื่อตรวจสอบรายการสินค้าที่บรรจุในกระเช้า ตรวจสอบราคา รวมถึงวันหมดอายุของสินค้าให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ และควรเลือกซื้อกระเช้าจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ เพื่อจะได้มั่นใจว่าได้ของที่มีคุณภาพจริง เพื่อให้ได้กระเช้าของขวัญที่ถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ
อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อกระเช้าของขวัญหรือจากการซื้อสินค้าหรือบบริการใดๆ สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)หรือขอรับคำปรึกษาก่อนการร้องเรียนได้ที่สายด่วน สคบ.1166 หรือเว็บไซต์ www.ocpb.go.th