กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--โมโน กรุ๊ป
บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ “MONO” เผยแผนธุรกิจปี 2015 เตรียมตัวย้ายเข้าตลาด SET พร้อมเร่งหนุนธุรกิจทีวีดิจิตอลช่อง MONO29 (โมโนทเวนตี้ไนน์) หลังเรตติ้งแซงลิ่วกระตุ้นยอดขายโฆษณาเพิ่ม รวมทั้งแตกไลน์ธุรกิจวิทยุกระจายเสียง เตรียมอวดโฉมต้นปีหน้า ด้านธุรกิจต่างประเทศเห็นรายได้มากขึ้น ควบคู่กับธุรกิจหลักของ MONO อีก 6 ธุรกิจ ทำให้ประเมินรายได้ปี 2015 ทั้งโมโน กรุ๊ป ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
คุณ ซัง โด ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โมโน เทคโนโลยี กล่าวว่า ณ ปัจจุบัน เรามีสภาพคล่อง รวมทั้ง มาร์เก็ตแคปอยู่ในอันดับต้นๆ ของ MAI ทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ มีความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ตลาด SET ในต้นปีหน้าอย่างแน่นอน และตั้งเป้าติด 1 ใน 5 ของกลุ่มมีเดีย-เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ในฐานะบริษัทผู้ผลิตคอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุด
สำหรับแผนธุรกิจของกลุ่มบริษัทในปี 2015 เราแยกออกเป็น 6 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจทีวี, ธุรกิจภาพยนตร์, ธุรกิจเพลง, ธุรกิจโมบาย, ธุรกิจอินเตอร์เน็ต, และธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ รวมทั้งธุรกิจต่างประเทศที่ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่องและมีแผนลงทุนมากขึ้น ปัจจุบันเราได้ดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ อาทิ การขยายฐานการลงทุนไปยังประเทศพม่า โดยเราได้เริ่มทำธุรกิจโมบายกับ Telenor ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ในพม่า สำหรับประเทศจีนเราเป็นผู้ร่วมผลิตคอนเทนต์ป้อนสถานีโทรทัศน์ในมณฑลยูนนานของจีน ซึ่งมีฐานคนดูกว่า 100 ล้านคน ในประเทศเกาหลีใต้เรากำลังรุกหนักในเรื่องของค่ายเพลง โดยเริ่มทยอยปล่อยศิลปินออกมาแล้วภายใต้ค่ายโมโน มิวสิค โคเรีย และในประเทศเวียดนามเรามีธุรกิจ MVAS และ video portal
ในปี 2015 เราจะโฟกัสและให้ความสำคัญกับธุรกิจทีวีและธุรกิจภาพยนตร์เป็นหลัก ที่ผ่านมานับว่าธุรกิจทีวีดิจิตอล (MONO 29) เดินมาถูกทาง โดยมีคอนเทนต์โดนใจผู้ชมจนเรตติ้งขึ้นเป็นอันดับ 3 สำหรับกลุ่มทีวีดิจิตอล และอันดับ 7 สำหรับฟรีทีวีทั้งหมด (รวมอนาล็อคและดิจิตอล) เนื้อหาหลักเป็นหนังและซีรีส์ทั้งไทยและต่างประเทศจากค่ายใหญ่ๆ เช่น Paramount, Warner Bros., Universal, Sony Pictures, Disney, United, พระนครฟิล์ม, เอ็มพิคเจอร์เป็นต้น อีกทั้งมีแผนผลิตซีรีส์ไทยเพิ่มขึ้น จากกลุ่มผู้จัดที่หลากหลาย คาดว่าจะมีการผลิตละครกว่า 12 เรื่องภายในปีหน้า ผลิตภาพยนตร์ประมาณ 4 เรื่อง และนำเข้าภาพยนตร์ต่างประเทศมาฉายในโรงภาพยนต์กว่า 50 เรื่อง ส่วนด้านความพร้อมของสตูดิโอใหม่ย่านชัยพฤกษ์ ก็ดำเนินการแล้วเสร็จกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ พร้อมใช้งานได้ในปีหน้าแน่นอน
สำหรับธุรกิจเพลง นอกจากผลิตและนำเสนอผลงานเพลงคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่องแล้ว เรายังเพิ่มช่องทางการเข้าถึงผู้ฟังผ่านคลื่นวิทยุน้องใหม่ชื่อ “FRESZ 91.5 FM” ซึ่งจะเป็นคลื่นวิทยุที่เปิดเพลงเพราะจากทุกยุค รวมไว้ในหนึ่งเดียว ในรูปแบบ one stop music station ทั้งเพลงไทย เพลงสากล เพลงเอเชี่ยน
ธุรกิจโมบายที่เป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ จะมีการเร่งพัฒนารูปแบบการให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความแปลกใหม่และทันสมัยตลอดเวลา ส่วนธุรกิจอินเทอร์เน็ตบริษัทฯ มีแผนขยายการให้บริการ Online movie streaming ภายใต้แบรนด์ Doonung.com โดยเพิ่มจำนวนภาพยนตร์จากเดิม 7,000 ชั่วโมง เป็น 10,000 ชั่วโมง ขณะเดียวกันจะเร่งโปรโมทเว็บไซต์ Mthai.com เพื่อก้าวสู่เว็บพอร์ทอลอันดับหนึ่งของประเทศไทย
ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ในปี 2015 จะได้เห็นนิตยสารที่หลากหลาย นำเสนอวรรณกรรมจากนักเขียนยอดนิยมทั้งไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้จะเพิ่มยอดพิมพ์นิตยสาร Campus Star ให้เป็นนิตยสารฟรีก็อปปี้ที่มียอดพิมพ์สูงที่สุด เพื่อเพิ่มความสะดวกและขยายฐานผู้อ่านให้มากขึ้น เราจึงได้พัฒนาเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น MBookstore.com เป็นรูปแบบการให้บริการอ่านหนังสือได้ไม่จำกัด ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในต้นปีหน้า
ในปี 2015 การเติบโตของรายได้หลักมาจากโฆษณาทีวี ปีนี้ค่าโฆษณาเฉลี่ยขายที่นาทีละ 5,000 บาท และในปีหน้าจะขายที่ราคาเฉลี่ยนาทีละ 25,000 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าและต่ำมากเมื่อเทียบกับช่องอนาล็อคเดิมและช่องทีวีดิจิตอลอันดับต้นๆ ทั้งนี้จะทำให้รายได้ทั้งกลุ่มบริษัทฯ เติบโตจาก 1,500 ล้านบาท เป็นกว่า 3,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตกว่า 100% โดยธุรกิจโมบายจะมีรายได้คิดเป็น 43% ธุรกิจทีวี 32%ธุรกิจอินเตอร์เน็ต 8% ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ 5% ธุรกิจภาพยนตร์ 4 % ธุรกิจเพลง 3% และอื่นๆ 5%” คุณซัง โด ลี กล่าวทิ้งท้าย