กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--IR network
“นิพนธ์ เจริญกิจ”เอ็มดีหนุ่มไฟแรง บมจ.เค.ซี.เมททอลชีท (KCM) เจ้าตลาดหลังคาเหล็กในภาคอีสาน-เหนือ ภายใต้แบรนด์ “รถถัง” ประกาศความมั่นใจเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) วันพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง กางแผน 3 ปี ผุดสำนักงานขายขนาดเล็กเพิ่ม 92 แห่ง บุกให้บริการลูกค้าถึงที่ พร้อมก้าวเข้าสู่ธุรกิจอาคารสำเร็จรูปให้เช่า หวังต่อยอดธุรกิจ คาดผลักดันรายได้โตต่อเนื่อง ด้านที่ปรึกษาการเงินมือเก๋า”แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์” เชื่อให้ผลตอบแทนนักลงทุนสุดคุ้ม!!!
นายนิพนธ์ เจริญกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี.เมททอลชีท จำกัด (มหาชน) (KMC) ผู้ผลิตและจำหน่ายหลังคาเหล็กเมททอลชีท ภายใต้แบรนด์ “รถถัง” เจ้าตลาดในวงการหลังคาเหล็กและวัสดุก่อสร้างงานหลังคาและผนังเหล็กในภาคอีสานและภาคเหนือ มั่นใจว่าหุ้น KCM ซึ่งจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในวันพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง และแนวโน้มรายได้และกำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
“เราเตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ประมาณ 252 ล้านบาท ไปขยายธุรกิจ ตามแผนในช่วง 3 ปีข้างหน้า เริ่มตั้งแต่เปิดสาขาเพิ่ม 3 แห่งที่จังหวัดภูเก็ต แพร่ และลำปาง โดยจะมีการลงทุนก่อสร้างตกแต่งและเครื่องจักรบนที่ดินที่บริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว และเตรียมขยายสำนักงานขายขนาดเล็ก 92 แห่ง ในพื้นที่ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นหลัก สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ดาวกระจาย ที่เน้นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น”นายนิพนธ์กล่าว
นอกจากนี้ ยังเตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปลงทุนในธุรกิจอาคารสำเร็จรูปให้เช่าจำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่สาขา 3 จังหวัดคือ ในจังหวัดขอนแก่น 2 แห่ง จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดละ 1 แห่ง และนำเงินไปลงทุนซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิตแปเหล็กกล้ากำลังสูงจำนวน 4 เครื่อง และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานที่ปรึกษาทางการเงินของ KCM กล่าวว่าการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท ในราคาหุ้นละ 1.30 บาท ถือเป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งคาดว่าหลังการเข้าเทรดจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ส่งท้ายสิ้นปี ก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ เนื่องจาก KCM ถือเป็นเจ้าตลาดหลังคาเหล็กในภาคอีสานและภาคเหนือ การขยายสาขาเพิ่มและลงทุนในธุรกิจอาคารสำเร็จรูปให้เช่า เชื่อว่าจะทำให้รายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญและถือเป็นการเตรียมพร้อมรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่คาดว่าจะทำให้ความต้องการใช้หลังคาเหล็กและมีการเช่าอาคารสำเร็จรูปให้เช่ามากขึ้น
นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน มั่นใจว่าหุ้น KCM จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง อีกทั้งมีแนวโน้มการขยายตัวตามทิศทางเศรษฐกิจ การขยายสาขาเพิ่มและลงทุนในธุรกิจอาคารสำนักงานสำเร็จรูปให้เช่า จะช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ปัจจุบัน KCM มีสาขาอยู่ 22 แห่ง กระจายในภาคอีสานและภาคเหนือ ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ อุดรธานี สกลนคร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ นครราชสีมา สระบุรี พิษณุโลก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ฯลฯ ซึ่งในจังหวัดขอนแก่นก็มีถึง 4 สาขาแล้ว ล่าสุดได้ซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อจะทำการเปิดโรงงานแห่งใหม่ มีที่ภูเก็ต ลำปาง แพร่ และเชียงใหม่ โดยที่เชียงใหม่อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างและดำเนินการคาดว่าน่าจะเปิดให้บริการได้ในปลายปีนี้