กรุงเทพ--30 มิ.ย.--กระทรวงสาธารณสุข
โรงพยาบาลลำปาง พัฒนาระบบบริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน โดยได้เปิดหน่วยกู้ชีพ รับแจ้งเหตุพร้อมออกไปช่วยชีวิต ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเดินทางไปสู่จุดเกิดเหตุ ภายใน 5 นาที ประชาชนสามารถโทรแจ้งเหตุได้ที่หมายเลข 1669 และ 217045
เช้าวันนี้ พลเรือตรีนายแพทย์วิทุร แสงสิงแก้ว ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดหน่วยกู้ชีพ โรงพยาบาลลำปาง ซึ่งตั้งอยู่ที่ตึกอุบัติเหตุและฉุกเฉินของโรงพยาบาลลำปาง เป็นหน่วยบริการรักษาพยาบาลที่จะออกไปช่วยชีวิตประชาชน ที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือผู้ป่วยฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว และนำส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลำปางได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจังหวัดลำปางนั้นนับเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีอุบัติเหตุ ค่อนข้างสูงในปีที่ผ่านมามีรายงานบาดเจ็บ 13,718 ราย โดยกว่า 60% เกิดจากรถจักรยานยนต์
สำหรับหน่วยกู้ชีพนี้ จะมีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความชำนาญ พนักงานกู้ชีพจากมูลนิธิภาคเอกชนที่ผ่านการอบรมรักษาพยาบาลแล้ว พร้อมทั้งรถพยาบาลฉุกเฉินชนิดพิเศษ ซึ่งมีอุปกรณ์การแพทย์ครบครัน จำนวน 2 คัน พร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุภายใน 5 นาที โดยประชาชนสามารถโทรศัพท์แจ้งเหตุโดยตรงที่หมายเลข 1669 และ 217045 หรือทางวิทยุรับส่งคลื่น 155.675 เมกกะเฮิร์ด และหน่วยกู้ชีพนี้ ยังให้บริการผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินที่มีอาการหนัก เช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจ เป็นต้น
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายที่จะพัฒนาระบบการรักษาพยาบาลประชาชน ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุก่อนถึงโรงพยาบาลให้ครบทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมใหม่สำหรับประเทศไทย ในการรองรับปัญหาอุบัติเหตุและผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยมีเป้าหมายจะลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยดังกล่าวได้ไม่ต่ำกว่า 10%
ทั้งนี้ที่ผ่านมา กรณีเกิดอุบัติเหตุขึ้น ผู้บาดเจ็บที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลร้อยละ 80 มักไม่ได้รับการดูแลรักษาระหว่างทาง ซึ่งส่วนใหญ่นำส่งโดยมูลนิธิภาคเอกชน ซึ่งเป็นเพียงการขนย้ายเพื่อนำส่งโรงพยาบาล จึงเป็นเหตุให้ผู้บาดเจ็บต้องเสียชีวิตระหว่างทางมากถึงร้อยละ 14-40 ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุข จึงมีนโยบายให้ทุกจังหวัดร่วมมือกับภาคเอกชน โดยเฉพะอาสาสมัครมูลนิธิต่างๆ โดยจัดอบรมการปฐมพยาบาลและการขนย้ายที่ถูกต้องอันจะเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บให้ได้ความปลอดภัยยิ่งขึ้น เป็นการระดมทรัพยากรมาใช้ประโยชน์ร่วมกันในการจัดบริการประชาชน--จบ--