กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--
ครั้งหนึ่งในชีวิต หากมีโอกาสได้ไปเยือนสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ทางศาสนาพุทธสักครั้ง นับเป็นความประทับใจที่ไม่รู้ลืม โดยเฉพาะในรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นดินแดนแห่งพุทธศาสนา อันเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ พุทธคยา ดินแดนที่ถูกขนานนามว่า ชมพูทวีป อันเป็นที่ตั้งของพุทธสถานสำคัญ 1 ใน 4 สังเวชนียสถาน (สถานที่ตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า) วัดนานาชาติ รวมถึงวัดไทย และวัดเวฬุวันมหาวิหาร
สภาพความเป็นอยู่ของคนท้องถิ่น ตามท้องถนนและสถานที่่สำคัญต่างๆ เราจะเห็นขอทานจำนวนมาก จนเรียกได้ว่า เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ แต่นักเดินทางหลายคนกลับรู้สึกชื่นชอบ เพราะเสมือนได้เข้าสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง ความเป็นธรรมชาติ ความเป็นชุมชน ความเป็นคนพื้นเมือง ยังไม่จางหายไปกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในยุคสมัยใหม่ ปัจจุบันมีผู้คนจากทั่วโลกจำนวนไม่น้อยนิยมเดินทางเพื่อไปแสวงบุญ ณ เมืองแห่งนี้ ทำให้สิ่งปลูกสร้างใหม่ที่เราเห็นส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่เกี่ยวกับพุท
ธศาสนา อย่างวัดวาอาราม และไม่ใช่เพียงวัดไทยเท่านั้นที่ไปตั้งอยู่ที่นั่น วัดญี่ปุ่น วัดจีน วัดสิงคโปร์ รวมถึงวัดจากประเทศอื่นๆก็มีเช่นกัน โดยแต่ละวัดจะมีความโดดเด่นด้านสถานปัตยกรรมการตกแต่งที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ เป็นแหล่งรวมของผู้ที่มีจิตศรัทธาในพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน
วัด นับเป็นสถานที่พักยอดฮิตของนักเดินทางที่เดินทางมากที่นี่ สำหรับผู้ที่ไม่่เคยมา อาจคิดว่า ลำบาก อยู่ยาก ไม่สะดวก ไม่ปลอดภัย แต่ทุกอย่างไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพราะวัดไทยที่รัฐพิหาร ส่วนใหญ่จะทำห้องพักไว้เพื่อรองรับนักเดินทางชาวพุทธอยู่แล้ว ดังนั้นจึงมีความสะดวกสบายแบบพอเพียง คล้ายๆกับอพาร์ทเม้นท์ บางวัดอาจใช้ห้องน้ำรวม แต่บางวัดก็มีห้องน้ำภายในห้องพัก โดยแยกห้องพักและห้องน้ำผู้ชาย ผู้หญิง และต้องตามกฎระเบียบของวัดนั้นๆ ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็คงคล้ายกับการที่เราไปถือศีล นั่งวิปัสสนา ในวัดที่เมืองไทย เรียกได้ว่า ใครที่กำลังคิดจะเดินทางไป หายกังวลเรื่องที่พักได้เลย เพราะเดี๋ยวนี้มีการพัฒนาที่พักให้น่าอยู่มากขึ้น สะดวกมากขึ้น
และข่าวดีในเรื่องการเดินทาง ล่าสุด สายการบินเวียตเจ็ท (VietJet) สายการบินจากประเทศเวียดนามได้เปิดเส้นทางบินใหม่ เพื่อบินตรงจากประเทศไทยสู่สนามบินกาย่า รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย พร้อมให้บริการแบบเช่าเหมาลำ ทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น ที่สำคัญราคาไม่แพง นักเดินทางจึงมีทางเลือกเพิ่มขึ้น นับจากนี้ไป จึงเชื่อว่า คนไทยที่ต้องการแสวงบุญหรือต้องการเดินทางเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ เมืองแห่งนี้ เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัวจะสามารถเดินทางไปเยือนได้มากขึ้น
ในทุกทริปของการเดินทางมาเยือนดินแดนที่เรียกว่า ชมพูทวีป นักเดินทางส่วนใหญ่จะมาเพื่อแสวงบุญ ทำความดี และทำบุญร่วมกัน บ้างก็รวบรวมเงินมาบริจาคให้วัดและช่วยเหลือคนในท้องถิ่น บ้างก็ตั้งใจมาวิปัสสนา บวชชีพราหมณ์ บ้างก็มาเพื่อท่องเที่ยวสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่สำคัญๆต่างๆ สำหรับทริปนี้ เป็นการเดินทางมาพร้อมกับมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการดำเนินการ โครงการปลูกต้นไผ่ 1,250 ต้น และฟื้นฟูวัดเวฬุวันมหาวิหารเพื่อถวายเป็นพระพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2557 ณ วัดเวฬุวันมหาวิหาร รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
นายฉัททวุฒิ พืชผล อธิการบดี มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ กล่าวว่า “พิธีปลูกต้นไผ่ 1,250 ต้นครั้งนี้ นับเป็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนาในรอบศตวรรษ เพื่อระลึกถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนาที่มีพระภิกษุ จำนวน 1,250 รูป มาประชุมกันโดยไม่ได้นัดหมาย และยังถือเป็นวันที่พระพุทธเจ้าให้พระธรรมเทศนาโอวาทปาติโมกข์เป็นครั้งแรกที่วัดเวฬุวัน เมื่อ 2,600 ปีที่แล้วอีกด้วย ซึ่งมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์เห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว และต้องการพัฒนาพื้นที่สมัยพุทธกาลที่เคยเป็นสวนไผ่อันร่มรื่นให้ยังคงความอุดมสมบูรณ์ดังเดิม โดยหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฎโฐและหลวงพ่อวิฑูรย์ อาจารสุโภ (ภูตะมี) เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดดังกล่าว และเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่รัฐบาลของรัฐพิหาร เดินทางมาร่วมในพิธีปลูกไผ่ครั้งนี้ด้วย ผมขอแสดงความขอบคุณ นายอูเดย์ นารายัน โชดารี โฆษกแห่งวิธานสภารัฐพิหาร นายพีเค ชาฮี รัฐมนตรีป่าไม้และสิ่งแวดล้อม นายชาวอน กุมาร รัฐมนตรีงานพัฒนาชนบทและรัฐสภา นายบีเนย์ พิหารี รัฐมนตรีศิลปวัฒนธรรม นายเจเว็ด อิ๊คบัล อันซารี รัฐมนตรีการท่องเที่ยว”
แม้ว่า กิจกรรมดีๆหรือพิธีการปลูกไผ่จะสิ้นสุดลง แต่พุทธศาสนิกชนจากทั้งไทยและทั่วโลก ยังคงหลั่งไหลเดินทางเยือนชมพูทวีปอย่างต่อเนื่อง และสักครั้งในชีวิต ในฐานะชาวพุทธ หากได้เดินทางไปเยือนยังสถานที่ที่ถือเป็นจุดกำเนิดของพุทธศาสนา รับรองว่า คุณจะเกิดความประทับใจไม่รู้ลืม และคุณอาจเป็นคนต่อไปที่มีโอกาสได้ร่วมเดินทาง เพื่อตราตรึงภาพความประทับใจดีๆของดินแดนแห่งนี้ ลงในความทรงจำ ครั้งหนึ่งในชีวิต