กระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมโครงการไทยช่วยไทย

ข่าวทั่วไป Thursday July 2, 1998 11:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--2 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ตามที่รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการไทยช่วยไทยขึ้น และมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (คุณหญิง สุพัตรา มาศดิตถ์) เป็นประธานโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมความคิดในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และประสานการดำเนินการจากทุกฝ่ายนั้น ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมในโครงการไทยช่วยไทย 4 โครงการ คือ
1. โครงการการรับบริจาคเงินในต่างประเทศ
1.1 คณะกรรมการไทยช่วยไทยได้มอบหมายให้หน่วยงานของกระทรวงการต่างประเทศในต่างประเทศเป็นหน่วยงานเดียวที่จะเป็นแหล่งรับบริจาคเงินในต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่แจ้งให้คนไทยในต่างประเทศทราบว่า ผู้ที่สนใจสามารถบริจาคเงินเข้ากองทุนไทยช่วยไทยผ่านสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ได้
1.2 ผู้บริจาคเงินอาจระบุกิจกรรมที่ต้องการให้ดำเนินการ หากไม่ระบุคณะกรรมการฯ จะนำไปใช้ในกิจกรรมที่บรรเทาความเดือดร้อนและลดความรุนแรงของผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อประชาชน ทั้งนี้ เมื่อกระทรวงการต่างประเทศได้รับเงินบริจาคแล้วจะได้แจ้งยอดเงินและส่งใฟ้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นระยะ และล่าสุดทราบว่ากองทุนดังกล่าวได้รับเงินบริจาคทั้งจากภายในและภายนอกประเทศผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศโดยกองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้รวบรวม มียอดเงินบริจาค ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2541 ทั้งสิ้นจำนวน 763,730 บาท และ 44,647.64 ดอลลาร์สหรัฐ และ 2,500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
2. โครงการเชิญชวนคนไทยในต่างประเทศซื้อพันธบัตรออมสิน
2.1 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ธนาคารออมสินออกพันธบัตรเพื่อระดมเงินตราสกุลหลักจากผู้ที่ต้องการจะช่วยชาติ เพื่อนำมาเสริมทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ โดยพันธบัตรมีอายุ 3 ปี ออกตราเป็นเงินบาทมีมูลค่าตั้งแต่ 10,000 บาท ขึ้นไป ออกเป็นงวดทุกวันที่ 1 ของเดือน เริ่มตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2541
2.2 กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งประสานงานไปยังสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุล ทุกแห่ง โดยขอให้บุคคลที่สนใจสามารถขอรับใบสมัครได้ที่สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุล ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลหลายแห่งโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และยุโรปว่า คนไทยในต่างประเทศให้ความสนใจสอบถามและสมัครซื้อเป็นจำนวนมาก
2.3 ขณะเดียวกัน ในโอกาสที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกาและพบปะกับคนไทยในกรุงวอชิงตัน นครนิวยอร์ก และนครลอสแอนเจลิส ช่วงเดือนมีนาคม 2541 ได้มีคนไทยจำนวนมากแสดงความสนใจซื้อพันธบัตรออมสิน โดยเฉพาะในนครลอสแอนเจลิส ซึ่งทางสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้อำนวยความสะดวกแก่คนไทยเหล่านี้ ในการรวบรวมใบคำขอฝากซื้อและเงินสด/ดราฟท์ ส่งต่อมายังกระทรวงการต่างประเทศ นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2541 เป็นจำนวนทั้งหมด 330,215.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการจัดส่งเอกสารและหลักฐานการเงินต่าง ๆ ให้แก่ธนาคารออมสินด้วยแล้ว นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก ด้วยว่า สมาคมแพทย์ไทยแห่งสหรัฐอเมริกาได้ซื้อพันธบัตรเงินฝากออมสิน เป็นจำนวน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
2.4 กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากธนาคารออมสินว่า ยอดเงินซื้อพันธบัตรออมสินจากคนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ นับตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2541 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 138,814,206.77 บาท คิดเป็นเงินซื้อพันธบัตรจากต่างประเทศ จำนวน 58,751,035.42 บาท ซึ่งคิดเป็นเงินที่มีการโอนเงินและเรียกเก็บเงินเรียบร้อยแล้วเท่านั้น ทั้งนี้มีบางส่วนกำลังรอเรียกเก็บเงินอยู่
3. โครงการเชิญชวนให้คนไทยในต่างแดนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
3.1 เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่องในประเทศและช่วยเหลือผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กระทรวงการต่างประเทศได้ร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์จัดทำโครงการฯ นี้ โดยในชั้นแรก กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งแผ่นพับ และเทปบันทึกภาพ (วิดีโอ) เกี่ยวกับรายละเอียดโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้คัดเลือกแล้ว ไปยังสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้คนไทยทราบ
3.2 เนื่องจากในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของคนไทยในต่างแดนอาจจะมีข้อจำกัดทางกฎหมาย เช่น กฎหมายไทยไม่อนุญาตให้คนไทยที่สมรสกับคนต่างด้าวซื้อบ้าน/บ้านพร้อมที่ดินได้ หรือกรณีคนต่างด้าวซื้ออาคารชุด ต้องมีหลักฐานการโอนเงินจากต่างประเทศมาชำระ ค่าอาคารชุด ฯลฯ ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมที่ดิน และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย โดยรวบรวมข้อมูลข้อจำกัดจัดส่งไปยังสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ เพื่อให้คำแนะนำแก่คนไทยแล้ว
3.3 โดยที่มีกลุ่มผู้ค้าอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากสนใจจะไปประชาสัมพันธ์โครงการอสังหาริมทรัพย์ยังต่างประเทศ ดังนั้น จากการประสานงานระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ในสหรัฐฯ ได้มีคณะผู้ประกอบการธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เดินทางไปสหรัฐฯ 2 รายคือ
1) กลุ่มผู้ค้าอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 14 บริษัท นำโดยผู้แทนบริษัท Bangkok Management Reality (BM Group) และฝ่ายบริหารการเคหะแห่งชาติ ได้เดินทางไปประชาสัมพันธ์ชี้ชวนในการขายอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งศึกษาตลาดในสหรัฐอเมริกา กลางเดือนมีนาคม 2541 โดยในโอกาสนี้ ได้เข้าพบกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส เพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ และขอรับฟังคำชี้แนะเกี่ยวกับตลาดกลุ่มคนไทยในต่างประเทศ ทั้งนี้ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส แจ้งว่า ยินดีที่จะประชาสัมพันธ์โครงการที่มีการตรวจสอบแล้ว และได้แนะนำให้ทางกลุ่มผู้ค้าอสังหาริมทรัพย์ประชาสัมพันธ์โครงการผ่านสื่อมวลชนท้องถิ่นไทยในนครลอสแอนเจลิส หรือทางเครือข่ายของสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ซึ่งขณะนี้ มีการแพร่ภาพรายการโทรทัศน์ไปทั่วทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และ ออสเตรเลีย
2) สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรร่วมกับบริษัท ERA (Electronic Reality Association) Real Estate ได้เดินทางไปเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ ณ นครลอสแอนเจลิส นครชิคาโก และกรุงวอชิงตันดีซี ระหว่างวันที่ 10-19 เมษายน 2541 ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งว่ามีผู้สนใจเข้าร่วมชมเป็นจำนวนโครงการมาก โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจคือ บ้านเดี่ยว ที่ดินเปล่า และคอนโดมิเนียม โดยทางคณะผู้จัดฯ ได้ทำยอดขายทั้งหมดประมาณ 120 ล้านบาท ทั้งนี้ คณะผู้จัดฯ ได้ให้ข้อคิดเห็นว่า บุคคลที่สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ คือบุคคลที่อยู่สหรัฐฯ ไม่ต่ำกว่า 10 ปี และเริ่มมีฐานะมั่นคง และตั้งใจที่จะกลับมาตั้งถิ่นฐานในเมืองไทย นอกจากนี้ ทางคณะผู้จัดฯ ได้ขอขอบคุณมายังหน่วยราชการที่สหรัฐฯ (สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ฯ) ที่ได้ให้การต้อนรับและดูแลช่วยเหลือเป็นอย่างดี อีกทั้งคณะผู้จัดฯ ยังมีแนวคิดที่จะไปจัดนิทรรศการในลักษณะนี้ในแถบยุโรปอีกด้วย
4. โครงการเปิดบัญชีเงินตราต่างประเทศหรือบัญชีเงินตราของคนไทยในต่างประเทศ
4.1 เป็นการรับฝากเงินตราสกุลเงินต่างประเทศหรือเงินบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ คนไทยที่อาศัยในต่างประเทศและชาวต่างประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย
4.2 ธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาตให้บุคคลสัญชาติไทยเปิดบัญชีเงินฝากต่างประเทศได้โดยยึดหลักเกณฑ์ว่า บุคคลนั้นเป็นข้าราชการไทยที่ทำงานในต่างประเทศหรือเป็นบุคคลสัญชาติไทยที่มีหลักฐานแสดงไว้ว่ามีถิ่นที่อยู่ถาวรในต่างประเทศ
4.3 ในกรณีที่ไม่มีสำนักงานสาขาของธนาคารพาณิชย์ในเมืองนั้น เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่จะเป็นผู้รับรองลายมือชื่อเจ้าของบัญชี และรับรองสำเนาเอกสารประกอบ จัดส่งให้กระทรวงการต่างประเทศส่งมอบให้ธนาคารต่อไป ซึ่งในชั้นต้น กระทรวงการต่างประเทศได้จัดส่งใบคำขอเปิดบัญชีเงินตราต่างประเทศของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ในสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ฯ ต่าง ๆ แล้ว--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ