กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--เนชั่น กรุ๊ป
นายสุทธิชัย หยุ่น ประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ ถึงกรณีที่ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1996) จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 12.27 % ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว และลงทุนในใบสำคัญแสดงสิทธิ (NMG-W3) จำนวน 225 ล้านหน่วย คิดเป็นเงินลงทุนรวม 1,042.32 ล้านบาท โดยระบุว่า บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข้ามาลงทุนของบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งแผนการดำเนินงานของบริษัทขณะนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
นายสุทธิชัย กล่าวต่อว่า เนชั่นกรุ๊ป เป็นสถาบันสื่อ มีหน้าที่นำเสนอข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างรับผิดชอบ และมีจริยธรรม บริษัทจึงขอยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในการถือครองหลักทรัพย์ของบริษัท ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงาน และการทำงานสื่อ บริษัทเนชั่นฯ จะยังคงรักษาจุดยืนของการเป็นสื่อมวลชนที่ดำรงไว้ซึ่งจริยธรรมในการนำเสนอข่าวสาร และทำหน้าที่ตรวจสอบความผิดปกติในสังคม เพื่อผลประโยชน์ต่อสาธารณชน นอกจากนี้ คณะผู้บริหาร ขอให้คำมั่นว่าจะดูแลปกป้องผลประโยชน์ของพนักงาน และ ผู้ลงทุนรายย่อย ให้ดีที่สุด
“ผมเป็นสุภาพบุรุษสื่อ ที่ผ่านมาเนชั่นกรุ๊ป มีนักลงทุนรายใหม่ เข้ามาถือหุ้น ซึ่งเราก็ยินดีต้อนรับ หากไม่เข้ามาแทรกแซงการบริหารงาน หรือมี Conflict of Interest กับการทำงานของสื่อ กรณี บริษัทโซลูชั่น คอนเนอร์ ก็เป็นผู้ถือหุ้นใหม่รายหนึ่ง เราก็ยินดีต้อนรับเช่นกัน และคาดหวังว่า พันธมิตร ผู้ถือหุ้น จะร่วมกันสนับสนุนการทำงานของเครือเนชั่น เพื่อผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ และสาธารณะ” นายสุทธิชัย กล่าว
น.ส. ดวงกมล โชตะนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คณะผู้บริหารสื่อเครือเนชั่น และ พนักงาน ขอยืนยันร่วมกันว่า จะปฏิบัติหน้าที่โดยยึดมั่นจรรยาบรรณของวิชาชีพสื่อมวลชนอย่างเคร่งครัด
“เรามั่นใจว่า สื่อเครือเนชั่นมีโครงสร้างการทำงานที่เข้มแข็ง เป็นมืออาชีพ ในช่วง 10 ปีมานี้ยืนยันได้ว่า ไม่ว่าผู้ถือหุ้นจะเป็นใคร เนชั่นก็ยังสามารถยืนหยัดการทำงานสื่อได้ถูกต้อง นำเสนอข่าวสารอย่างรอบด้าน และเป็นธรรม มาโดยตลอด” กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว