HSBC และ WWF-ประเทศไทย ลงนามความร่วมมือพัฒนาพื้นที่ชุ่มน้ำแม่น้ำสงครามตอนล่าง พร้อมทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท ฟื้นฟูระบบนิเวศน้ำจืด สร้างรายได้แก่ชุมชน และอนุรักษ์พันธุ์ปลา

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 22, 2014 10:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--WWF-Thailand ธนาคารเอชเอสบีซี ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านสิ่งแวดล้อมกับกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF-ประเทศไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยกลุ่มเอชเอสบีซี ได้ให้ความสนับสนุนทางการเงินจำนวน 980,000 เหรียญสหรัฐ หรือมูลค่ากว่า 30 ล้านบาทแก่ WWF เป็นเวลากว่า 2 ปี เพื่อขยายการพัฒนาพื้นที่ชุ่มน้ำแม่น้ำสงครามตอนล่าง ณ อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของสัตว์น้ำกว่า 170 ชนิด และเป็นแหล่งอาหารของชุมชนในพื้นที่ถึง 140,000 คน พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย นำโดยนางสาวเซียว เมง แทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายอัษฎาพร วรรณพฤกษ์ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ นายคริส เมอร์เร่ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารความเสี่ยง และนางนีรนุช อุปพัทธวาณิชย์ ผู้บริหารอาวุโส ฝ่ายการเงิน และพันธมิตรจาก WWF – ประเทศไทย ได้แก่ นางสาว เยาวลักษณ์ เธียรเชาว์ ผู้อำนวยการ นายนพรัตน์ เนื่องจำนงค์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและระดมทุน และนายเขมรัช อมรวัตพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ ธนาคารเอชเอสบีซี ได้ให้การสนับสนุน WWF ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ในโครงการ HSBC Global Water Programme เพื่อจัดการกับความเสี่ยงด้านน้ำ การอนุรักษ์ระบบนิเวศ และพัฒนาแผนการจัดการประมงและทรัพยากรน้ำจืดที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นในบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ ประเทศลาว เวียดนาม กัมพูชา และไทย สำหรับประเทศไทย ธนาคารเอชเอสบีซี ได้ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณแก่ WWF ในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ พื้นที่ชุ่มน้ำบึงโขงหลง ห้วยน้ำเมา ปัจจุบันจึงมีการตกลงที่จะขยายขอบเขตพื้นที่การอนุรักษ์ไปยังแม่น้ำสงครามตอนล่างในเขตจังหวัดนครพนม โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อปรับปรุงระบบนิเวศน้ำจืดในพื้นที่เป้าหมายและนำไปสู่การยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนของชุมชน โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินกิจกรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ได้แก่ การติดตามการจับปลา การกำหนดเขตอนุรักษ์สัตว์น้ำ และเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนด้านการตรวจลาดตระเวน ควบคุมเขตอนุรักษ์สัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ และเสริมสร้างจิตสำนึกแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และคำนึงถึงกิจกรรมที่ส่งผลต่อการเชื่อมโยงของระบบนิเวศ “ธนาคารเอชเอสบีซี มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับองค์กร WWF ในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำแม่น้ำสงครามตอนล่าง ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตชุมชนและสร้างสมดุลของสภาพแวดล้อม จากการเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว กลุ่มเอชเอสบีซีจึงได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 980,000 เหรียญสหรัฐหรือกว่า 30 ล้านบาท ในการดำเนินโครงการตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557-2559 ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของเอชเอสบีซีที่มุ่งดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะในด้านชุมชนและสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำร่วมกับ WWF ในโครงการที่ผ่านมา นับว่าประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพึงพอใจ ดังนั้น จึงได้พัฒนาขยายพื้นที่อนุรักษ์เพิ่มเติม เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการพัฒนาพื้นที่ชุ่มน้ำแม่น้ำสงครามตอนล่างจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมในวงกว้าง รวมทั้งเป็นก้าวสำคัญที่จะกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเป็นมิตรและยั่งยืน” นางสาวเซียว เมง แทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าว “ในการขยายพื้นที่การอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ WWF ดำเนินงานร่วมกับจังหวัดและชุมชน เพื่อสร้างจิตสำนึกและความตระหนักแก่ชาวบ้านถึงปัญหาการคุกคามพื้นที่ชุ่มน้ำแม่น้ำสงครามตอนล่าง เช่น การจับสัตว์น้ำมากเกินไป หรือ การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในบริเวณใกล้แหล่งน้ำ โดยเราจะเริ่มจากการทำความเข้าใจกับชาวบ้านและชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการอนุรักษ์ ซึ่งในเขตพื้นที่อื่น ๆ ที่ผ่านมา เราได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ปัจจุบันมีการจัดระบบการบริหารจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นระบบ โดยในครั้งนี้เราเองก็เชื่อว่าจะประสบผลสำเร็จเช่นเดียวกัน” นายยรรยง ศรีเจริญ หัวหน้าโครงการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำอย่างมีส่วนร่วมของชุมชน WWF-ประเทศไทย กล่าว พื้นที่ชุ่มน้ำแม่น้ำสงครามตอนล่าง ถือเป็นแหล่งน้ำสะอาดและแหล่งเพาะพันธุ์ปลาที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตั้งอยู่ในอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม มีเนื้อที่ประมาณ 12,700 ตร.กม. หรือประมาณ 7,937,500 ไร่ แม่น้ำสงครามมีระบบนิเวศที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำโขง จึงทำให้มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และมีความสำคัญต่อความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำโขง โดยมีระดับความลึกของแหล่งน้ำประมาณ 2-5 เมตร และในฤดูน้ำหลากอาจลึกมากสุดถึง 10 เมตร พื้นที่ดังกล่าวมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 140,000 คน จากกว่า 40 ชุมชน และได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ชุ่มน้ำแม่น้ำสงครามตอนล่างในด้านต่าง ๆ อาทิ ใช้เป็นแหล่งอาหาร แหล่งน้ำ ซึ่งก่อให้เกิดความมั่นคงทางด้านสังคม และเศรษฐกิจ “คนทั่วไปอาจจะมองเห็นน้ำเป็นแค่น้ำ แต่สำหรับชุมชนที่อยู่ติดน้ำเเล้ว พวกเขาคิดว่าน้ำเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แท้จริงแล้วความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำจืดมีผลกระทบโดยตรงต่อการดำรงชีวิตของทุกๆชีวิต ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในป่า ริมน้ำหรือแม้กระทั่งในเมือง ความอุดมสมบูรณ์ของพวกเขาก็คือความอุดมสมบูรณ์ของพวกเราเช่นเดียวกัน การอนุรักษ์และความเข้าใจในพื้นที่ชุ่มน้ำ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเราทุกคนจะต้องใส่ใจ” นางสาวเยาวลักษณ์ เธียรเชาว์ ผู้อำนวยการ WWF-ประเทศไทย กล่าวสรุป ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ HSBC Water Programme ได้ที่ www.thewaterhub.org และข่าวเกี่ยวกับการทำงานร่วมกับภาคธุรกิจของ WWF-ประเทศไทยได้ที่www.wwf.or.th/what_we_do/wwfandbusiness/

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ