กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--IR network
บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) เป็นปลื้ม!!!หลังตลาดหลักทรัพย์ฯดึงเข้าคำนวณ SET 100 ในรอบ 6 เดือนแรกของปี”58 สะท้อนปัจจัยพื้นฐานแกร่ง อนาคตสดใส เพิ่มแรงจูงใจนักลงทุนต่างชาติ-สถาบัน เพิ่มน้ำหนักลงทุน “พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์”มั่นใจปี”58 รายได้-กำไร ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังลุยพลังงานทดแทนเต็มสูบ คาดเป็นเจ้าของโรงงานไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 140 เมกกะวัตต์ในปีหน้า
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) (DEMCO) เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้คัดเลือกหลักทรัพย์ชุดใหม่เข้าคำนวณในดัชนี SET100 ซึ่งจะมีผลในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2558 (1 มกราคม-30 มิถุนายน 2558) โดยในส่วนของ DEMCO ติดอยู่ในรายชื่อที่ได้รับการคำนวณ สะท้อนให้เห็นว่า เป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตามราคาตลาดรวม (Market Capitalization) สูง มีสภาพคล่องในการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหมายถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ DEMCO จึงทำให้ตัดสินใจเข้ามาถือหุ้น โดยเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะส่งผลให้หุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น สร้างความเชื่อมั่นและความน่าสนใจ รวมทั้งดึงดูดให้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นของบริษัทมากขึ้น
“การที่บริษัทได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณในดัชนี SET 100 ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและรู้สึกภูมิใจ เป็นข่าวดีของบริษัท และเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงความทุ่มเทการทำงานของทีมผู้บริหารและพนักงาน เพื่อนำพาธุรกิจของบริษัทให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าหลังจากถูกนำเข้าคำนวณดัชนี SET 100 จะเพิ่มแรงจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนสถาบันภายในประเทศ เพิ่มน้ำหนักเข้าลงทุนในหุ้นของ DEMCO”นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2558 ว่า จากนโยบายภาครัฐซึ่งสนับสนุนให้มีการลงทุนในพลังงานทดแทน ทั้งโซลาร์ฟาร์ม 1,445 เมกกะวัตต์ โรงไฟฟ้าขยะ 400 เมกกะวัตต์ DEMCO กำลังศึกษาที่จะเข้าลงทุนในโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าขยะรวม 100-200 เมกกะวัตต์ ในระยะเวลา 2 ปี โดยในปี 2558 คาดว่าจะมีการลงทุนประมาณ 70 เมกกะวัตต์จากโครงการโรงไฟฟ้าขยะ 16 เมกกะวัตต์ โซล่าฟาร์ม 50 เมกกะวัตต์ ซึ่งจากแผนลงทุนนี้จะทำให้บริษัทเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 140 เมกกะวัตต์ ในปี 2558 และจะเพิ่มขึ้นอีก 80-100 เมกกะวัตต์ ในปี 2559
“แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2558 คาดว่าจะทำลายสถิติสูงสุดทั้งในด้านรายได้และกำไร โดยในด้านรายได้จะมาจากการขยายขนาดของตลาด บริษัทจะได้ประโยชน์จากการลงทุนด้านสายส่งและสถานีไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ประกาศงบลงทุน 5 ปี มากกว่า 120,000 ล้านบาท การลงทุนจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ปีละกว่า 20,000 ล้านบาท รวมถึงส่วนเพิ่มจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ตามประกาศของกระทรวงพลังงาน 1,445 เมกกะวัตต์ มูลค่าลงทุนมากกว่า 86,000 ล้านบาท สำหรับรายได้จากการลงทุนบริษัทจะรับรู้รายได้ จากการถือหุ้น 15 % ในโครงการพลังงานลมห้วยบง 2,3 รวมทั้งโครงการโซล่าและ โซล่ารูฟ จำนวน 3 เมกกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินปันผล ในปี 2558 จำนวนรวม 195 ล้านบาท”
“ สำหรับเรื่องของ บริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ส์โฮลดิ้ง จำกัด นั้น ทั้งผู้ถือหุ้นและฝ่ายบริหารของบริษัทดังกล่าวได้ร่วมปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันการแก้ปัญหาของบริษัทให้สำเร็จลุล่วงไปโดยเร็ว โดยแนวทางการแก้ปัญหามีทั้ง การปรับโครงสร้างคณะกรรมการ ปรับโครงสร้างการถือหุ้น การเร่งเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์ วัตถุประสงค์เพื่อให้ธนาคารได้รับข้อมูลที่ถูกต้องในการพิจารณาสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมส่วนที่เหลือ ทั้งนี้ คาดว่าช่วงหลังปีใหม่ จะมีความชัดเจนมากขึ้น “ นายพงษ์ศักดิ์กล่าวในที่สุด