มงคลฟิล์ม เสนอเรื่องย่อภาพยนตร์ ซุ้มมือปืน

ข่าวทั่วไป Thursday January 13, 2005 11:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--มงคลฟิล์ม
ซุ้มมือปืน (Hit Man File)
กำหนดการเข้าฉาย 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548
อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
ควบคุมงานสร้าง สุพงศ์ ชวนะสุนทร
กำกับภาพยนตร์ สนานจิตต์ บางสพาน
บทภาพยนตร์ สนานจิตต์ บางสพาน
ออกแบบงานสร้าง วิทยา ชัยมงคล
กำกับภาพ ธีระวัฒน์ รุจินธรรม
ลำดับภาพ สุนิตย์ อัศวินิกุล
ออกแบบเครื่องแต่งกาย พราวเพลิน ตั้งมิตรเจริญ
ดนตรีประกอบ ชาติชาย พงษ์ประภาพันธ์
บันทึกเสียง ห้องบันทึกเสียงรามอินทรา
แนวภาพยนตร์ ดราม่า-แอคชั่น
นำแสดงโดย ฉัตรชัย เปล่งพานิช,นิรุตติ์ ศิริจรรยา,
ศรัณยู วงษ์กระจ่าง, สันติสุข พรหมศิริ,
สมภพ เบญจาธิกูล,สมศักดิ์ ชัยสงคราม,
โสธร รุ่งเรือง,บงกช คงมาลัย,ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์
เรื่องย่อและรายละเอียดงานสร้าง
“ ซุ้มมือปืน” คือเรื่องราวที่สะท้อนตัวละครที่เกี่ยวข้องในโลกอาชญากร ธุรกิจผิดกฎหมาย อำนาจและอิทธิพลมืด ตัวหนังเองไม่ได้เน้นเรื่องราวไปที่ตัวของมือปืนอย่างเดียวแต่โยงใยไปถึงระบบหรือตัวคนที่เกี่ยวข้องซึ่งล้วนหลากสีสันอาชีพไม่ว่าจะเป็นมือปืนรับจ้าง เจ้าพ่อหรือผู้มีอิทธิพล นักการเมืองและพวกในเครื่องแบบนอกรีตและแตกแถวในสังคมไทย
หนังเล่าเรื่องผ่านสหายแทนไทมือปืนรับจ้าง ( นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช ) อดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ที่ผ่านสมรภูมิรบมานักต่อนักจนว่ากันว่าเป็นมือปืนระดับพระกาฬที่หาตัวจับยาก เป้าหมายของเขาแต่ละรายล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลในสังคม โดยที่หลายคนอาจไม่เคยคาดขึ้นว่าบ่อยครั้งที่จุดเริ่มต้นของความสูญเสียเลือดเนื้ออาจเกิดจากปมความขัดแย้งเพียงจุดเล็ก ๆ ที่ขยายผลไปสู่วงกว้างของผู้คนหลากรายระดับชั้นในสังคม ดังเช่นที่กำลังเกิดขึ้นในครั้งนี้ที่เริ่มต้นจากการไม่ลงรอยในเส้นทางธุรกิจระหว่างกำนันเบิ้ม ( ปื๊ด ธนิตย์ จิตนุกูล )และ หลีเม้ง ( นิรุตติ์ ศิริจรรยา )เจ้าพ่อยาเสพติดรายใหญ่ โดยมีตัวกลางคือชบา ( ตั๊ก บงกช คงมาลัย )อดีตคนรักกำนันเบิ้ม แม่ม่ายสาวที่หน้าฉากคือเจ้าของบาร์ แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังคือคนจัดหามือปืนให้กับผู้มีอิทธิพล ได้รับว่าจ้างให้ส่งมือปืนชั้นดีไปเก็บขาใหญ่แห่งเยาวราชอย่างหลีเม้ง อันนำไปสู่ปมแห่งความขัดแย้งระหว่างผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกเครื่องแบบ ซึ่งเกี่ยวพันและโยงใยไปสู่เสธ.สุพงศ์ ( สมภพ เบญจาธิกูล ) อีกหนึ่งตัวหมากสำคัญในโลกแห่งอำนาจ และอิทธิพลมืด โดยมีอิฐ อัมพวา ( ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ) อดีตทหารหนุ่มอนาคตไกลผู้ผันตัวเข้าสู่วงจรอุบาทว์ และเป็นศัตรูต่างขั้วอุดมการณ์ของสหายแทนไทมาก่อนหน้า
ทุกความเคลื่อนไหวของบรรดาเจ้าพ่อทั้งหลายล้วนตกอยู่ในสายตาของสารวัตรชาติ ( หนุ่ม สันติสุข พรหมศิริ)ตำรวจฝีมือดีที่มีภารกิจในการกวาดล้างงานนอกระบบทุกรูปแบบซึ่งเขาจะเป็นผู้ที่จัดการให้วงจรอุบาทว์เหล่านี้หมดสิ้นไปหรือเลือกที่จะให้โลกของอาชญากรรมที่เต็มไปด้วยอำนาจและเงินตราดังกล่าวคงอยู่ ทั้งนี้และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของ ซุ้มมือปืน ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หรืออยู่ชนชั้นใดของสังคมก็ไม่มีสิทธิ์หลีกเลี่ยง วงจรดังกล่าวที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้าสู่วิธีแห่งการดำรงอยู่ของคุณโดยไม่รู้ตัว ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับ ไอ้น้อย (เต้ ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) เด็กหนุ่มนักดนตรีที่ชะตากรรมต้องกับเลือดและความตาย
เหยื่อ นักฆ่า อิทธิพลแห่งโลกมืด ความตาย และ ซุ้มมือปืน
ด้วยความชื่นชอบเป็นการส่วนตัวของสนานจิตต์ บางสพานในหนังที่นำเสนอเรื่องราวของมาเฟียหรืออำนาจมืดในสังคม จึงเกิดเป็นพล็อตเรื่องซุ้มมือปืนขึ้นระหว่างที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องขังแปด
“ ตัวหนังถูกคิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนทำเรื่องขังแปด มันแวบขึ้นมาว่าเอ๊ะหนังต่างชาติ เขาก็มีการนำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องมือปืนมาทำตั้งเยอะแยะ ของไทยก็มีแต่เรื่อง “มือปืน”ของท่านมุ้ยและโดยส่วนตัวผมชอบดูหนังฝรั่ง หนังจีนที่เกี่ยวกับเรื่องราวของมาเฟียเลยอยากทำหนังมาเฟียแบบไทยๆ แบบมือปืนใส่กางเกงยีนส์ ใส่รองเท้าผ้าใบ สวมเสื้อยืดไปยิงคนด้วย 11 มม. ไม่มีการใช้ปืนไรเฟลแต่ยิงกันแบบดิบๆเลย ขึ้นมอเตอร์ไซด์วิ่งหายไปเลย มือปืนผมไม่มีการใส่เสื้อแจ๊กแก็ตหนังถือปืน 2 กระบอก สามารถกระโดดตัวลอย มีนกพิราบบินอยู่ข้างหลังแต่จะเป็นการซัดกันดิบๆ”
สนานจิตต์ บางสพาน อดีตนักวิจารณ์ที่หันมากำกับภาพยนตร์ถ่ายทอดถึงแรงบันดาลใจถึงผลงานเรื่องที่สองและดูเหมือนว่าเรื่องราวของแก๊งค์สเตอร์สไตล์ไทยๆยังไม่เคยมีใครทำ โดยตัวเรื่องทั้งหมดถูกเขียนขึ้น ในลักษณะนวนิยายหรือ FICTION โดยอาศัยข้อมูลพื้นฐานที่เกิดขึ้นจริงที่หลายส่วนถูกอ้างอิงจากสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เพื่อนำเสนอเป็นภาพยนตร์ในแบบ DRAMA ACTION
“ ฉากหลังหรือภาพที่ต้องการนำเสนอ คือวิถีของคนในโลกอาชญากร คนนอกกฏหมาย การพนันบางอย่างทั้งผิดและถูกกฏหมาย เช่น การแข่งม้า มวย หวย เรื่องราวของมาเฟียผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกเครื่องแบบ”
สำหรับคนที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมด สนานจิตต์ บางสพานกล่าวว่าล้วนเป็นคนที่เคยสัญญาไว้ว่าถ้าเมื่อใดที่เขามีโอกาสได้เป็นผู้กำกับเขาอยากร่วมงานกับคนเหล่านี้อันได้แก่ ฉัตรชัย เปล่งพานิชกับบทของสหายแทนไท อดีตนักศึกษาที่หนีเข้าป่าในยุค 16 ตุลา พอออกมาก็เลือกที่จะเดินในวัฏจักรของมือปืน, ตั้ว ศรันยู วงศ์กระจ่างกับบทอิฐ อัมพวา มือปืนข้างกายนายพลใหญ่แห่งกองทัพบกซึ่งตั้งกลุ่มอาชญากร รับจ้างทวงหนี้ เรียกค่าคุ้มครอง ฆ่าคนและงานทุจริตผิดกฎหมายทุกรูปแบบและสุดท้ายหนุ่ม สันติสุข พรหมศิริกับบทสารวัตรชาติ หนุ่มนายร้อยแต่เป็นตำรวจที่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์และทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองเป็นใหญ่
“ ผมยอบรับว่าตัวละครหลักบางตัวผมเขียนจากคาแรกเตอร์ของตั้ว หนุ่ม นกเลย เป็นคนหนุ่มสามคนที่ผมเคยบอกว่า เฮ้ย ตั้ว หนุ่ม นกถ้าเกิดว่าผมมีโอกาสได้เป็นผู้กำกับ ผมอยากร่วมงานกับพวกเธอคือเห็นพวกเขาทำงานแล้วรู้สึกว่านี่แหละนักแสดงคุณภาพรุ่นล่าสุด นี่แหละที่เขาเรียกว่ามืออาชีพ จากนั้นผมก็คุยกับเสี่ยเจียงเสี่ยก็แนะนำนักแสดงอีกสามคนคือ พี่หนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยาในบทบาทของหลีเม้ง เจ้าพ่อเยาวราช พี่หมู สมภพ เบญจาธิกุลกับบทบาทของเสธ.สุพงศ์ นายทหารระดับนายพลผู้มีอำนาจ สรุปว่าหนังของผมเป็นหนังมาเฟียจริงๆคือได้ขาใหญ่ของวงการบันเทิงมาตั้ง 5 คน ส่วนนักแสดงรุ่นใหม่ก็ได้ตั๊กกับเต้มา เรื่องนี้ตั๊กสลัดภาพเดิมโดยสิ้นเชิงเพราะต้องรับบทเป็นแม่ม่ายสาวกระดังงาลนไฟวัย 30 ปีผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารทุกรูปแบบ ส่วนเต้ผมหมายตาเขาตั้งแต่ตอนที่เล่นเรื่องไอ้ฟักแล้ว ผมเห็นอะไรบางอย่างในตัวเขาและก็มองไม่ผิดจริงๆ”
สนานจิตต์ บางสพานกล่าวถึงความรู้สึกในการร่วมงานกับนักแสดงระดับมืออาชีพว่าเขามีความสุขมาก แม้บางครั้งการทำงานต้องแข่งกับเวลาเพื่อไม่ให้งบประมาณมันบานปลาย แต่ความรับผิดชอบในหน้าที่ของทุกคน เมื่อถึงเวลาทำงานจริงๆทุกอย่างจึงดูราบรื่น
“ ก่อนที่จะเปิดกล้องหนังเรื่องนี้ ผมส่งบทไปให้ทุกคนดูก่อนนั่นหมายถึงว่าถ้าเขารับงานผมเขาต้องเดินตามทางที่ผมวางไว้แล้ว คุณไม่มีสิทธิ์มาแก้บทผม อย่างนก ฉัตรชัยเขามาหาผมที่บ้านเลยนะ มาบอกว่าพี่ตรงนี้มันไม่ได้นะ มันต้องเป็นอย่างนี้ ผมก็บอกว่าบางอย่างผมเชื่อความคิดคุณแต่บางอย่างผมก็ไม่ให้นะ ผมจะเป็นคนทำงานลักษณะนี้ ดังนั้นเวลาทำงานภาคสนามจึงไม่มีปัญหาสักเท่าไหร่เพราะเราทะเลาะกันมาแล้วก็ไม่รู้ว่าทำงานกับวัยรุ่นเป็นอย่างไรแต่ถ้าผมทำงานกับคนวัยนี้แล้วมีความสุข”
หนังเรื่องซุ้มมือปืน สนานจิตต์กล่าวว่าจุดเด่นจะอยู่ที่พลังทางการแสดงของนักแสดงทั้ง 8 คน ( ฉัตรชัย เปล่งพานิช,ศรันยู วงศ์กระจ่าง,สันติสุข พรหมศิริ,นิรุตติ์ ศิริจรรยา,สมภพ เบญจาธิกุล,ธนิตย์ จิตนุกูล ( ผู้กำกับร้อยล้านจากเรื่องบางระจัน),ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์,บงกช คงมาลัย ตัวละครบางตัวถึงจะน้อยฉากแต่มีความสำคัญต่อเรื่อง บางตัวมีแค่ 4 ฉากแต่ถ้าไม่มาก็จะทำให้เรื่องมันเสีย มันมีเงื่อนไขสำคัญกับเรื่องที่ผูกเอาไว้แล้ว ฉะนั้นทางด้านการแสดงจึงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดแต่อุปสรรคที่สำคัญกลับกลายเป็นเรื่องของสภาพดิน ฟ้า อากาศและเรื่องของโลเกชั่นมากกว่า
“ ผมเลือกจุดที่ทำงานยากเยอะ เช่น ป่าโกงกาง ไร่อ้อย สนามม้าหรือสะพานพุทธ คือถึงแม้จะยากแต่เราก็ต้องแลกกับความสมจริงคือเราถ่ายในสถานที่ที่เป็นจริงทั้งหมดเพื่อสร้างอารมณ์ให้กับนักแสดงอย่างฉากที่ไปถ่ายที่ป่าโกงกางทั้งนักแสดง ตากล้องรวมทั้งผมต้องลุยเลน แบกกล้องแบกทุกอย่างเข้าไปที่สำคัญคือป่าโกงกางยังไม่เคยมีหนังไทยเรื่องไหนใช้เป็นโลเกชั่น ถึงจะยากแต่มันก็ออกมาสวยมาก” ดังนั้นในส่วนของโปรดักชั่นดีไซน์ผู้กำกับของเรื่องกล่าวว่าได้บริษัทเติร์ดไดเมนชั่นซึ่งทำโปรดักชั่นดีไซน์ให้กับหนังเรื่องรักน้อยนิดมหาศาลกับทวิภพมาก่อนซึ่งเขาจะคุมทางด้านดีไซน์ทั้งหมด ทั้งฉาก โลเกชั่นและโทนสีเรียกว่าช่วยให้งานโปรดักชั่นสมบูรณ์แบบ100เปอร์เซ็นต์ “ เนื่องจากหนังเรื่องนี้เป็นแนวแอ็คชั่น — ดราม่า สิ่งที่เราต้องการขายคือเรื่องของความสมจริงและสองเรื่องของภาพฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของโปรดักชั่นดีไซน์ ผมเลือกบริษัทเติร์ดไดเมนชั่นซึ่งคุ้มค่ามากครับไม่ผิดหวังเลยที่เลือกมา คือเราจ่ายแพงก็จริงแต่ฝีมือของเขาก็แพงไปด้วย เขาจะคุมหมดเลยครับทั้งโลเกชั่น ทั้งฉากอย่างห้องพักของนก ฉัตรชัยเขาก็ต้องดูให้ตรงกับคาแรกเตอร์ในเรื่องอย่างบ้านของหลีเม้ง โปรดักชั่นเขาก็ไปหาบ้านย่านสำเพ็งซึ่งตัวบ้านมีมูลค่าถึง 28 ล้านบาทเป็นบ้านเก่าแก่อายุเป็นร้อยปี เขาก็เข้ามาเซทเป็นบ้านของหลีเม้งมาต่อเติมให้เป็นบ้านของขาใหญ่เยาวราชคือมันได้อย่างที่เราต้องการหมด บรรยากาศอะไรต่ออะไรมันลงตัวไปหมด”
ผลงานหนังเรื่องที่สองของสนานจิตต์ บางสพานเขาบอกว่าเขาแม่นกว่าเรื่องแรก ( ภาพยนตร์เรื่องขังแปด ) เป็นทั้งวิชามวยและวิชามารรวมทั้งรู้ทิศทางการตลาดขึ้น “ ตอนแรกเสี่ยมีโปรเจกต์ 2โปรเจกต์ให้ผมแต่ผมบอกไปว่าไม่ถนัดก็เลยเสนอเรื่องซุ้มมือปืน เล่าพล็อตเรื่อง ลองตัดตัวอย่างคร่าวๆว่าหนังจะออกมาลักษณะนี้ อารมณ์ประมาณนี้ เสี่ยลองพิจารณาแล้วกันว่าจะขายได้มั๊ยคือทำหนังทุกวันนี้มันต้องดูการตลาดด้วย ถ้าทำหนังเอามันอย่างเดียวก็อยู่บ้านแล้วกันก็ปรากฏว่าเสี่ยซื้อ ก็น่าจะชัดเจนกว่าขังแปดนะ ผมเข้าใจอะไรมากขึ้นในการทำหนัง เข้าใจอุปสรรคหรือข้อจำกัด ถ้าถามผมว่าในฐานะที่ผมเป็นนักวิจารณ์มาก่อน กลัวคำวิจารณ์กลับหรือเปล่า ผมไม่กลัวนะและก็ไม่ได้ระมัดระวังอะไรเป็นพิเศษเพราะผมถือว่าตอนนี้หนังมันเสร็จแล้วจึงถือเป็นสมบัติของคนดู เป็นของนักวิจารณ์ ไม่ใช่ของผม
ตัวตนของเหล่าอาชญากร
สนานจิตต์ บางสพานกล่าวถึงคาแรกเตอร์และนักแสดงในภาพยนตร์เรื่องซุ้มมือปืนว่า “ถือเป็นการชุมนุมเบญจภาคีของนักแสดงระดับแถวหน้าในบ้านเรา ถ้าเปรียบทั้งหมดเป็นพระเครื่องก็เปรียบเหล่านักแสดงอย่างสันติสุข,ศรันยู,ฉัตรชัย,สมภพ,นิรุตติ์ได้กับพระสมเด็จวัดระฆัง,พระซุ้มกอ,พระรอด,พระผงสุพรรณและพระนางพญาในขณะที่ได้นักแสดงสมทบรุ่นใหญ่อย่างโสธร รุ่งเรือง,สมศักดิ์ ชัยสงครามนี่ก็ระดับสุดยอดตั้งแต่อุกาฟ้าเหลือง,มือปืนของท่านมุ้ยโน่นเลย ส่วนนักแสดงรุ่นใหม่อย่างตั๊ก (บงกช คงมาลัย) และเต้ (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) คือรุ่นใหม่ที่ต้องยอมรับในฝีมือ”
ฉัตรชัย เปล่งพานิช รับบทเป็น สหายแทนไท
อดีต พคท.(สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประทศไทย) ซึ่งหนีเข้าป่าในสมัย 6 ต.ค. เป็นนิสิตรุ่นน้องของตั้ว เคยเผชิญหน้ากันในสมรภูมิมาแล้ว หลังป่าแตก สหายแทนไทหายสาบสูญไปจากแวดวงกลุ่มคนตุลา…..แต่ในวงการมือปืนอาชีพ ปรากฎชื่อ “สหายแทนไท” สำหรับงานฆ่าคนที่ว่ากันว่า “เป้าใหญ่” และ “ยาก” ไม่ค่อยมีใครรู้เบื้องหลังหรือที่มาที่ไปของนักล่าคนนี้สักเท่าไหร่ ทุกครั้งที่เขาทำงานเสร็จ มักจะไปเลี้ยงบริจาคอาหารกลางวันสถานสงเคราะห์ผู้พิการทางสมองเสมอๆ
“ สหายแทนไทเป็นหนึ่งในมือปืนของเรื่องนี้เป็นอดีตนักศึกษาที่หนีเข้าไปในป่าแล้วเคยยิงคน ฆ่าคน พอหลังออกมาก็ไม่ได้ไปประกอบอาชีพอื่นแต่เลือกที่จะไปเป็นมือปืน ถือว่าเป็นอีกบทที่ผมไม่เคยเล่นมาก่อนอาจจะเห็นว่าผมเล่นบทผู้ร้าย เป็นมาเฟียแต่ไม่เคยเป็นมือปืนรับจ้างก็เลยรับเล่นครับอย่างน้อยเราก็ได้มาทำการบ้าน ได้ศึกษา ได้รู้จักคนที่เป็นมือปืนอาชีพหลายคนและที่สำคัญยังได้ร่วมงานกับนักแสดงที่มีฝีมืออย่างพี่หนิง ( นิรุตติ์ ศิริจรรยา)พี่ตั้ว ( ศรันยู วงศ์กระจ่าง) หนุ่ม ( สันติสุข พรหมศิริ) พี่ปื๊ดผู้กำกับร้อยล้านจากเรื่องบางระจัน ( ธนิตย์ จิตนุกูล )และได้ร่วมงานกับพี่เตี้ย สนานจิตต์ บางสพานซึ่งเขาเป็นคนที่ให้อิสระทางความคิดแก่นักแสดงมาก บางอย่างเขายอมรับในคำวิจารณ์ของผมซึ่งช่วยให้การแสดงลื่นไหลไปได้ด้วยดี” ฉัตรชัย เปล่งพานิชยังกล่าวอีกว่าเขาพอใจกับการแสดงเรื่องนี้มากเป็นเพราะความสนุกของบท สนุกที่ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำหลายอย่างและได้ทราบมุมมองบางอย่างของคนที่เป็นมือปืน “ ชีวิตจริงเราไม่ได้อยู่คนเดียว โดดเดี่ยว เดียวดาย เราต้องมีเพื่อน มีลูก มีครอบครัว แต่ว่าคนที่เป็นมือปืนชีวิตเขาจะไม่มีใครเลย ซุ้มมือปืนมีอุทาหรณ์สอนใจหลายอย่างคนบางคนอาจจะคิดว่าไปเป็นมือปืนดีกว่า ฆ่าคนตายแป๊ปเดียวก็ได้เงินตั้งเยอะแต่ถ้าเป็นแล้วมันก็จะทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนแปลงไปเลย”
สันติสุข พรหมศิริ รับบทเป็น สารวัตรชาติ
นายตำรวจเรียนดี ฝีมือดีที่จบตรงมาจากสามพราน ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้วิธีการ “นอกระบบ”ได้โดยไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพื่อให้ได้มาซึ่งงาน ภารกิจหลักคือเฝ้าติดตามพฤติกรรม ประวัติและความเคลื่อนไหวทั้งหมดของบรรดาเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลและมือปืนอาชีพ
“ ในเรื่องเป็นตำรวจครับชื่อสารวัตรชาติ ทำคดีฆาตกรรมทั่วไปไม่ค่อยมีเวลากิน เวลานอนเพราะต้องยุ่งกับเรื่องสืบสวน สอบสวนตลอดเวลา ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ลักษณะง่ายๆ ผมยุ่งๆ เสื้อผ้ายับเยิน สูบบุหรี่จัดตลอดเวลาแล้วก็ได้เข้ามาพัวพันกับคดีฆาตกรรม เข้ามาเกี่ยวข้องกับพี่นกตอนหลังก็กลายมาเป็นผู้บงการ เริ่มร้ายขึ้น เรื่องนี้จะบู๊ด้วยคำพูด บู๊ด้วยความเหนือชั้น ไม่ได้ยิงเพื่อการต่อสู้แต่เป็นการเก็บด้วยคำสั่งมากกว่า ไม่ใช่ผู้ชายอยู่ซ้ายผู้ร้ายอยู่ขวาแล้วยิงกันสนั่นแต่ในการยิงแต่ละนัดจะต้องมีเหตุผลไม่มีการยิงทิ้งยิงขว้าง” ความแตกต่างของภาพยนตร์เรื่องซุ้มมือปืน สันติสุข พรหมศิริ พระเอกตลอดกาลที่พลิกบทบาทมาเป็นตำรวจนอกแถวที่มีคาแรกเตอร์แบบกวนๆกล่าวว่า “ที่แน่ๆภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีพระเอก นางเอก ไม่มีดาราคู่ขวัญ ต่างคนต่างเล่นในบทของตัวเอง เป็นหนังที่แต่งขึ้นมาให้เห็นถึงวงการอำนาจของมือปืน อำนาจของตำรวจว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าไปตลอดชีวิตจะต้องมีการหักหลังกันไปมา คนที่ใหญ่ที่สุดเท่านั้นที่คงอยู่”
นิรุตติ์ ศิริจรรยา รับบทเป็นหลีเม้ง
เจ้าพ่อและผู้มีอิทธิพลย่านเยาวราช มีการศึกษาระดับหนึ่ง เติบโตมาในยุทธจักรกับธุรกิจทำบ่อนหวยเถื่อนแต่เกลียดธุรกิจค้าผู้หญิงกับยาเสพติดมากที่สุดว่ากันว่าเขาเป็นเจ้าพ่อที่ยึดพื้นที่ในกรุงเทพมาครองได้อย่างเหนียวแน่นที่สุด
“ หลีเม้งเป็นมาเฟียย่านเยาวราช มีบ่อนการพนันอยู่ในความดูแล บำรุงฐานะจากเงินที่ผิดกฏหมาย ใครที่มาเล่นแล้วติดหนี้ ไม่ใช้หนี้ก็ฆ่าทิ้งไม่สนใจชีวิตของใครต้องการแค่เงินเท่านั้น บุคลิกของหลีเม้งเป็นคนที่มีจิตใจเป็นนักพนันคือมีจิตใจกว้าง รักลูกน้อง รักเพื่อนฝูงแต่คนที่ไม่ใช่พวกก็ไม่มีวันได้อะไรไปจากเขา ผมว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ฆ่ากัน ไม่ได้ชกกันเป็นชั่วโมง แต่บู๊แบบนักเลง ใช้ปืนตัดสินคือพูดไปเงินไม่มาไม่เป็นไร ผมก็จะสั่งให้มือปืนตามเก็บโป้งเดียวจบ”
ศรันยู วงษ์กระจ่าง รับบทเป็นอิฐ อัมพวา
อดีตคนรุ่น 14 ตุลาที่เคยรับราชการทหารแต่ถูกให้ออกเนื่องจากพฤติกรรมส่วนตัวและปมปัญหาทางจิต เขากลายมาเป็นคนสนิทของนายพลแห่งกองทัพบกซึ่งตั้งกลุ่มอาชญากร รับจ้างทวงหนี้ เรียกค่าคุ้มครอง ฆ่าคนและงานทุจริตผิดกฎหมายทุกรูปแบบ
“ ผมเล่นเป็นอดีตนายทหารและลาออกมาประกอบอาชีพมือปืน รับจ้างฆ่าคน บุคลิกจะเป็นคนเจ้าสำอางค์ มีรสนิยมในเรื่องความสวยงามเป็นหลักใหญ่ เป็นมือปืนที่แต่งตัวดีใส่สูทไปฆ่าคน เสื้อผ้าต้องเนี๊ยบดูดี เป็นอีกลักษณะหนึ่งของมือปืนในเรื่องดูภายนอกจะไม่รู้ว่าเป็นมือปืน พูดน้อยหนักไปทางท่ามากและก็โรคจิต ถ้าถามว่าหนังเรื่องซุ้มมือปืนให้ข้อคิดอะไรแก่คนดู ผมว่ามันเป็นเรื่องสะท้อนชีวิต พูดถึงวิถีชีวิตของคนที่เลือกเดินบนถนนสายนี้มันไม่มีความแน่นอน คือไม่ใช่วันนี้เรามีปืน เรามีคนหนุนหลังแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าเราเลือกเส้นทางนี้แล้วชีวิตเราจะรุ่งเรือง มันมีความพลิกผันได้ตลอดเวลา คงชี้ให้เห็นสัจธรรมว่าทุกอย่างมันไม่จีรังยั่งยืน โดยเฉพาะถ้าคุณเลือกเป็นมือปืน เลือกทำงานทุจริตหรือฆ่าคนมันไม่มีวันที่จะมีความสุข นั่นคือสิ่งที่หนังเรื่องนี้ต้องการบอก”
สมภพ เบญจาธิกุล รับบทเป็นเสธ.สุพงศ์
นายทหารระดับนายพลแห่งกองทัพบก ซึ่งมีบุคลิกลักษณะเป็นพวกตัวแสบมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ในโรงเรียนเตรียมทหารและนายร้อย จปร.เมื่อรับราชการก็กลายเป็นทหารมาเฟียหรือผู้มีอิทธิพลและกลายเป็นศูนย์รวมของบรรดาพวกทหารและตำรวจที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ตลอดจนพวกที่ทำตัวเป็นอันธพาลนักเลง ผู้มีอิทธิพล
“ ตอนแรกที่คุณสนานจิตต์ติดต่อผมว่าจะสร้างภาพยนตร์เรื่องซุ้มมือปืน ผมบอกว่าเอาชื่ออย่างนี้เลยเหรอแล้วผมเล่นเป็นตัวอะไร ผู้กำกับเขาก็บอกว่าเล่นเป็นทหารระดับนายพลค่อนข้างมีอำนาจ เป็นคนนิ่งๆเฉยๆ รู้จักกับคนมากเวลาที่มีความเดือดร้อนก็จะมีคนเข้ามาช่วยเหลือ คาแรกเตอร์เรื่องนี้จะยากตรงที่ความเป็นคนนิ่งๆแสดงอารมณ์ทางสีหน้าและแววตา รวมทั้งการเคลื่อนไหวต้องออกมาในรูปแบบของนายทหาร มันจึงยากกว่าคาแรกเตอร์ที่ผมเคยเล่นมาหลายๆเรื่อง ผมว่าบทบาทของทุกคนในเรื่องลงตัวเวลาออกมาเป็นหนังมันจะดูผสมผสานกลมกลืนกันไปหมด เหมือนกับว่าคนคนนั้นอยู่ในเหตุการณ์จริง ไม่เหมือนกับเอาตัวแสดงมาแสดง”
ปื๊ด ธนิตย์ จิตนุกูล รับบทเป็นกำนันเบิ้ม
กำนันที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อคนหนึ่งของเมืองไทย ไต่เต้ามาจากสามัญชนที่วิถีชีวิตหักเหเข้าสู่วงการนักเลงก่อนที่จะโค่นเจ้าพ่อคนเก่า เป็นคนประเภทคำไหนคำนั้น ไม่เบี้ยวทำให้มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับทุกวงการและด้วยเหตุที่เป็นคนฉลาดถึงแม้จะไม่ได้เรียนสูงแต่กำนันเบิ้มก็คือ 1 ในมาเฟียระดับชาติที่มีอิทธิพลและเป็นตัวแปรสำคัญทางการเมือง
“ ผมรับบทเป็นกำนันเบิ้มเป็นมาเฟียท้องถิ่นกำลังขยายอิทธิพลของตัวเองเข้ามาในเมือง เป็นคนจริงใจคิดอะไรก็ว่าไปตามนั้น จริงๆแล้วก่อนหน้านี้เคยรับเชิญเล่นบ้างนิดหน่อยแต่เรื่องซุ้มมือปืนถือว่าบทเยอะที่สุดเท่าที่เคยเล่น อาจจะเป็นเพราะช่วงที่พี่เตี้ยเขาเขียนบทซุ้มมือปืนแล้วเขาเจอผมบ่อยก็คงคิดว่าคนที่เป็นกำนันตามต่างจังหวัดน่าจะมีหุ่นประมาณนี้ ซึ่งผมก็เป็นคนต่างจังหวัดก็เลยไม่ต้องไปฝืนอะไรมาก จริงๆแล้วไม่คิดว่าเขาจะเอาผมไปเล่นแต่พอพี้เตี้ยพูด ผมก็รู้สึกว่าบทมาเฟีย บทกำนันมันท้าทายก็น่าจะลองดูแต่พอเล่นจริงๆแล้วเหงื่อแตกเลย เกร็ง บางทีก็จำบทไม่ได้ ส่วนคำพูดพี่เตี้ยเขาจะบอกผมเสมอว่าคุณอย่าไปดัดแปลงมันมากเดี๋ยวความหมายมันจะหลุดออกไป ผู้กำกับเขาพยายามให้ภาษาในเรื่องดูสมจริงจับต้องได้ เขาคุยกันแบบนี้ ขาใหญ่เขาไม่ต้องพูดกันมาก แค่มองตาก็รู้กัน ซึ่งมันเป็นหนังมาเฟียที่จับต้องได้ ไม่โอเวอร์ตรงนี้ที่ผมคิดว่าเป็นเสน่ห์ของซุ้มมือปืน
บงกช คงมาลัย รับบทเป็นชบา
สาวใหญ่หน้าตาสะสวย มีเสน่ห์ เป็นเจ้าของผับซิตี้ออฟก๊อด เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้มีอิทธิพล คนมีสี เบื้องหลังของเธอคือ เอเยนต์จัดหามือปืนซึ่งรู้กันเฉพาะในหมู่ “ขาใหญ่”และหน่วยงานระดับสูงของสภาความั่นคงและกรมตำรวจเป็นผู้หญิงที่สามารถยืนหยัดท่ามกลางขาใหญ่ทั้งหลาย ด้วยบุคลิกนิ่งๆดำเนินทุกอย่างเป็นธุรกิจในแบบที่พร้อมจะทำได้ทุกอย่าง โดยเนื้อแท้บุคลิกของเธอคือพวก “เอาจริง”และ “แข็ง”ระดับหนึ่งทีเดียว
“ ในเรื่องซุ้มมือปืนตั๊กรับบทเป็นชบา ผู้หญิงวัยประมาณ30ปี ผ่านการมีลูกมาแล้ว สามีจะเป็นมาเฟียแต่พอเราเป็นภรรยาเขาก็มารู้ทีหลังว่าเราเป็นภรรยาน้อยและถูกภรรยาหลวงตามฆ่า เราก็ต้องพาลูกหนีแล้วก็มาทำอาชีพรับจ้างหามือปืน โดยเปิดผับบังหน้า โดยนิสัยของชบาเห็นการฆ่ากันเป็นเรื่องปกติเพราะว่าเราอยู่ในกลุ่มของมาเฟียตั้งแต่อายุประมาณ 16-17 เลยทำให้จิตใจโหดเหี้ยมแบบลึกๆ แต่จะเป็นผู้หญิงเปรี้ยว ชอบสูบบุหรี่” ความน่าสนใจของหนังเรื่องซุ้มมือปืนนางเอกร้อยล้านตั๊ก บงกช คงมาลัยกล่าวว่า “คงเป็นชีวิตของคนที่รับจ้างฆ่าคน ตั๊กเคยเห็นแต่ในหนังสือพิมพ์แต่ไม่เคยเห็นเบื้องหลัง แต่หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังที่รุนแรง เป็นธรรมชาติแต่มีเรื่องราวของอาชญากรอยู่ในนี้ด้วย”
ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ รับบทเป็นน้อย
เด็กหนุ่มนักดนตรีที่มีอดีตเป็นปมหลังสำคัญ ดูเหมือนวิถีชีวิตของเขาถูกกำหนดเอาไว้ทั้งๆที่เขาไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับยุทธจักรนักเลง แต่อาชีพนักดนตรีในผับก็ทำให้เขาเข้าไปเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงในแวดวงของมือปืนอาชีพและอาชญากรอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ คาแรกเตอร์ของน้อยจะเป็นคนที่ค้นหาตัวเองเพราะว่าตั้งแต่เกิดเขาจะไม่ทราบเลยว่าพ่อ แม่เขาคือใคร อาชีพจริงๆของน้อยจะเป็นนักดนตรีในผับของชบา เป็นคนที่ค่อนข้างมีโลกส่วนตัว แต่วันหนึ่งชีวิตเขาก็ต้องเปลี่ยนไป พร้อมกับค้นหาตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าเขาจะใช้ชีวิตแบบนักดนตรีเหงาๆคนหนึ่งหรือจะใช้ชีวิตแบบหลบหนีความจริงอยู่ตลอดเวลาด้วยการเป็นมือปืน
for more infromation
pls contact K.Neung
0-2273-0930-9 ext.136/140
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ