กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
VUCA หมายถึง สภาวะความผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อนยุ่งเหยิง และคลุมเครือ (มีที่มาจากคำว่า volatility, uncertainty, complexity และ ambiguity) เป็นศัพท์แสงทางยุทธศาสตร์ที่เดิมเคยใช้กันอยู่ใน กองทัพสหรัฐฯ ในช่วงสิ้นสุดสงครามเย็น แต่คำนี้กลับมาฮิตติดชาร์ตใน ช่วงไม่กี่ปีมานี้ หลังเกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ด้วยเหตุที่สามารถสะท้อน ลักษณะของโลกยุคนี้ได้ดี...กระทั่งเชื่อกันว่า VUCA คือ “ความเป็นปกติ แบบใหม่” (New Normal) ของโลกยุคนี้ไปแล้ว
โลกกำลังถูกต้อนเข้าสู่ช่วงรอยต่อแห่งการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง ครั้งสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างดูผันผวนและโกลาหล จนกระทั่งผมคิดว่า ไม่มี ยุคสมัยใดที่การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจจะทำได้ยากเย็นเท่ายุคนี้ สังเกต ได้จากการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจทั้งของโลกและของไทยเอง ที่เกิดขึ้นถี่ยิบผิดปกติ ...เศรษฐกิจโลกหลังวิกฤตใหญ่ปี 2551-2552 ยังคงสร้างแรงกระเพื่อมไม่หยุด ขณะที่ความเชื่อมโยงอย่างซับซ้อนจาก กระแสการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ-การเงินโลก กลายเป็นทั้งช่องทางในการเกื้อหนุนส่งทอดความเฟื่องฟู และแพร่กระจายพิษร้ายของวิกฤตเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเกิดที่ ณ จุดใดๆ ไปได้ทั่วโลก (systemic risk)...ความเสี่ยงทางการเมืองของโลกเพิ่มขึ้นโดยรวม ทั้งจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และความขัดแย้งทางสังคมที่มีรากจากปัญหาความเหลื่อมล้ำจนนำมาสู่กระแสเรียกร้องจากระดับรากหญ้าดังกึกก้องเพื่อขอมีสิทธิส่วนทางสังคม (social inclusiveness) มากยิ่งขึ้น นับจากปฏิวัติดอกมะลิ (Jasmine Revolution) ที่แพร่ระบาดในกลุ่มโลกอาหรับและเอเชียหลายประเทศ เรื่อยไปถึงความเคลื่อนไหว Occupy Wall Street ที่สหรัฐฯ และที่เพิ่งจบ ลงหมาดๆ คือ Occupy Central ที่ฮ่องกง ส่วนของไทย แทบไม่น่าเชื่อว่า เพียงช่วงทศวรรษที่ผ่านมานี้ เราเกิดการรัฐประหารถึงสองครั้ง และ มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลขึ้นมาบริหารประเทศถึงเจ็ดคณะ...ภัยพิบัติทางธรรมชาติจากการเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลก โดยเฉพาะที่
เกี่ยวพันกับน้ำมือมนุษย์ ก็เกิดขึ้นถี่กระชั้น และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจรุนแรงยิ่งขึ้น เช่น กรณีความผิดปกติของสภาพภูมิอากาศจากสภาวะโลกร้อน และวิกฤตน้ำจำได้ว่าเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ของไทยในปี 2554 ทำให้ GDP หดหายไป ถึง
เกือบ 10%...ผมคิดว่าขณะนี้ กระแสการปฏิรูปใหญ่ จะไม่เกิดขึ้นแต่ เฉพาะในประเทศไทย แต่กำลังกลายเป็นวาระสำคัญของทั้งโลกเลยทีเดียว
ในการรับมือกับอนาคตที่เต็มไปด้วยความผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน และคลุมเครือของ VUCA WORLD ปัจจุบัน องค์กรธุรกิจชั้นนำของโลกมีแนวโน้มอาศัยวิธีการที่เรียกว่า “scenario planning” ซึ่งเป็นการ วางแผนโดยอาศัยกระบวนการระดมสมองจากหลากหลายมุมมอง (interdisciplinary) เพื่อการจำลองเหตุการณ์สมมุติที่เป็นไปได้หลายกรณี ขึ้นมา โดยวิธีการนี้ จะช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่น สามารถพร้อมรับกับ ความไม่แน่นอนต่างๆ ได้ดีขึ้น ขณะที่ นักเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่ เริ่มตระหนักว่าความรู้แบบเดิมๆ และเครื่องมือประมาณการเศรษฐกิจที่ล้วนอิงกับข้อมูลอดีต อาจไม่เพียงพอที่จะทำความเข้าใจและคาดการณ์ แนวโน้มโลกใหม่ ที่อยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ และมีการเปลี่ยนแปลงใน ระดับโครงสร้างมากมายจนมองเห็นวัฏจักรไม่ชัดเจน...เราต้องการความคิดที่เป็นระบบยิ่งขึ้น เปิดพื้นที่ให้กับจินตนาการมากขึ้น และเปิดใจ รับความแตกต่างด้านมุมมองและจุดยืนที่หลากหลายยิ่งกว่าเดิม
ไม่ว่าจะปีใหม่อีกกี่ปี เราก็คงต้องอยู่กับ “ความเป็นปกติแบบใหม่” ที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาสที่น่าค้นหา ของโลก VUCA เช่นนี้ต่อไป